วันที่ 12 ก.ย.66 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เป็นประธานเปิดร้านสวัสดิการ ภ.จว.เชียงราย ชื่อร้าน "ปันรักษ์ เจียงฮาย" สาขาที่ 5 โดยตั้งอยู่สี่แยกสถานีสถานีตำรวจ ต.เวียง อ.เมืองเชียงราย โดยมี พระไพศาลประชาทร วิ. (พบโชค ติสฺสวํโส) หรือ "หลวงพ่อพบโชค" เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง อ.เมือง จ.เชียงราย  และทาง พล.ต.ต.ดุลเดชา อาชวะสมิตระกูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย นางสุมนา กิตติประภัสร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจพร้อมผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมครบครัน 

ซึ่งทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้มอบโอวาทในการปฏิบัติหน้าที่ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจใน ภ.จว. เชียงราย จากนั้นได้เยี่ยมชมการจำหน่ายสินค้าของร้านสวัสดการพร้อมให้โอวาทกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและแม่บ้านตำรวจได้ช่วยกันบริหารจัดการให้ดี ใส่ใจในคุณภาพเพื่อให้เป็นร้านค้าที่ได้มาตรฐานต่อไป

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ยังได้กล่าวถึงกรณี พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2 บก.ทล.ได้เสียชีวิตภายในบ้านพักพร้อมอาวุธพกสั้น หลังจากมีการดำเนินคดีกับนายตำรวจจำนวน 6 นาย ในคดีคนร้ายยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ทล.1 กก.2 ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของ พ.ต.อ.วชิรา เสียชีวิตในงานเลี้ยงในบ้านของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ "กำนันนก" ที่ ต.ตาก้อง จ.นครปฐม ว่าทางนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ตรวจสอบเรื่องนี้ให้กระจ่างโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในหมู่ประชาชน โดยเฉพาะเข้าใจกันว่าเป็นการฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัดตอน 

ตนได้สั่งการให้ ผบช.ภ.1 ไปดูสถานที่เกิดเหตุและรวบรวมข้อมูลหลักฐานอย่างชัดเจน มีการตรวจชันสูตรหลักฐานจากแพทย์นิติเวช เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) พนักงานสอบสวนและพนักงานสืบสวน ทั้งจากตำรวจในพื้นที่และระดับ ภ.1 รวมทั้งได้ตรวจช่วงเวลาหรือไทม์ไลน์ของ พ.ต.อ.วชิรา จนได้ข้อสรุปเบื้องต้นแล้ว

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ไทม์ไลน์ของทาง พ.ต.อ.วชิรา ได้เริ่มต้นด้วยการรับประทานอาหารกับเพื่อน และจากการสอบถามเพื่อนๆ ทราบว่ามีความเครียดและรับประทานอาหารไม่ลง เนื่องจากกรณี พ.ต.ต.ศิวกร ที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาได้เสียชีวิตและยังมีข่าวสารอื่นๆ อีก ทำให้เพื่อนๆ ชักชวนให้พักที่โรงแรมก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน แต่เจ้าตัวก็ออกจากโรงแรมตอนประมาณ 04.00 น.นั่งรถแท็กซี่ส่วนบุคคลไปถึงบ้านพักที่เกิดเหตุในเวลา 04.51 น.จากนั้นคาดว่าลืมกุญแจไว้ จึงได้ปีนรั้วเข้าไปในบ้านพักและกดรหัสเข้าไปในบ้าน ก่อนที่ในอีก 4 นาทีจะมีเสียงปืนดังขึ้นจำนวน 1 นัด และช่วงสายทางผู้ใต้บังคับบัญชาและเพื่อนๆ ติดต่อไม่ได้จึงไปดูที่บ้านพักก็พบว่าเสียชีวิตแล้วดังกล่าว

ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุจากหน่วยงานต่างๆ ดักล่าวไม่มีร่องรอยใดๆ ไม่มีคนเข้าไปยุ่งเกี่ยวก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบด้านเขม่าดินปืนด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยจาก พฐ.พบคราบเขข่ม่าดินปืนในมือของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ข้าง จึงได้จำลองเหตุการณ์ว่าได้ว่ามีการใช้มือขวาถือปืนของตัวเองยิงโดยใช้มือซ้ายประคอง ดังนั้นด้วยหลักฐานทั้งหมดดังกล่วาจึงสรุปได้ว่าน่าเชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย โดยการยืนยันจากหลักฐานในที่เกิดเหตุและทางนิติวิทยาศาสตร์ที่มีความสอดคล้องต้องกัน ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุทาง พ.ต.อ.วชิรา ได้บ่นอีกว่าเขารู้สึกเสียใจที่ พ.ต.ต.ศิวกร เสียชีวิตและขณะเกิดเหตุที่ จ.นครปฐม ก็ไม่ได้เอาปืนลงไปด้วยเพราะเป็นงานเลี้ยงแต่หลังมีการยิง พ.ต.ต.ศิวกร แล้วเขาเองเป็นคนพาคนบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล และจากคำให้การของ พ.ต.อ.วชิรา หลังจากนั้นก็ยืนยันว่าคนที่ยิงคือนายหน่องนั่นเอง 

พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับความคืบหน้าในคดีได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ดำเนินการ แต่ในขั้นนี้ยังไม่มีการขออนุมัติหมายจับใครเพิ่มเติมและกรณีเครื่องเก็บข้อมูลกล้องวงจรปิดในบ้านหรือเซิฟเวอร์นั้นยืนยันว่าเปิดได้แล้ว และมีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนเพื่อตรวจสอบแต่จะเปิดภาพให้ดูได้หรือไม่จะต้องดูในรายละเอียดก่อนต่อไป 

ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 2 รายนั้น ตนรู้สึกเสียใจและไม่อยากให้เกิดกับผู้ใต้บังคับบัญชาอีก ส่วนกรณีที่มีการโพสต์ข่มขู่เจ้าหน้าที่นั้นได้สั่งการให้ ภ.7 ตรวจสอบพบว่าเป็นพวกอวตารแต่ก็จะได้ตรวจสอบต่อไป หากพบตัวก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที