#  นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับประเทศไทยที่สนามบินดอนเมือง โซนวีไอพี บริเวณอาคารผู้โดยสารอากาศยานส่วนบุคคล (MJetS) ภายหลังจากที่ไปพำนักอยู่ต่างประเทศเป็นเวลา 17ปี จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ได้รับตัวและทำบันทึกการจับกุมต่างๆ ตามขั้นตอนและเอกสาร ขณะที่ในส่วนของกรมราชทัณฑ์จะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนที่หมายศาลเป็นผู้พิจารณาและตัดสิน

จากนั้นนายทักษิณ เดินออกมาที่บริเวณด้านหน้าอาคารเอ็มเจ็ต เพื่อถวายบังคมพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่บริเวณด้านหน้า พร้อมโบกมือให้กับกลุ่มประชาชนที่มารอต้อนรับ  ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายทักษิณ ไปที่ศาลฎีกา เพื่อรับทราบในฐานะจะเลย 3คดีคือ คดีปล่อยกู้เอ็กซิมแบงก์ คดีหวยบนดิน คดีแก้ไขสัมปทานเอื้อประโยชน์ให้บริษัท ชินคอร์ป รวมเป็นเวลา 8 ปี 

 จากนั้นทางกรมราชทัณฑ์ ได้แถลงขั้นตอนหลังรับตัวนายทักษิณ  เข้าเรือนจำ โดยดำเนินการตามมาตรการผู้ต้องขังเข้าใหม่ ทำทะเบียนประวัติ ตรวจสุขภาพโดยแพทย์ของกรมราชทัณฑ์ เบื้องต้นเป็น “กลุ่มเปราะบาง” มีโรคประจำตัวต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ให้เกียรติในฐานะผู้ใหญ่ไม่มีการกร้อนผม  โดยเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯได้แยกคุมขังเดี่ยวนายทักษิณ ที่แดน 7 ซึ่งเป็นสถานพยาบาลเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง

 ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ภายหลังจากที่ที่ประชุมได้เสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทย และได้มีการเปิดให้สมาชิกทั้ง สส. สว. อภิปรายเกี่ยวกับคุณสมบัติของนายเศรษฐา นานกว่า 5ชั่วโมง ต่อมาที่ประชุมได้ลงมติให้ความเห็นชอบนายเศรษฐา เป็นนายกฯคนที่ 30 ด้วยคะแนนเสียง  482 ต่อ 165 เสียง