โผครม.นิ่งแล้ว เศรษฐา นายกฯควบรมว.คลัง สุทิน ผงาด รมว.กลาโหม อนุทิน-ภูมิธรรม-สมศักดิ์-ปานปรีย์-พัชรวาท-พีระพันธุ์ รองนายกฯ ไผ่ ลิกค์ รมช.พาณิชย์ พิชชารัตน์ รมว.อุตสาหกรรม พร้อมเตรียมยื่นเลขาฯ ครม.ตรวจสอบ 2-3 วัน ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ มั่นใจชื่อรมต.กลาโหมออกมาไม่ผิดหวัง ก็ทำงานเต็มที่ ด้าน ปธ.สภา พร้อมเปิดให้แถลงนโยบาย ย้ำผู้นำฝ่ายค้านต้องเป็นหัวหน้าพรรคที่ได้ส.ส.มากตามลำดับ "กิตติศักดิ์" เชื่อ"เศรษฐา" อยู่ไม่ครบ 4 ปีชัวร์ ชี้แก้รธน.ชนวนก่อความขัดแย้ง 

     ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 28 ส.ค.66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงตำแหน่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรคเพื่อไทยที่มีกระแสข่าวยังไม่นิ่ง ว่า นิ่งหมดแล้ว วันนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะเข้ามารับโผเอาไปส่งเพื่อการตรวจสอบได้ เมื่อถามถึงตำแหน่งรมว.กลาโหมจะเป็นคนนอกหรือคนในพรรค นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องให้เกียรตินิดหนึ่ง ต้องคอยดู ขออีกนิดหนึ่ง ส่วนที่มีกระแสต้านชื่อ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นั้น ตนไม่ทราบเรื่อง ก็มีอ่านจากโซเชียลมีเดียบ้าง แต่ยืนยันว่าถ้าชื่อออกมาแล้วไม่ผิดหวัง

     เมื่อถามว่า รมว.กลาโหมจะไม่เป็นที่คัดค้านใช่หรือไม่ นายเศรษฐา ย้อนถามกลับว่า "คัดค้านจากฝ่ายไหนเอ่ย" ผู้สื่อข่าวกล่าวตอบว่า ส่วนใหญ่เขาจะมองว่าควรเป็นคนที่ดูเรื่องความมั่นคงโดยตรงในการคุมกลาโหม ไม่อยากให้เป็นคนนอก นายเศรษฐา กล่าวว่า อยู่ที่ผลงาน เพราะรัฐมนตรีต้องมีภาวะผู้นำที่จะคุยและตนเชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลหรือใครก็ตามที่เลือกมาแล้ว ก็คงทำงานให้พี่น้องประชาชนและประเทศชาติเต็มที่ แต่ขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นพลเรือนหรือใคร อยากให้รอก่อน

     ผู้สื่อข่าวถามว่า จะส่งผลต่อการปฏิรูปกองทัพหรือไม่นั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ชอบคำว่าปฏิรูป เราพัฒนาร่วมกันไปมากกว่า ซึ่งมีการพูดไปแล้วในช่วงหาเสียง แต่ก็ต้องดูเรื่องความเหมาะสม โดยต้องมานั่งคุยกับผู้นำเหล่าทัพทั้งหมด ซึ่งก็อยู่ในแผนการเจรจา เมื่อถามว่า จะสามารถนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ได้วันนี้เลยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า "ยังครับ ต้องใช้เวลาตรวจสอบ ซึ่งผมไม่รู้ว่าใช้เวลานานเท่าไหร่ ไม่ทราบขั้นตอนจริงๆ แต่เข้าใจว่าใช้เวลา 2-3 วัน ในแง่ของการตรวจสอบ"

     เมื่อถามว่า คาดว่าจะสามารถแถลงนโยบายต่อรัฐสภาได้เลยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า หากทุกอย่างเรียบร้อย มีการถวายสัตย์ฯ แล้วก็หวังว่าจะเร็วกว่านั้น ก็พยายามให้เต็มที่ เพราะพรรคเพื่อไทยเราก็เตรียมการมาเรียบร้อยแล้ว เมื่อถามว่า เร่งให้ทันภารกิจแรกที่จะมีการประชุมยูเอ็นในช่วงสิ้นเดือนก.ย.หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนต้องขอดูขั้นตอนก่อนด้วย เพราะตามมารยาทแล้วอาจจะต้องไปเยือนประเทศอาเซียนก่อนด้วยหรือไม่ ตนเป็นมือใหม่ ขอศึกษาก่อนเพราะไม่อยากให้กระทบด้านความสัมพันธ์ แต่อย่างไรก็ตาม การประชุมยูเอ็นเป็นเวทีใหญ่ที่เราจะได้ไปพบปะผู้นำทั่วโลก และอาจจะถือโอกาสเจรจาธุรกิจการค้าไปด้วย
    
 ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสามารถประชุม ครม.ในวันที่ 1 ก.ย.ได้เลยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคงไปก้าวล่วงไม่ได้ เมื่อถามว่า การจัดโผครม.ทุกฝ่ายมีความสุขใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เท่าที่สามารถเป็นไปได้ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ามีคนสมหวังก็ต้องมีคนผิดหวังเป็นธรรมดา แต่เราก็พยายามเต็มที่เพื่อจะให้ทุกคนมีความสุข ก็จะมีตำแหน่งที่ปรึกษา เลขาฯ อยู่อีกหลายตำแหน่ง ซึ่งเราต้องการความช่วยเหลือจากคนทุกภาคส่วน หากมีคนทำงานเยอะขึ้น ก็จะทำงานได้ดีขึ้น
    
 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าในการวางบุคคลที่เหมาะสมเพื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมรายชื่อจากพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี โดยอยู่ในระหว่างการพิจารณาคุณสมบัติ ซึ่งเกือบ 100% แล้ว โดยคาดว่า จะมีการพิจารณาเสร็จสิ้นภายในเย็นวันนี้(28 ส.ค.)
       
 เราขอกราบขอออภัยจริงๆ เราในฐานะไม่ใช่เสียงข้างมากเด็ดขาด เราจำเป็นต้องมีพรรคร่วมรัฐบาล เรามีเพียงแค่ 141 เสียงเท่านั้น จึงจำเป็นต้องหาเพิ่มอีกมากมาย กว่าจะเป็น 314 ได้ ทำให้มีข้อจำกัด เลยทำให้ความประสงค์ที่ประชาชนต้องการ ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังไว้
    
 นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า รัฐบาล ภายใต้การนำของนายเศรษฐาจะใช้นโยบายของพรรคเพื่อไทยเป็นหลัก และมีนโยบายพรรคร่วมมาเสริมเติมแต่งให้เข้มแข็งมากขึ้น ไม่ว่ารัฐมนตรีมาจากพรรคไหนก็ตาม ได้มีข้อผูกพันตรงนี้ไว้แล้ว ซึ่ง ส.ส.ของแต่ละพรรค ก็มีหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบายของพรรคเพื่อไทย ลงไปสู่ประชาชนด้วย ซึ่งจะสามารถชดเชยกันได้ ทั้งนี้จะปรากฏในนโยบายของรัฐบาล ในเร็วๆ นี้ ดังนั้นอะไรที่ปรากฏเป็นนโยบายของรัฐบาลจะต้องขับเคลื่อนไม่ว่าจะเป็นกระทรวงใด พรรคใด
    
 สำหรับกรณีตำแหน่ง รมว.กลาโหม ที่มีกระแสข่าวว่าจะเป็น นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่สิ้นสุด ยังไม่ได้คำตอบว่าจะเป็นพลเรือน หรือคนมียศ แต่ในการทำงานยุคใหม่ กลไกการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งใด ก็สามารถบริหารราชการแผ่นดินในฐานะผู้บริหารกระทรวง โดยเฉพาะรัฐบาลเพื่อไทย ที่สร้างขึ้นมาเพื่อความสมานฉันท์และปรองดอง ลดความขัดแย้ง ฝ่ายอำนาจได้หันหน้าเข้าหากัน ก็เชื่อว่าพลเรือน ทหาร ตำรวจ ก็จะมาช่วยกันทำงานร่วมกันได้
    
 รายงานข่าวล่าสุด ในการจัดโผ ครม.พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา นายกฯ ควบรมว.คลัง , นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกฯ ควบรมว.พาณิชย์ , นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ ควบรมว.ต่างประเทศ , นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ , นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม , นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข , นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง , นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม , นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม , นายเสริมศักดิ์ พงษ์พาณิช รมว.วัฒนธรรม , น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา , นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย , นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรฯ , นายสุรพงษ์ ปิยโชติ รมช.คมนาคม และนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ
    
 พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ ควบรมว.มหาดไทย , พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ , นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน , นางศุภมาส อิศรภักดี รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม , นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย , นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ , นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์
     
พรรคพลังประชารัฐ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ควบรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม , ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ , นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข , นายไผ่ ลิกค์ รมช.พาณิชย์
    
 พรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ ควบรมว.พลังงาน , นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ รมว.อุตสาหกรรม เนื่องจาก ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปฏิเสธรับเก้าอี้ รมว.อุตสาหกรรม , น.ส.พิมภัทรา วิชัยกุล รมช.มหาดไทย , นายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์ พรรคชาติไทยพัฒนานายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ พรรคประชาชาติ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม
    
 ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ทางรัฐบาลได้มีการประสานกำหนดวันในการแถลงนโยบายมายังทางรัฐสภาหรือยัง ว่า ถ้ารัฐบาลแจ้งมาตนก็พร้อมที่จะประชุมวิป 3 ฝ่าย และแจ้งให้กับวิปทั้ง 3 ฝ่ายทราบ เพื่อกำหนดวันและเวลาที่จะอภิปรายซักถามในเรื่องนโยบายที่รัฐบาลแถลง ส่วนคาดว่าจะกำหนดให้มีเวลาในการอภิปรายนโยบายเท่าไหร่นั้นต้องดูจากที่ผ่านมาว่าใช้เวลาเท่าไหร่ และต้องรับฟังวิปของรัฐสภาว่าส.ว.และส.ส. ต้องการเวลาเท่าไหร่ โดยเฉพาะฝ่ายที่ไม่ใช่รัฐบาลอยากจะใช้เวลาเท่าไหร่ รวมถึงฝ่ายรัฐบาลเองก็ต้องได้เวลาตามสมควรในการชี้แจงด้วย
    
 เมื่อถามถึงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านที่ยังมีความขัดแย้งกันอยู่จะมีการแก้ปัญหาอย่างไร นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า โดยปกติตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ พรรคที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาล และไม่ได้เป็นประธานสภา และรองประธานสภานั้นหัวหน้าพรรคที่มีเสียงมากที่สุดในฝ่ายค้าน จะเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งต้องเสนอเข้าไปเพื่อโปรดเกล้าฯ ด้วย แต่หากพรรคก้าวไกล ประสงค์ที่จะดำรงตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 ก็ต้องแจ้งให้รัฐสภาทราบ เพื่อสละสิทธิ์ให้กับพรรคฝ่ายค้านที่ได้สส. ลำดับรองลงมา เป็นผู้นำฝ่ายค้านต่อไป เพราะตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับจำเป็นต้องมีผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งจะต้องปฏิบัติหน้าที่ในสภา และเป็นหนึ่งในกรรมการสรรหาองค์กรอิสระทั้งหลาย หรือองค์กรกลางอื่นๆ รวมทั้งคณะกรรมาธิการของสภาด้วย จึงจำเป็นต้องมีผู้นำฝ่ายค้านอยู่ในองค์ประกอบนี้ 
    
 เมื่อถามว่า พรรคฝ่ายค้านอันดับ 2 คือพรรคประชาธิปัตย์ แต่ในขณะนี้ยังไม่มีหัวหน้าพรรค นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ก็ต้องดูลำดับถัดไป  เมื่อถามว่า พรรคลำดับถัดไปมีเพียง 6 เสียง จะมีโอกาสในการเป็นผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่ หรือจะต้องหยุดไว้ที่พรรคลำดับที่ 2 นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เรียงตามลำดับ หากพรรคที่อันดับสูงกว่าไม่ขอเป็นเพราะมีตำแหน่งที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า ไม่เป็นรัฐมนตรี ไม่เป็นประธานสภา และไม่เป็นรองประธานสภา ก็เป็นหน้าที่ของพรรคลำดับถัดไป ซึ่งคงต้องรีบดำเนินการ เพราะมีภารกิจที่ผู้นำฝ่ายค้านต้องทำ เมื่อถามว่า มีกรอบเวลาหรือไม่ ว่าจะต้องแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านภายในระยะเวลาเท่าไหร่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่าไม่ได้กำหนดไว้ พร้อมเมื่อไหร่ ทางสภาก็จะเสนอให้มีการโปรดเกล้าฯ ต่อไป  
    
 เมื่อถามว่า หากตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านเลื่อนไปจนถึงพรรคที่มีเสียงเดียว พรรคนั้นจะมีโอกาสหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ต้องให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้นำฝ่ายค้านตามลำดับ ถ้าไม่ใช่หัวหน้าพรรคก็ไม่ได้เป็น  หรือถ้าหัวหน้าพรรคไม่ได้เป็นสส. ก็ต้องเปลี่ยน ซึ่งตนเข้าใจว่าพรรคการเมืองคงจัดการเรื่องนี้ได้