วันที่ 22 ส.ค. 66  รายการโหนกระแส โดย  “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้สัมภาษณ์ รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย รองศาสตราจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ,วีรพัฒน์ ปริยวงศ์  นักกฎหมายอิสระ และ ดร.พร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ อดีตสมาชิกส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กรณีอดีตนายกฯ “ทักษิณ ชินวัตร” เดินทางกลับเมืองไทยหลังจากไม่ได้กลับเมืองไทยเป็นเวลา 17 ปี หลายคนจับตามอง ว่าทำไมเลือกกลับวันนี้ ซึ่งเป็นวันโหวตนายกรัฐมนตรี มีนัยยะสำคัญอะไรหรือไม่

ทำไมต้องเรียกว่าเด็จพี่?

พร้อมพงษ์ :   (หัวเราะ) ตอนเป็นส.ส. และเป็นฝ่ายค้านตั้งแต่ปี 51 ไปยื่นเรื่องโน้นเรื่องนี้ ก็มีการตั้งสรรพนามกัน คนอาจโยงเรื่องเล่นละคร แต่ผมทำไม่เหมือนคนอื่น ตอนคุณอภิสิทธิ์ มันเกิดการชุมนุม และมีการออกพ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ทำเนียบ ผมก็แอบรถโน่นนี่ไป แล้วไปโผล่ อยู่ๆ ก็ผ่านหน่วยรบพิเศษ ทหารอยู่เต็มทำเนียบ ผมก็โผล่ไปได้ นักข่าวบางคนบอกว่าผมไม่เหมือนใคร แถลงวันนี้ พรุ่งนี้ผมก็ไปทำ

เหมือนหายตัวไปได้งี้เหรอ?

พร้อมพงษ์ : ก็ไม่รู้ (หัวเราะ) บางทีผมก็แอบนั่งรถนักข่าวไปบ้าง (หัวเราะ) หลายครั้งครับ วีรกรรมผมเยอะ

เหนือความคาดหมายมั้ย คุณทักษิณกลับมา?

ยุทธพร : ไม่เหนือความคาดหมาย ผมมองแล้ว 50-50 มันมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้คุณทักษิณกลับมา หนึ่งปัจจัยส่วนบุคคล อายุคุณทักษิณ 74 แล้วปีนี้ สองการกลับมาของคุณทักษิณเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งรัฐบาลและการเปลี่ยนแปลงการเมืองในประเทศไทย สามการกลับมาของคุณทักษิณเป็นเรื่องโอกาสของพรรคเพื่อไทย และอนาคตทางการเมืองของตระกูลชินวัตร เพียงแต่ว่าการกลับมาของคุณทักษิณครั้งนี้ กลับมาโดยมีจุดยุทธศาสตร์ เพราะถ้าจะกลับมาประเทศไทยโดยตรงบินจากดูไบมากรุงเทพฯ ก็ได้ แต่นี่บินไปสิงคโปร์ก่อนพักสองวัน ซึ่งสองวันนั้นมีความหมายอย่างยิ่ง คือการเจรจาต่อรอง พูดคุยคนในพรรคร่วมที่จะมาอยู่กับพรรคเพื่อไทย หรือคนที่คุณทักษิณอยากจะคุยด้วย การพูดคุยจะเกิดที่สิงคโปร์

จะบอกว่าไปลงที่สิงคโปร์เพื่อตกลงอะไรบางอย่างก่อน?

ยุทธพร : แน่นอน การประเมินขั้นสุดท้ายอยู่ที่นั่น

มีการไปตกลงกันอย่างนั้นจริงมั้ย?

พร้อมพงษ์ : ไม่จริงเลยครับ ผมว่าที่ท่านกลับมาในวันนี้เป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า ท่านเตรียมการไว้นานแล้ว ผมเคยคุยกับคนใกล้ชิดท่าน เราเองเคยอยู่กับท่าน เป็นลูกน้องท่านสมัยท่านทำงานในพรรคการเมือง วันนี้การที่กำหนดการเลื่อนมาก็เป็นเรื่องที่ท่านอธิบายไปแล้ว เป็นเรื่องบังเอิญ

ไม่มีแวะไปตกลง?

