กลายเป็นเหตุการณ์สุดสลด และสะเทือนขวัญ รวมทั้งต้องจับตาอย่างใกล้ชิด หลัง “หน่อง ท่าผา” หรือ “นายธนัญชัย หมั่นมาก” ก่อเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. เสียชีวิต และ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. ถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้าย ก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนครปฐมในเวลาต่อมา ภายในบ้านของ “กำนันนก” หรือ “นายประวีณ จันทร์คล้าย” โดยชนวนสาเหตุเกิดจาก ไม่วิ่งเต้นย้ายตำแหน่งงานให้หลาน

ล่าสุดเมื่อเวลา 05.45 น. วันที่ 8 ก.ย.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้วิสามัญ “หน่อง ท่าผา” เสียชีวิตที่จังหวัดกาญจนบุรี หลังมีการยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อหาทางหลบหนี

วันนี้ “สยามรัฐออนไลน์” ขอย้อนคดีสำคัญ ที่โยงใยมาจากปัจจัยการเมือง ซึ่งจะเป็นอีกบทพิสูจน์ ความสามารถของตำรวจที่จะตัดวงจรเหล่านี้ให้ได้ โดยเหตุการณ์ความรุนแรงที่มีปัจจัยกับการเมืองเริ่มจาก

คดีคนร้ายยิง “สุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช” หรือนายกเจี๊ยบ นายก อบจ.ลพบุรี และหัวคะแนนพรรคภูมิใจไทย เสียชีวิต ภายในในตรอกมะยม ตลาดราชดำเนิน พลาซ่า หลังลานจอดรถสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถนนราชดำเนินกลาง เขตพระนคร

และอีกคดีที่ถือเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจไม่แพ้กันคือ คนร้ายก่อเหตุยิง “ชุติเดช สุวรรณเกิด” อายุ 38 ปี อดีตผู้สมัคร สก.เขตดอนเมือง และหัวคะแนนคนสำคัญของ “แทนคุณ จิตต์อิสระ” อดีตผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ เขตดอนเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ถูกยิงเสียชีวิตเข้าที่ปาก กกหูขวา รวม 3 นัด และหน้าอก 1 นัด รวม 4 นัด หลังตลาดโกสุมรวมใจ แขวงสีกัน โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงเย็นเวลา 18.30 น. ของวันที่ 10 ธ.ค.

คดีคนร้ายยิง “วิโรจน์ ดำสนิท” อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง คนสนิทของ “สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล” แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา และเป็นหัวคะแนนคนสำคัญของ “ภราดร ปริศนานันทกุล” ผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา เสียชีวิตขณะขับรถกลับบ้านพักใน อ.ป่าโมก ส่วน พรเพ็ญ ดำสนิท อายุ 41 ปี ภรรยาที่อยู่ในรถด้วยกันได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา

และอีกคดีที่ถือเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญ คือ การดักซุ่มยิง “ประชา ประสพดี” ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กว่า 5 นัด โดยกระสุนทะลุเข้าที่สะบักซ้าย ห่างจากไหล่ขวาลงมา 6 นิ้ว แผลลึก 3 นิ้ว ระหว่างขับรถยนต์กลับจากร่วมงานศพในพื้นที่ แต่โชคดีไม่เสียชีวิต โดยประชาได้ระบุว่า มูลเหตุมาจากการเมือง ส่วนจะท้องถิ่นหรือระดับประเทศนั้นยังไม่ชัดเจน

ต้องยอมรับว่า เหตุการณ์ความรุนแรงทั้งหลายเหล่านี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์สะเทือนขวัญ และจะเป็นอีกบทพิสูจน์ ว่าเราจะสามารถจัดการ หรือหยุดยั้งวงจรความรุนแรง กับการเมืองได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งเราๆ และสังคมคงต้องติดตามกัน