“ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รัฐมนตรีว่าการกระทรงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ กำชับชลประทานให้ช่วยเร่งระบายน้ำที่ยังท่วมขังบางจุด ลงลำน้ำชี เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนที่อาจตกลงมาอีก พร้อมกำชับช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตถูกกระแสน้ำพัด


เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 8 กันยายน 2566  ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน และคณะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งนั่งเฮลิคอปเตอร์ลงสนามกีฬาวิทยาลัยการอาชีพห้วยผึ้ง  อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ โดยจุดแรกลงพื้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยผึ้งติดตามภารกิจช่วยเหลือค้นหาผู้สูญหาย

และให้กำลังใจครอบครัวสายหยุด ที่สูญเสียนายภัทรเดช สายหยุด อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 13 บ้านห้วยฝา ต.นิคมห้วยผึ้ง  อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ ที่ถูกกระแสน้ำพัดจมน้ำเสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา กระทั่งทีมกู้ภัยค้นพบร่างช่วงเช้าวันนี้ ห่างจากจุดที่พลัดตกฝาย ประมาณ 2 กิโลเมตร โดยมีนายสำเริง ม่วงสังข์ รองผวจ.กาฬสินธุ์ พ.อ.กฤตติภูมิ หอมหวน รองผอ.รมน.กาฬสินธุ์ นายประเสริฐ บุญเรือง ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 6 นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายกอบจ.กาฬสินธุ์ นายชาณญ์ บุตรวงศ์ นายอำเภอห้วยผึ้ง  นายทินพล ศรีธเรศ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 5 นายเทียรชัย ประเมลัย หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 2 โครงการชลประทานกาฬสินธุ์ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

 


ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังได้จุดธูปคาราวะศพผู้เสียชีวิต พร้อมมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต และกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือครอบครัวต่อไป ก่อนที่จะพบปะกับประชาชน พร้อมมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัยเขตอำเภอห้วยผึ้ง รวมทั้งสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางปรับปรุงแก้ไขอ่างเก็บน้ำห้วยผึ้ง เพื่อให้ประชาชนสัญจรผ่านไปมาไม่เกิดอันตรายและรองรับน้ำให้ได้มากที่สุด


จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำท่วมใน อ.กุฉินารายณ์ และไปยังวัดบูรพาเทพนิมิต ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ มอบถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยรวมกว่า 350 คน ซึ่งเป็นผู้ประสบอุทกภัยจาก 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกุฉินารายณ์  อำเภอเขาวง และอำเภอนาคู โดยมีนายประเสริฐ บุญเรือง ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 6 นายจำลอง ภูนวนทา ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 3  นายวีรดนย์ ศิริ นายอำเภอกุฉินารายณ์ นายธนเสฏฐ์ ชัยสงครามธนทัต นายกเทศมนตรีเมืองกุฉินารายณ์ นายภูมินทร์ ภูมิเขตร ส.จ.อำเภอกุฉินารายณ์ นางสาววิภาวี บุญเรือง นายกเทศมนตรีตำบลกุดสิม พร้อมด้วยส่วนราชการให้การต้อนรับและร่วมมอบ


ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จาการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอห้วยผึ้ง , อำเภอกุฉินารายณ์ , อำเภอนาคู และอำเภอเขาวง ล่าสุดสถานการณ์เริ่มคลีคลายมากแล้ว ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยประชาชน และสั่งการให้ตนลงมาติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด และเร่งช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยให้เร็วที่สุด เบื้องต้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจ และรายงานก่อนที่จะประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ และให้ช่วยเหลือต่อไป 
ส่วนการแก้ไขน้ำที่ท่วมขัง ได้กำชับให้สำนักชลประทานที่ 6 เร่งจัดเตรียมเครื่องจักร และเครื่องสูบน้ำเพื่อช่วยเหลือระบายน้ำในพื้นที่ประสบอุทกภัย ในจ.กาฬสินธุ์อย่างเร่งด่วนแล้ว และให้เร่งระบายน้ำไปยังลำน้ำชี เพื่อให้สามารถรองรับน้ำที่อาจจะหลากหรือล้นลงมา หากมีปริมาณฝนตกหนักเพิ่มขึ้นมาอีก สำหรับสปิงค์เวย์ ให้ออกแบบและสร้างใหม่เพื่อให้ประชาชนที่สัญจรไปมามีความปลอดภัยยิ่งขึ้น


สำหรับ จ.กาฬสินธุ์เกิดอุทกภัยทั้งสิ้น 7 อำเภอ 26 ตำบล 111 หมู่บ้าน บ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบ 45 หลังคาเรือน (ปัจจุบันคลี่คลายแล้ว) ถนนได้รับผลกระทบ 156 สาย สำหรับพื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหายประมาณ 5,194  ไร่ บริเวณด้านต้นน้ำ ฝั่งลำน้ำยัง (พื้นที่อำเภอนาคูและอำเภอเขาวง) ปริมาณเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนน้ำด้านล่างบริเวณพื้นที่อำเภอกุฉินารายณ์ปริมาณน้ำมีระดับเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นพื้นที่ท้ายน้ำของ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อไหลลงไปยังพื้นที่รับน้ำจ.ร้อยเอ็ด  สำหรับถนนสายหลักได้รับผลกระทบจำนวน 2 สาย ได้แก่ ถนนหมายเลข 2046 กุฉินารายณ์ -โพนทอง และ ถนนหมายเลข 12  ห้วยผึ้ง- มุกดาหาร ปัจจุบันสามารถเปิดการจราจรปกติแล้ว