​​กรมทรัพย์สินทางปัญญาเดินหน้าเชิงรุก จับมือ เทรนดี้ แกเลอรี่ จัดแสดงภาพวาดจากศิลปินไทยรุ่นใหม่ เพื่อเป็นการสร้างความตระหนักรู้แก่สังคมเกี่ยวกับความสำคัญของลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาของภาพเขียน พร้อมสร้างความตระหนักเกี่ยวกับมูลค่าของศิลปะและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง ในงานมหกรรมทรัพย์สินทางปัญญา (IP Fair 2023) เมื่อวันที่ 20 ส.ค.66

​​นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า “ในงานมหกรรมทรัพย์สินทางปัญญา พ.ศ.2566 (IP Fair 2023) กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ร่วมกับเทรนดี้ แกเลอรี่ ซึ่งเป็นห้องแสดงภาพศิลปะชื่อดังของไทย จัดแสดงผลงานภาพวาดและประติมากรรมรวม 17 ชิ้นงาน นำโดยศิลปินชื่อดังชาวไทย ได้แก่ “แม๊กชา” “เอิร์ท” “ต้น พัวบอย” “ตั้ม วิสุทธ์ พรนิมิตร” “ยามาดะ” และ “ทรงศีล ทิวสมบุญ” เพื่อสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับความสำคัญของลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาที่มีต่อ
การพัฒนางานศิลปะของไทย”

โดยภายในงานดังกล่าว กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้จัดให้มีการประมูลภาพวาดสีน้ำมันในชุด “ชาร์ลอต” ซึ่งศิลปิน “แม๊กชา ชรารัตติ์ สาระอาภรณ์” วาดขึ้นเพื่องานนี้โดยเฉพาะ เพื่อเป็นการย้ำเตือนให้สังคมไทยได้ตระหนักเกี่ยวกับความสำคัญและมูลค่าทางเศรษฐกิจของงานศิลปะที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ซึ่งได้รับการคุ้มครองโดยทรัพย์สินทางปัญญา ที่มีต่อทั้งตัวศิลปินเองและโอกาสในการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ห้องจัดแสดงภาพ ผู้จัดการประมูล และผู้สะสมงานศิลปะ ซึ่งผลงานทั้ง 3 ภาพในชุด “ชาร์ลอต” ของ “แม๊กชา” ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมการประมูลเป็นอย่างมาก และทำรายได้รวมทั้งสิ้น 2,140,000 บาท โดยรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายของห้องภาพแล้ว กรมทรัพย์สินทางปัญญาร่วมกับ เทรนดี้ แกเลอรี่ ได้มอบให้กับมูลนิธิหม่อมเจ้าหญิงมารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานและเป็นทุนการศึกษาของศิลปินไทยต่อไป

​​“การจัดกิจกรรมด้านศิลปะ และการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับงานศิลปะในงาน IP Fair 2023 ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวใหม่ของกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่มุ่งเน้นการดำเนินงานเชิงรุก เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับสังคมเกี่ยวกับความสำคัญของศิลปะ ซึ่งเป็นหนึ่งในงานทรัพย์สินทางปัญญาที่คนไทยมีศักยภาพ รวมทั้งแสดงให้เห็นโอกาสทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะและทรัพย์สินทางปัญญาจากการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญาเชื่อมั่นว่า จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินและผู้ประกอบการไทยในการสร้างสรรค์งานที่มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับ พร้อมทั้งสร้างรูปแบบกิจกรรมทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์และสนับสนุนการสร้างรายได้จากผลงานทรัพย์สินทางปัญญาต่อไป” นายวุฒิไกรกล่าว