พร้อมพงษ์ : ไม่มีหรอกครับ ผมพูดได้เพราะผมเป็นกรรมการบริหารพรรคมาตั้งแต่ปี 51 เป็นมาร่วมสิบปี เป็นโฆษกพรรคมาอย่างยาวนานที่สุด

มีการคุยมาก่อนหน้านั้น?

พร้อมพงษ์ : ไม่ใช่  

เคยเจรจากันตั้งแต่สมัยคุณอนุทินไปกินเป็ดที่ฮ่องกงหรือเปล่า?

พร้อมพงษ์ : ไม่ใช่หรอกครับ (หัวเราะ) ตอนนั้นวันเกิดท่านมีนักการเมืองไปอวยพร พบปะกัน แต่ที่บอกว่ามีการเจรจา เป็นของคณะกรรมการที่มีท่านภูมิธรรมท่านไปดำเนินการต่อรอง จุดที่ท่านกลับเป็นจุดดีอย่างนึง ผมมองว่าท่านยอมกลืนเลือด เพราะมาถึงเรื่องที่ท่านต้องมาติดคุก ผมมองเรื่องสมานฉันท์ ปรองดอง สงครามสีเกิดมาร่วม 20 ปีแล้ว

เชื่อว่าเขามีการแวะคุยกันที่สิงคโปร์?

ยุทธพร : ไม่บังเอิญแน่นอน วันนี้มีการเมืองสามเรื่องซ้อนกันอยู่ หนึ่งการเมืองเรื่องคุณทักษิณ สองการเมืองเรื่องก้าวไกลเพื่อไทย เมื่อเช้าก็เห็นแล้ว ตามคาด ก้าวไกลพูดถึงการหยิบยกการห้ามโหวตนายกฯ ซ้ำ ซึ่งตรงนี้เป็นการเมืองของก้าวไกลกับเพื่อไทย ในการโหวตนายกฯ กันได้หรือไม่เพราะเป้าหมายของก้าวไกลวันนี้คือต้องการให้สภาล่ม โหวตนายกฯ ไม่ได้ สามคือการเมืองสว. ต้องจับตาดูสว. ตอนนี้เชื่อว่า 314 เสียงเพื่อไทยน่าจะมีเกือบๆ เต็ม หรืออาจมีบ้างคนแตกแถว หรือต้องเป็นรองประธาน ประธานงดออกเสียงตามธรรมเนียม แต่มาเกือบครบ 314 แต่การชี้วัดตัดสินก็อยู่ที่สว.

เมื่อเช้าพอรังสิมันต์ โรมลุกขึ้นพูดถึงเรื่องการกลับไปแก้มติเรื่องห้ามโหวตซ้ำ สว.เอาด้วยมั้ย ต้องจับตา ถ้าสว.เอาด้วยกับก้าวไกล เท่ากับคุณเศรษฐาวันนี้ไม่แน่นะครับ แต่ถ้าสว.นิ่งเงียบ ไม่เอาด้วยกับก้าวไกล โอกาสคุณเศรษฐามีความเป็นไปได้เลย

มองยังไง?

ยุทธพร : ผมคิดว่า 50-50 นะ เพราะยังไม่เห็นบทบาทสว.ที่ขึ้นมามากนัก วันนี้ต้องการเสียงสว.ประมาณ 60 กว่าเสียง ก็มีความเป็นไปได้ แล้วอย่าลืมว่าทั้งหมดจะเป็นการเมืองก้าวไกล เพื่อไทย หรือสว. จะถูกกลบด้วยการเมืองคุณทักษิณทั้งวัน ตรงนี้เกี่ยวข้องกับการเมืองแน่นอน

อาจารย์เห็นด้วยมั้ย?

