วันที่ 13 ก.ย.66 เวลา 06.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรภาค 7 ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม และตำรวจกองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เปิดปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมายบริษัทและกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่เชื่อมโยงกับคดีนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก กำนันตำบลตาก้อง ทั้งหมด 15 จุดใน จ.นครปฐม แบ่งเป็น อำเภอกำแพงแสน 2 จุด อำเภอเมือง 13 จุด
โดยหนึ่งในเป้าหมายเป็นบ้านในหมู่ 2 ซอยวัดทุ่งรี ต.ทัพหลวง อ.เมือง จ.นครปฐม ของนายศักรินทร์ หรือกำนันเต้ง คนสนิทของกำนันนก ลักษณะเป็นบ้านทรงโมเดิร์น 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด ติดตั้งกล้องวงจรปิด 2 ตัวหน้าบ้าน ชานบ้านและหลังคาบ้านอีกจุดละ 1 ตัว รวมทั้งหมด 4 ตัว ภายในแบ่งพื้นที่เปิดเป็นร้านรับส่งพัสดุเอกชน มีรถยนต์บีเอ็มดับบลิวสีขาวป้ายแดงจอดอยู่ที่โรงรถ 1 คัน และรถจักรยานยนต์จอดอยู่อีก 1 คัน โดยมีชายคนหนึ่ง ซึ่งทราบว่าเป็นลูกน้องของเจ้าของบ้าน แสดงตัวเป็นผู้นำเจ้าหน้าที่ตรวจค้น พบปืนสั้นอัตโนมัติ 3 กระบอกในตัวบ้าน มีทะเบียนและใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย
สอบถามชาวบ้านในพื้นที่เปิดเผยว่า บ้านดังกล่าวพอตกค่ำมืดก็เงียบ ไม่ค่อยมีคนเข้ามาหาหรือจัดปาร์ตี้อะไร โดยตัวเจ้าของบ้านก็ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ต่างคนต่างอยู่ ช่วงเช้าเห็นว่าจะส่งลูกไปโรงเรียนตามปกติ ส่วนอาชีพอื่นนอกจากเปิดกิจการรับส่งพัสดุนั้นไม่ทราบ แต่ถือว่าค่อนข้างมีฐานะดีกว่าชาวบ้านในพื้นที่เดียวกัน
ด้าน น.ส.สุกัญญา อายุ 39 ปี ลูกพี่ลูกน้องนายศักรินทร์ หรือกำนันเต้ง เดินทางเข้ามาตรวจสอบพร้อมเผยว่า กำนันเต้งไม่ได้อยู่ที่บ้านนี้นานแล้ว เพราะเขามีภรรยาหลายคนเลยซื้อบ้านไว้หลายหลังและเปิดทำธุรกิจหลายประเภท ยืนยันว่าเจ้าตัวไม่เกี่ยวข้องและไม่รู้จักกับกำนันนก เพราะไม่ได้ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหรือเป็นนายหน้าที่ดิน แต่ทำธุรกิจรถสไลด์ เคยเปิดให้บูชาไอ้ไข่ โดยตอนนี้ค้าขายอาหารอยู่ต่างจังหวัด
ขณะที่นายศักรินทร์ หรือกำนันเต้ง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวผ่านโทรศัพท์ โดยยืนยันว่าไม่รู้จักกับกำนันนก ไม่เคยฮั้วประมูลอะไรด้วย ตอนนี้เปิดร้านอาหารอยู่ประเทศกัมพูชา ยอมรับว่าเคยมีคดีฆ่าคนตายเมื่อ 10 ปีก่อน แล้วพ้นโทษได้ 5 ปีถึงมาครอบครองปืนที่ตำรวจพบ ทั่วไปคนอาจจะมองว่าตนไม่ดี แต่ถ้าไปถามชาวบ้านก็น่าจะทราบว่าตนเป็นคนดี ส่วนคำว่ากำนัน ตนไม่ได้รับราชการ แต่เคยติดคุกมาก่อนและคนในคุกก็เรียกกันเองเพราะว่ามักดูแลช่วยเหลือผู้อื่น