ดาบตำรวจ ฐนโรจน์ รัตนศิริสุนสิน ผู้บังคับหมู่สถานีทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ผู้ใต้บังบัญชาพันตำรวจตรีศิวกร สายบัว สารวัตรทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เปิดใจทั้งน้ำตาว่า สารวัตรศิวกร เป็นเจ้านายที่ดูแลลูกน้องเป็นอย่างดี คอยดูแลแก้ไขปัญหาให้กับทุกคนอยู่เสมอ เป็นคนที่ซื่อตรงมีประวัติการทำงานดีมาโดยตลอด โดยเชื่อว่า สารวัตรศิวกร ไม่น่าจะมีศัตรูที่ไหน ไม่คิดว่าจะมีใครปองร้าย เพราะที่ผ่านมาสารวัตรศิวกรไม่เคยบ่นอะไรให้ฟัง 

โดยตนเองได้ทำงานกับสารวัตรศิวกรมาเป็นเวลานานกว่า 4 เดือน ได้เจอกันครั้งสุดท้ายในวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องจากตนเองได้รับรางวัลตำรวจดีเด่นเนื่องในวันสถาปนากองบังคับการตำรวจทางหลวง ซึ่งสารวัตรศิวกรได้เข้ามาทักทายพร้อมกับแสดงความยินดีและกำชับให้ตั้งใจทำงาน ทั้งนี้เมื่อทราบข่าวของสารวัตรก็รู้สึกตกใจและเสียใจเป็นอย่างมากไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับเจ้านายของตนเอง โดยวันนี้ตนเองได้มาแสดงความเสียใจและส่งดวงวิญญาณของสารวัตรศิวกร พร้อมกับบอกกับสารวัตรว่า ขอให้ได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี ชาติหน้าขอให้ได้เกิดมาเป็นเจ้านายกับลูกน้องด้วยกันอีก 

ทั้งนี้อยากให้ผู้ที่ก่อเหตุ ได้รับผลกรรมที่ทำไว้และขอให้กฎหมายลงโทษผู้ที่กระทำความผิดและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ซึ่งระหว่างที่ดาบตำรวจฐนโรจน์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก็อยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียใจกับการจากไปของสารวัตรศิวกร

ขณะที่บรรยากาศ ที่ศาลา 11 วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร บางเขน กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 13.30น. ขบวนรถยนต์ตำรวจทางหลวงเปิดสัญญาณไฟไซเรน นำขบวนเคลื่อนย้ายร่าง พันตำรวจตรีศิวกร สายบัว สารวัตรทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ที่มีการเคลื่อนย้ายโดยรถตู้พยาบาล 

เมื่อมาถึงบริเวณหน้าศาลา 11 ได้มีครอบครัวของ พันตำรวจตรีศิวกร มารอรับด้วยอาการโศกเศร้า และมีการจุดธูปเชิญตามพิธีเพื่อนำร่างขึ้นย้ายลงจากรถพยาบาลเข้าสู่ศาลาเพื่อเตรียมประกอบพิธีทางศาสนา ซึ่งในขณะเคลื่อนย้ายร่างลงจากรถตู้เข้าสู่ศาลาต่างมีเพื่อนตำรวจในสังกัดกองบังคับการตำรวจทางหลวงและสังกัดกองบังคับการปราบปรามที่เคยปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันอยู่มายืนรอรับด้วยอาการโศกเศร้าและหลายคนมีการร้องไห้ด้วยความเสียใจ 

โดยการเคลื่อนย้ายร่างมีเพื่อนตำรวจทางหลวงเป็นผู้ช่วยเคลื่อนย้ายเข้าสู่ศาลาก่อนจะมีพิธีการลดน้ำในช่วงเวลา 16:00 น. และ พิธีน้ำหลวงอาบศพในเวลา 18:00 น.  และมีพิธีสวดพระพี่ทำศพในเวลา 18:30 น. ของทุกวันโดยมีกำหนดการสวดในคืนนี้เป็นคืนแรก และสวดคืนสุดท้ายในวันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน และ จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในช่วงบ่ายของวันจันทร์ที่ 11 กันยายน 

โดยตลอดช่วงบ่ายตั้งแต่ที่มีการนำร่างของพันตำรวจตรีศิวกร มาถึงยังศาลา 11 ได้มีเพื่อนๆในสังกัดของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารมาร่วมแสดงความเสียใจ โดยไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ กับเหตุการณ์ในครั้งนี้