วีรพัฒน์ : ผมว่าการไปเจรจากันเป็นไปได้ แต่คิดว่ามีการเจรจาที่เหนือชั้นกว่านั้นอีก เพราะผมเคยตั้งโจทย์เอาไว้ว่าโหวตก่อนกลับ หรือกลับก่อนโหวต แต่ครั้งนี้ชัดเจนมากว่าจะกลับในวันเดียวกันและตอนเช้าก่อนโหวตด้วย ผมก็ตั้งสมมติฐานว่าต้องมีการเจรจาระดับสูงที่ทำให้คุณเศรษฐาและคุณอุ๊งอิ๊งมั่นใจมากว่าไม่บิดพลิ้ว และการเจรจาที่มั่นใจมากว่าไม่บิดพลิ้วคืออะไรเราก็คงเดากันได้ เราเห็นแล้วว่าออกมาสิ่งแรก ประตูออกสิ่งแรกคุณทักษิณทำคืออะไร ผมคิดว่าวันนี้ประเทศไทยน่าจะมีประตูบานนึงที่เริ่มเปิดว่าถ้าเราจะออกจากความขัดแย้งเรื่องคุณทักษิณ ซึ่งเคยถูกกล่าวหาว่าเป็นคนล้มเจ้า วันนี้เราต้องลืมเรื่องนั้นไปได้แล้ว มันเป็นเรื่องเท็จ เรื่องโกหก เราทำให้คุณทักษิณเป็นคนธรรมดาคนนึง ที่ควรต้องเตรียมวางมือได้แล้ว ผมเห็นด้วยกับอาจารย์มากว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป จุดยืนท่าทีคุณทักษิณจะมีผลกระทบรุนแรงต่อพรรคเพื่อไทย คุณทักษิณทำให้พรรคเพื่อไทย กลายเป็นพรรคที่ต้องไปทำตามลุง เพื่อประโยชน์คุณทักษิณ ฉะนั้นคุณทักษิณตอนนี้หมดอำนาจต่อรองไปเยอะแล้ว เพราะอยู่ในอุ้งมือระบบกฎหมายไทยแล้ว คำถามคือคุณทักษิณมั่นใจได้อย่างไรว่าตัวนายกฯ จะมาตั้งรัฐมนตรียุติธรรมและสร้างทุกอย่างให้ผ่านเรียบร้อยตามแกประสงค์ได้ ตรงนี้ต้องเล่นดีๆ ถ้าออกมาว่าพรรคเพื่อไทยทำทุกอย่างเพื่อให้คุณทักษิณสบาย พรรคเพื่อไทยอาจจะเสื่อม แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยใช้โอกาสนี้ทำให้เห็นว่าคุณทักษิณเป็นผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกยึดอำนาจรัฐประหาร ถูกตั้งคดีมั่วๆ มา วันนี้คุณทักษิณได้รับความเป็นธรรม จะได้รับการอภัยโทษ ได้รับการลด หรือปล่อยตัวชั่วคราว ทำไปเลย แต่พรรคเพื่อไทยต้องทำมากกว่านั้นคือเป็นพรรคเพื่อไทยผลัดใบ ต้องหาคนรุ่นใหม่ มาสู้กับก้าวไกล มิฉะนั้นแล้ว เหตุการณ์นี้จะทำให้ฐานเสียงพรรคเพื่อไทยไหลไปอยู่กับก้าวไกล เมื่อไหลไปแล้ว เราอาจเสี่ยงกลับไปเริ่มต้นขบวนการความขัดแย้งใหม่ คือมีพรรคการเมืองที่ชนะอยู่พรรคเดียว แล้วฝ่ายที่แพ้จะเล่นวิธีสกปรกกลับมาเล่นงาน ก็จะนำไปสู่ความขัดแย้ง มีม็อบ มีรัฐประหาร มีรัฐประหารกันไม่จบไม่สิ้น

เหมือนพายเรืออยู่ในอ่าง?

