ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ประเมินตลาดผู้บริโภคกลุ่มสูงวัย หรือ Silver Gen เติบโตสูงเฉลี่ยปีละ 4.4% มีแนวโน้มแตะ 2.6 ล้านล้านบาท คิดเป็น 12% ของเศรษฐกิจไทยในอีก 7 ปีข้างหน้า แนะผู้ประกอบการเตรียมพร้อมรับมือ และสร้างโอกาสทางธุรกิจ ชี้ “5 เทรนด์ธุรกิจมาแรง” ตอบโจทย์ Silver Gen  ทั้งอาหาร ท่องเที่ยว การดูแลสุขภาพ ที่อยู่อาศัย และบริการการเงินเพื่อผู้สูงอายุ

ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า สังคมสูงวัยเป็นโจทย์ใหญ่ของรัฐบาล กดดันฐานะทางการคลังของประเทศ จากภาระค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการ และด้านสาธารณสุขที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรายจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่สูงถึง 9 หมื่นล้านบาท ในปีงบประมาณ 2567 เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ที่ใช้งบ 6 หมื่นล้านบาท และอาจเพิ่มขึ้นแตะ 1.3 แสนล้านบาท ในปี 2572 หรือเพิ่มขึ้น 44% จากงบปี 2567 นอกจากนี้ยังกระทบกำลังแรงงานที่มีแนวโน้มลดลง อาจส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาว

อย่างไรก็ตามการเพิ่มขึ้นของประชากรสูงอายุ ทำให้เกิดระบบเศรษฐกิจใหม่เรียกว่า “เศรษฐกิจสูงวัย “ หรือ “Silver Economy” ซึ่งปัจจุบันทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 26.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 880-900 ล้านล้านบาท คิดเป็น 26.6% ของมูลค่าเศรษฐกิจทั่วโลก ขณะที่มูลค่าตลาดผู้บริโภคกลุ่มผู้สูงวัยหรือ Silver Gen ของไทย มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยปีละ 4.4% และคาดว่าจะแตะระดับ 2.6 ล้านล้านบาท คิดเป็น 12% ของมูลค่าเศรษฐกิจไทย ในปี 2573 หรืออีก 7 ปีข้างหน้า นับเป็นความท้าทายสำคัญของภาคธุรกิจไทยในการเตรียมความพร้อมรับมือและคว้าโอกาสจากกลุ่ม Silver Gen  ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่น่าสนใจ เพราะมีศักยภาพด้านการเงิน พร้อมจับจ่ายใช้สอย

น.ส.วีระยา ทองเสือ นักวิเคราะห์  ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทยกล่าวว่า จากการที่ ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด (Super-Aged Society) โดยมีสัดส่วนประชากรที่อายุ 65 ปีขึ้นไปเกินกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด ภายในระยะ 5-6 ปีข้างหน้า และแนวโน้มค่าใช้จ่ายของกลุ่ม Silver Gen ที่เพิ่มขึ้นจึงมองว่า 5 เทรนด์ธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงคือ 1.อาหารสำหรับผู้สูงอายุเช่น ธุรกิจผลิตอาหารและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 2.การท่องเที่ยวสำหรับผู้สูงอายุ ทั้งบริการนำเที่ยว และโรงแรม 3.การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน 4.ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ 5.บริการทางการเงินเพื่อผู้สูงอายุ ทั้งการให้คำปรึกษาและผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆจึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการ ทั้ง SME และธุรกิจขนาดใหญ่ ที่จะสร้างโอกาสเติบโนจากกลุ่มธุรกิจเหล่านี้

สำหรับภาครัฐบาล จำเป็นต้องดำเนินนโยบายที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงในการขาดแคลนแรงงาน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ  โดยศึกษาตัวอย่างของรัฐบาลต่างประเทศมาประยุกต์ให้เข้ากับบริบทของประเทศไทย   ซึ่งมีแนวทาง ดังนี้  1.กระตุ้นให้ประชาชนมีลูกเพื่อแก้ปัญหาอัตราการเกิดต่ำและปรับเปลี่ยนโครงสร้างอายุประชากรในระยะยาว ผ่านการเพิ่มเงินอุดหนุนและสวัสดิการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการมีบุตร  2. ขยายอายุเกษียณและสนับสนุนการจ้างงานผู้สูงอายุ เพื่อให้มีกำลังแรงงานในระบบเศรษฐกิจต่อไป เช่น ญี่ปุ่นปรับอายุเกษียณอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2564 กำหนดอายุเกษียณเป็น 70 ปี และ 3. ยกระดับสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุผ่านกองทุนประกันสังคม ประกันสุขภาพ และระบบบำนาญ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนกลุ่ม Silver Gen