วันที่ 19 ก.ย.66 นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษา กมธ.กฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางไปที่สโมสรตำรวจ เพื่อสนับสนุนในนามของภาคประชาชน พร้อมยื่นเอกสารประกอบตรวจสอบบริษัท เกี่ยวกับการฮั้วประมูล และเกี่ยวกับการรับส่วยของเจ้าหน้าที่คดีกำนันนก เพื่อให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พิจารณา ดำเนินการเป็นข้อมูล และดำเนินการตรวจสอบ ยึดทรัพย์ กำนันนก และเครือข่ายต่อไป โดยมีตัวแทน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นผู้รับมอบ 

นายสนธิญา กล่าวว่า วันนี้ตนมายื่นซ้ำให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ทราบ 3 ประเด็นด้วยกัน คือ ประเด็นที่ 1 มายื่นเพื่อให้กำลังใจ เนื่องจากเรื่องนี้ท่านได้ดำเนินการเกี่ยวกับสืบสวนสอบสวนค่อนข้างครบถ้วน เนื่องจากคดียิงสารวัตรศิว และมีตำรวจอีกท่านหนึ่งบาดเจ็บไม่มีอะไรซับซ้อน เพียงแค่ว่าตำรวจ 29 นาย หรือชาวบ้านนั่งอยู่ในงาน การสอบสวนขณะนี้มีกล้องวงจรปิดชัดเจนแล้ว ประเด็นต่อมาคือประเด็นที่ตนเคยเรียกร้องมาตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 29 คน นอกจากมีคำสั่งให้ย้ายไปแล้ว แต่ตนต้องการให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ไปก่อน ถึงแม้ว่าจะย้ายไปอยู่ส่วนกลางแล้วก็ตาม ทั้งนี้อีก 2 วันตนจะไปยื่นให้ผู้บัญชาการตำรวจสอบส่วนกลางพิจารณาให้ตำรวจ 29 นายหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส่วนอีกประเด็นที่มายื่นอาจจะซ้ำกับดีเอสไอ กรณีบริษัทหนึ่งตั้งอยู่ในจ.ราชบุรีแต่ไปประมูลงานที่จ.สมุทรสาคร ต้องการให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ตรวจสอบว่าบริษัทนั้น เป็นคู่ร่วมประมูลร่วมกับบริษัทกำนันนกหรือไม่เนื่องจากตรวจสอบพบความผิดปกติ เรื่องของการลดราคาการประมูล

นายสนธิญา เผยอีกว่า ส่วนกรณีการประมูลงานของกำนันนก 1,544 โครงการ ถ้าคิดเป็นความยาวบนท้องถนนเท่ากับอ.แม่สาย จ.เชียงราย รวมไปถึง อ.เบตงจ.ยะลา ไปกลับไม่ต่ำกว่า 6 เที่ยว หมายความว่ากำนันนกประมูลงานได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 กว่ากิโลเมตร ตนไม่เชื่อว่าบริษัทกำนันนกที่ประมูลได้ทำด้วยตนเอง ตนอยากจะเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย

ส่วนประเด็นแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (18 ก.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตนมองว่า ผู้บัญชาการตำรวจสอบส่วนกลางอาจจะต้องมีการปรึกษากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามคดี ตนตามคดีนี้มาตั้งแต่เกิดเรื่อง หลังจากนั้นมีการยื่นหนังสือตามลำดับปัจจุบันยื่นไปแล้ว 4 ฉบับ  นอกจากนี้นายสนธิญายังได้กล่าวทิ้งท้ายหลังจากที่ผู้สื่อข่าวถามว่าเชื่อหรือไม่ ว่ากำนันนกคือตัวจริงที่โดนจับไป นายสนธิญาก็ได้ตอบว่า ส่วนตัวไม่เชื่อเพราะคิดว่าแววตาไม่เหมือนแต่สุดท้ายก็ต้องเชื่อในผลทางนิติวิทยาศาสตร์และกระบวนการตรวจสอบลายนิ้วมือรวมถึงผลเลือดด้วย