วีรพัฒน์ : แล้วอีก 17 ปีข้างหน้าเราอาจเห็นนักการเมืองหนุ่มอีกคนนึงซึ่งอนาคตอาจไม่หนุ่มแล้ว ไปอยู่ต่างประเทศแล้วกลับมาอีกรอบ ก็ทำให้การเมืองไทยติดล็อกอยู่ในความขัดแย้ง วิธีเดียวที่ผมนึกออกจะทำให้เราหลุดออกจากความขัดแย้งนี้ได้คือต้องบอกว่าเราต้องมีพรรคการเมืองสองพรรคสู้กัน ยันกัน คานกันเอาไว้ ไม่ต้องใช้สว. ไม่ต้องใช้รัฐประหาร ให้เขาคานกันเอง แต่วันนี้มันยากตรงที่ก้าวไกลโตเอาๆ เพื่อไทยกำลังฝ่อเอาๆ วันก่อนคุณณัฐวุฒิก็ออกไปแล้ว ผมเลยตั้งคำถามว่าวันนี้ถ้าเพื่อไทยก้าวออกจากประเด็นคุณทักษิณไป คุณมีผู้นำผู้บริหารรุ่นใหม่ออกมาเลย บอกว่าทำงานนี้เสร็จเขาพร้อมแล้วนะที่จะส่งไม้ต่อ นั่นแหละคือจุดสำคัญที่เพื่อไทยต้องคิดให้ออก เพราะถ้าเขาคิดออก เราอาจก้าวไปสู่การเมืองมิติใหม่ การเมืองที่มีสองพรรคจากการเลือกตั้งสู้กัน ซึ่งผมอยากเห็นตรงนั้นเกิดขึ้น

มองแบบนั้นมั้ย หลายคนมองว่าเพื่อไทยเริ่มฝ่อแล้ว การที่คุณทักษิณกลับมาอาจทำให้เพื่อไทย ต่อไปอาจสูญพันธุ์?

พร้อมพงษ์ : ผมมองตรงข้าม ผมมองว่าเพื่อไทยไม่สูญพันธุ์หรอก ผมอยู่ในองค์กรวัฒนธรรมตั้งแต่ไทยรักไทย พลังประชาชน จนมาเพื่อไทย ชนะที่หนึ่งตลอด แต่ครั้งนี้เราได้ที่สองโดยกระบวนการบางอย่าง โดยเฉพาะการเลือกตั้งกติกาที่หาเสียงค่อนข้างลำบากมาก แล้ววันนี้ได้มา 10.9 ล้าน ต่างกับก้าวไกลแค่ 8-9 เสียงเอง ไม่ต่างกันมาก แต่วันนี้เพื่อไทยมีจุดแข็งคือ เราอาจเป็นฝ่ายค้านไม่เก่ง เราเป็นฝ่ายค้านที่อาจไม่ได้เหมือนประชาธิปัตย์ ก้าวไกลต้องยอมรับ แต่การบริหารพรรคเพื่อไทยมีดีเอ็นเอในการบริหารที่มีความเป็นมืออาชีพ ทำนโยบายให้เป็นความจริงได้

มองว่าอีก 4 ปีข้างหน้า เพื่อไทยน่าจะเอาอยู่?

พร้อมพงษ์ : ผมมองว่าเรื่องที่ประชาชนคนไทย 70 ล้านต้องการมากที่สุด คือเรื่องปากท้อง สองปัญหารัฐธรรมนูญที่ต้องแก้ไข สามเรื่องความขัดแย้ง 20 ปีเราอยู่ในวังวนความขัดแย้ง เหลืองทะเลาะกับแดง พวกผมโดนมาหมด ยุบพรรคสองครั้ง ไทยรักไทย พลังประชาชน ปฎิวัติรัฐประหารสองครั้ง พวกผมถูกจับติดคุก ผมติดคุก คุกทหารก็โดนมาแล้ว เสียสิทธิ์อีกสิบปี พวกผมคือดีเอ็นเพื่อไทยหรือไทยรักไทยเดิม ผมก็ไม่เคยเปลี่ยนใจนะ ผมไม่ไปไหน อยู่ที่นี่ตลอด ทุกวันนี้ไม่มีตำแหน่ง แต่สร้างตำนานอยู่ตรงนี้

ทุกวันนี้ไม่มีตำแหน่งแต่มาสร้างตำนาน?

พร้อมพงษ์ : ไม่มี แต่มาเพื่อให้เห็นว่าเป็นเอฟซีเพื่อไทย ไม่มีสูญพันธุ์ เอาปี 62 ผมไม่มีตำแหน่งแต่มาเป็นผู้ช่วยหาเสียง หาเสียงเสร็จก็กลับไปทำมาหากิน ปี 66 ผมก็เป็นผู้ช่วยหาเสียงอีก ถ้าเลือกตั้งครั้งหน้าเหลืออีก 2 ปี ผมก็มาช่วยเพื่อไทยอีก

คิดว่าคุณเศรษฐาได้นายกฯ มั้ย?

