เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 23 ส.ค. 66 ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้ากล่าวก่อนเข้าร่วมพิธีรับพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ว่าตนดีใจกับพรรคเพื่อไทยด้วย เป็นโครงสร้างของพรรครัฐบาลที่ดี เพราะวันนี้เรามีเรื่องเศรษฐกิจ และวิกฤติการเมืองที่จะต้องแก้ไข เราได้นายกรัฐมนตรีที่มีพื้นฐานความเข้าใจในเศรษฐกิจ และมีพรรคแกนนำที่มีความเข้มแข็งในนโยบายด้านเศรษฐกิจ ประกอบกับเสถียรภาพของรัฐบาลที่มีถึง 314 เสียง ถือว่าเป็นเสถียรภาพที่ดี และพรรคการเมืองที่เป็นองค์ประกอบก็มีหลายพรรค แม้ในอดีตจะมีความเห็นที่แตกต่าง แต่วันนี้เมื่อมาอยู่รวมกันแล้ว ตนเห็นว่าความขัดแย้งในอดีตจะลดระดับระหว่างพรรคการเมืองได้ จะทำให้อุณหภูมิความขัดแย้งทางการเมืองลดลง
ทั้งนี้ ภาพลักษณ์ของนายเศรษฐา กับพรรคเพื่อไทยในเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ จะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับต่างประเทศและประชาชนได้ แต่ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่าในส่วนของพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งคือพรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่ได้อันดับ 1 ต่างจากการเลือกตั้งครั้งก่อน ถือว่าฝ่ายค้านในสภาชุดนี้มีความเข้มแข็ง ก็ดี มีความสมดุล มีการถ่วงดุลกัน
ในส่วนของนโยบายของรัฐบาลนั้น ได้มีการหารือกันว่า จะใช้นโยบายของพรรคเพื่อไทยเป็นหลัก แต่พรรคเพื่อไทยก็บอกกับพรรคร่วมทุกพรรคว่า หากพรรคไหนมีนโยบายที่ดีกับประเทศ และสามารถกลมกลืน ผสมผสาน เข้ากับนโยบายของพรรคเพื่อไทย ก็ยินดีที่จะรับฟัง ตนขอบคุณที่ให้โอกาสพรรคร่วมในการเสนอนโยบาย ซึ่งเราตกลงกันไว้ว่าจะมีการพูดคุยกันในคณะทำงาน และพูดชัดเจนว่าจะเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ยืนยันว่า พรรคชาติพัฒนากล้าไม่มีเงื่อนไขในเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรี เมื่อเลือกตั้งมาแล้ว อะไรที่เราช่วยทำให้ประเทศได้ อย่างการจัดตั้งรัฐบาล และมีนายกรัฐมนตรี เราถือว่าเราได้ทำหน้าที่ของเราแล้ว ส่วนในเรื่องอื่นไม่ได้พูดถึง