พร้อมพงษ์ : ผมว่าได้ เพราะเสียงวันนี้พรรคร่วมรัฐบาล 11 พรรค 314 มีพรรคเล็กอี 3 ก็ 317 อ.วันนอร์ออกไปหนึ่งก็เป็น 316 ต้องการสว.แค่ไม่ถึง 60 ผมมองว่าวันนี้สว.เองท่านมีวุฒิภาวะ ท่านสร้างเงื่อนไขอยู่สองสามเรื่อง เรื่องแรกคือไม่เอา 112 สองไม่มีก้าวไกล รัฐธรรมนูญแก้ต้องไม่มีหมวด 1 หมวด 2 วันนี้เพื่อไทยก็ชี้แจงชัดเจน ไม่มีตามที่สว.ต้องการ แล้ววันนี้วิกฤตความขัดแย้ง เรียกว่ายุติสงครามสี วันนี้สว.ต้องสร้างประวัติศาสตร์

แล้วสีส้มล่ะ?

พร้อมพงษ์ : สีส้มเขาเกิดใหม่ เขายังไม่อยู่ในวังวงที่เราขัดแย้งมา เราต่อสู้ทางการเมืองมา เขาไม่เคยถูกรัฐประหาร เขาถูกยุบพรรคแค่ครั้งเดียว วันนี้ถ้ารัฐบาลพิเศษปรองดองทุกสี ผมเชื่อว่าเมื่อรัฐบาลชุดนี้บริหารดี เขาจะทำเรื่องความขัดแย้งจะทำความเข้าใจกับสีส้มได้

การที่คุณทักษิณกลับมา นัยยะที่ลึกกว่านั้นคืออะไร?

ยุทธพร : ผมว่าคุณทักษิณกลับมาด้วยหลายปัจจัย หนึ่งคุณทักษิณและพรรคเพื่อไทยคือทางเลือกฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่ดีที่สุดเท่าที่จะมี สองพรรคเพื่อไทยเองก็พยายามปรับตัว จากเดิมอยู่ในฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตยต่างๆ แต่ถ้าอยู่อย่างนั้นระยะยาว เขาจะเสียพื้นที่ให้ก้าวไกล ซึ่งวันนี้ก็หลายพื้นที่ที่เคยเป็นเขตสำคัญของเพื่อไทยก็เสียกับก้าวไกลไม่น้อยในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ฉะนั้นการปรับตัวเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมใหม่ ก็อาจเป็นทางเลือกนึง สามคุณทักษิณเข้ามาเพื่อแก้วิกฤตให้พรรคเพื่อไทย เพราะวันนี้เพื่อไทยเผชิญทั้งปัญหาภายใน ภายนอก ภายในก็เห็นได้ว่าส.ส.หลายคนเริ่มพูดว่าจะไปตอบคำถามประชาชนยังไงเรื่องการข้ามขั้ว เจอกับคลื่นใต้น้ำ เผชิญเรื่องคนลาออก สมาชิกพรรคหลายคนลาออก หลายคนถอยจากพรรคเพื่อไทย กองเชียร์ก็ถอยเหมือนกัน เรื่องความน่าเชื่อถือต่างๆ นี่คือสิ่งที่คุณทักษิณต้องกลับมา แล้ววันนี้การสลายขั้ว ข้ามขั้ว หรืออะไรก็แล้วแต่ จริงๆ มันเหมือนกันหมด เพียงแต่สลายขั้วตามเจตจำนงของนักการเมือง แต่ไม่ได้สลายขั้วตามเจตจำนงของประชาชน เพราะผลการเลือกตั้ง 14 พ.ค.66 พรรคที่ชูประเด็นเขาฝ่ายประชาธิปไตย ไม่เอาสองลุง เขาไม่เอาเผด็จการ เวลานั้นรวมพรรคเพื่อไทยด้วย 25 ล้านเสียง รวมเสียงข้างมาก แต่พอต่อมาเพื่อไทยเปลี่ยนจุดยืน การบอกสลายขั้วเพื่อไปสู่การเมืองใหม่ การเมืองไทยอยู่ใน 4 ระดับ การเมืองชนชั้นนำ การเมืองราชการ การเมืองของนักการเมืองและการเมืองภาคประชาชน การสลายขั้วที่เกิดขึ้นอยู่แค่ระดับการเมืองที่ไม่เกี่ยวกับภาคประชาชน การสลายขั้วการเมือง ไม่ได้บอกว่าสังคมจะสลายขั้ว วันนี้พรรคเพื่อไทยอยู่ในภาวะที่ตอบโจทย์ถูก แต่ตั้งโจทย์ผิด ตอบโจทย์ถูกคือทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้มุ่งไปสู่การเป็นรัฐบาล ยอมรับเงื่อนไขภูมิใจไทย ยอมรับการต่อรองเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรี ยอมรับประเด็นที่ไม่เอาพรรคก้าวไกล ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ไปสู่โจทย์การเป็นรัฐบาล แต่โจทย์ตรงนี้คือโจทย์ที่ผิด เพราะทำให้เพื่อไทยอยู่ในภาวะล้มละลายทางความน่าเชื่อถือ วันนี้โจทย์ที่ถูกคือเพื่อไทยต้องดึงความเชื่อถือกลับมาก่อน

ดึงยังไง?

ยุทธพร : จริงๆ คือประชาธิปไตย แต่เพื่อไทยข้ามขั้วไปแล้ว ผมว่าไม่ง่ายเลยนะ สัญญาอะไรที่ให้ไว้กับประชาชน แก้รัฐธรรมนูญ

เด็จพี่หัวเราะ?

ยุทธพร : ไม่เป็นไร แต่เดี๋ยวก็รอดูผลเลือกตั้ง วันนี้การเมืองไม่ใช่การเมืองเชิงนโยบายนะ เป็นการเมืองเรื่องการแบ่งขั้ว ผลการเลือกตั้งชี้ให้เราเห็นชัด ถ้าจะปฏิรูปพรรคเพื่อไทย มันไม่ใช่เรื่องง่ายนะ

เด็จพี่หัวเราะอะไร?

พร้อมพงษ์ : ผมมองว่าเรื่องนี้ถ้าท่านมาก่อนไม่มีนัยยะทางการเมืองเลย อย่างที่บอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญ เหมือนวันนี้ที่ครอบครัวบอกว่าไปดูเรื่องดวงอะไรด้วย จริงๆ จะมาก่อนหน้านี้ด้วย แต่ตอนหลังบอก 22 นี่แหละ แต่บังเอิญสภาเขานัด วันนี้มาในขณะที่พลเอกประยุทธ์รักษาการอยู่ ไม่มีรัฐบาลเพื่อไทยเลย ครม.ยังไม่เห็นตัวตน นายกฯ ยังไม่ได้เลย ผมพูดในฐานะเป็นรุ่นพี่ที่อยู่ในเรือนจำคดีทางการเมือง เวลาเข้าเรือนจำไปแล้ว ใครติดต่อไปเยี่ยม เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ความมั่นคงสูงมาก เครื่องมือติดต่อสื่อสารก็เอาเข้าไปไม่ได้ การติดต่อเยี่ยมต้องเยี่ยมผ่านวันเวลา

อันนี้อาจเป็นมิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล?

พร้อมพงษ์ : การเมืองอย่าจินตนาการ จินตนาการไม่ได้ วันนี้การเมืองตัดแปะอ่านข่าวมาไม่ใช่ ข้อเท็จจริงไม่มี

เขากำลังบอกว่าเป็นไปได้มั้ย อาจมีการคุยกันว่าตกลงจะร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาล แต่มีข้อแม้ ทักษิณต้องได้กลับมา แล้วเดี๋ยวกลับมา 1 2 3 4 ช่วยกันยังไงมาว่ากัน?

พร้อมพงษ์ :   ถ้ามาอย่างนี้มีความเสี่ยงสูงมั้ย คุณตกลงแล้วเสี่ยงมั้ย ยังไม่ได้โหวตเลย ท่านมาก่อนโหวต กว่าจะโหวตกันก็เชื่อว่าบ่ายสามกว่า

ถ้าโหวตมาแล้วเป็นท่านประวิตรได้?

พร้อมพงษ์ : นั่นสิ แล้วผมถามว่าคืออะไร วันนี้ท่านต้องการให้บ้านเมืองปรองดอง ท่านยอมกลืนเลือดนะ ท่านเสียสละ กลืนเลือดว่ามาเถอะ ยอมติดคุกด้วย ทั้งที่คดีของท่านเกิดจากการปฏิวัติ รัฐประหาร ท่านถูกกล่าวหาตอนนั้น แต่ตอนนี้ท่านยอมมา คนเป็นอดีตนายกฯ เป็นเศรษฐีติดอันดับโลกยอมติดคุก ศาลบอกแล้วว่าวันนี้ 8 ปี ถ้าออกเร็วที่สุดคืออภัยโทษส่วนบุคคล ซึ่งตัวท่านหรือญาติจะสามารถทำเรื่องเสนอได้ตั้งแต่วันเข้าสู่เรือนจำ แต่การขอพระราชทานอภัยโทษส่วนบุคคลเป็นเรื่องพระราชอำนาจอีก เราไม่รู้ว่าเป็นยังไง วันนี้คนมาอย่างนี้ ลองเป็นอาจารย์ คุณหนุ่ม มันเสี่ยง ไม่มีใครเขาทำหรอก เหมือนซื้อหวย หวยยังไม่ออกเลย

บอกว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่ให้คุณทักษิณเข้าไปก่อนแล้วออกมา?

พร้อมพงษ์ : มันเสี่ยงมาก

วีรพัฒน์ : ผมว่าเราต้องลืมก่อนว่าคุณทักษิณไปคุยอะไรกับใครไว้เพราะเราก็ไม่รู้ วันนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือจากวันนี้ไป เราจะมองคุณทักษิณอย่างไร คำแนะนำผมคือพรรคเพื่อไทยควรให้ชื่อคุณทักษิณปรากฏในสื่อน้อยที่สุด ทำให้คนลืมคุณทักษิณไปเลย มิฉะนั้นแล้วทันทีที่คุณทักษิณกลายเป็นข่าวก็จะถูกโยงว่านี่คือส่วนนึงในการเจรจา เก้าอี้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ให้ดีคุณทักษิณต้องอยู่เงียบๆ เรือนจำจะใช้วันมงคลปลายปีนี้ทำอะไรก็เป็นอีกเรื่องนึง นายแพทย์ที่เป็นผอ.รพ. ใช้คำว่ากลุ่มเปราะบาง เรากำลังมีคุณทักษิณเป็นกลุ่มเปราะบางอยู่ในประชาธิปไตยเปราะบาง ถูกรัฐประหารกันง่ายๆ ฉะนั้นผมเห็นด้วยว่าตอนนี้ต้องกู้ศรัทธาซึ่งมองว่าไม่ง่าย ชัดเจนเลยคือต้องแก้รัฐธรรมนูญ ต้องผลักดันนโยบาย MOU ที่ทำคู่กับก้าวไกล แล้วจะเห็นนิมิตหมายที่ดีของการเมืองไทย คือเพื่อไทยเป็นรัฐบาล มีพรรคลุง ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน แต่เพื่อไทยจะผลักดันกฎหมายที่ก้าวไกลก็อยากได้ แล้วก้าวไกลก็ช่วยโหวตให้เพื่อไทยด้วย

นี่คือการกู้ศรัทธา?

วีรพัฒน์ : เป็นการเล่นการเมืองแบบมืออาชีพ ก้าวไกลบางคนอาจไม่คุ้นเคย เพราะเราคุ้นเคยว่าฝ่ายค้านก็ต้องค้าน ต้องล้มรัฐบาลให้ได้ ซึ่งผมมองว่าไม่จริง การเมืองที่สร้างสรรค์ ซึ่งผมเชื่อว่าก้าวไกลทำได้ เราจะได้เห็นการเมืองมิติใหม่ ถ้าเราอยากออกจากวงจรอุบาทว์ เราต้องมีสองพรรคที่เป็นมืออาชีพแล้วยันกันเอาไว้ ซึ่งเพื่อไทยต้องเป็นบทบาทนำ ส่วนก้าวไกลต้องไม่ไปเล่นการเมืองน้ำเน่าเหมือนฝ่ายค้านสมัยก่อน สมมติเพื่อไทยเสนอกฎหมายเพิ่มค่าแรง กฎหมายทำให้การเกณฑ์ทหารเป็นเรื่องเสรี ก้าวไกลก็ต้องช่วย ผมดูอภิปรายเมื่อกี้ เริ่มมีสว.เริ่มตีรวนกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญแล้ว บางคนบอกคุณไปแก้ คุณยังไม่บอกเลยจะแก้อะไรเราไม่โหวตให้คุณหรอก ผมถึงบอกว่าก้าวไกลกับเพื่อไทยต้องจับมือกันดีๆ จะอยู่คนละฝั่งไม่เป็นไร แต่คุณต้องการกำจัดสิ่งปฏิกูลในรัฐธรรมนูญออกไป

 

ปฏิกูลคืออะไร?

วีรพัฒน์ : เช่นเราเลือกตั้งมาจะ 4 เดือน เรายังไม่ได้นายกฯ เลย เพราะอะไร ใครมาสกัดขัดขวาง แต่ถ้าก้าวไกลกับเพื่อไทย คุยกันไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จักการทำงานแบบมืออาชีพ คนที่จะเสียหายคือพวกเรา ประชาชน เราอยู่ในสภาวะประชา
ธิปไตยเปราะบาง แถมมีคนกลุ่มเปราะบางอยู่ด้วย ถ้าเปราะบางกันหมด มันก็ไม่มีทางออก ต้องเข้มแข็ง มีสปิริตทางการเมือง และเล่นการเมืองอย่างมืออาชีพ

ยุทธพร : ผมสนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญ แต่เอาเข้าจริงไม่มั่นใจว่าแก้ได้หรือไม่ ยิ่งอยู่ในภาวะรัฐบาลผสม การต่อรองกับพรรคร่วม เอาเรื่องนี้ ไม่เอาเรื่องนั้น สสร.ไม่เอาเลือกตั้งนะ ไม่เอาแต่งตั้งนะ ไหนจะสว.อีก ถ้าวันนี้พรรคเพื่อไทยจะฟื้นฟูพรรคเป็นเรื่องที่ดี เป็นกำลังใจให้ แต่ไม่ได้เป็นโจทย์ที่ง่ายเลย เพราะเพื่อไทยกำลังอยู่ในการเมืองโลกใบเก่า

ยุทธพร : ผมเข้าใจว่าการเมืองมีมุมมองคนละแบบกัน แต่เราเองก็มีหลักการ การเมืองเรายึดหลักประชาธิปไตย เราต่อสู้มาก่อน เราเป็นการเมืองที่มีวุฒิภาวะ ผมเชื่อว่าวันนี้เพื่อไทยตั้งรัฐบาลได้ ตั้งรัฐบาลแบบมีวุฒิภาวะ รับผิดชอบต่อประชาชน ถ้านักการเมืองทะเลาะกันไปมาเหมือน 20 ปี คนเดือดร้อนคือประชาชนและประเทศชาติ คนเสียโอกาสคือประชาชนและประเทศชาติ

ล่าสุดมีกระแสข่าวว่าสว.ตีรวนคุณเศรษฐาแล้ว มันจะพลิกอีกหรือเปล่า?

พร้อมพงษ์ : ผมยังมั่นใจว่าสว.เกินครึ่งที่เขามีวุฒิภาวะ เขาอยากให้ประเทศมีทางออก

หลายคนเตือนว่าเด็จพี่ระวังสลบ?

พร้อมพงษ์ : ไม่เป็นไร ผมยังมั่นใจส่วนตัว ผมเคยถามสว. ที่เขาบอกว่าถ้าต้องการสร้างความปรองดองจริง เขาเอาด้วย