วันที่ 19 ส.ค.66 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการสลายขั้วการเมือง ผ่านรายการ สามารถ 5 นาทีผ่านเฟซบุ๊ก สามารถ เจนชัยจิตรวนิช ว่า...
สามารถ ระบุ วันนี้ไม่มีแล้ว เหลือง แดง สลายขั้ว แต่เป็นการต่อสู้ ระหว่างวัย แทน ย้ำ สถาบันต้องอยู่ประเทศไทยตลอดไป
วันนี้ นาย สามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้แสดงความคิดเห็น การสลายขั้วการเมือง ในรายการ สามารถ 5 นาที ว่า
สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศครับ วันนี้ผมสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ก็จะมาสื่อสารกับพ่อแม่พี่น้องประชาชน ผ่านรายการสามารถ 5 นาที ช่องทางเฟซบุ๊กสามารถ เจนชัยจิตรวนิช และช่องทาง TikTok: jopstoploss อย่าลืมกดไลท์ กดหัวใจ คอมเม้น ให้กันด้วยนะครับ วันนี้ผมจะมาพูดกับพ่อแม่พี่น้อง เรื่องที่พ่อแม่พี่น้องส่งมาให้ผมเยอะมากเลย ว่าการเมืองต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร เพราะว่าวันนี้มีโผค.ร.ม.ออกมาแล้วครับ ดังนั้นเป็นการสลายสีเสื้อไม่มีแล้วเสื้อเหลืองเสื้อแดง วันนี้จับมือกันแบบแฮปปี้เอนดิ้ง แต่ผมก็ยังยืนยันครับว่าคุณเศรษฐา ทวีสิน เนี่ยไม่น่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากคุณสมบัติที่ถูกคุณชูวิทย์ออกมาแฉ และข้อมูลเหล่านี้จะไปอยู่ในมือสมาชิกวุฒิสภา และในวันที่ 22 ส.ค. 2566 สมาชิกวุฒิสภาจะอภิปรายเรื่องนี้อย่างเข้มงวด รอฟังกันนะครับ แล้วผมก็มั่นใจว่าถ้าจะต้องใช้เสียงส.ว.อีก 60 เสียง เนี่ยไม่น่าจะได้ถึง ส.ว.ที่โหวตให้เต็มที่ไม่เกิน 40 เสียง
ฉะนั้นถ้าวันนี้ได้ 315-316 เสียง ตีไป 315 เสียง 315 เสียง + 40 เสียง ก็เป็นแค่ 355 เสียง ก็ยังตั้งนายกรัฐมนตรีไม่ได้ โดยหลักการแล้วเนี่ยผมมองว่ารัฐบาลเนี่ย เสียง 280 กำลังดี ฉะนั้นการตั้งรัฐบาล 310 กว่า เกือบ 320 ไม่มีรัฐบาลไหนเขาทำกันหรอกครับ ฉะนั้นโผค.ร.ม.ที่ออกมานั้น ก็เป็นโผค.ร.ม.ของใครไม่รู้ และใครเขียนก็ไม่รู้
อันนี้เป็นความคิดของผมนะครับ ท่านก็รอดูว่าสิ่งที่ผมพูดมันจะจริงรึเปล่า แต่สิ่งที่ผมพูดไม่ใช่สาระสำคัญในคลิปนี้ครับ
ที่ผมจะพูดผมจะพูดว่าวันนี้ไม่มีแล้วเสื้อเหลืองเสื้อแดง จับมือกันเรียบร้อยแล้วระหว่างพรรคเพื่อไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ ถ้าพูดถึงรวมไทยสร้างชาตินั้น ก็คือเป็นเหลือจ๋าๆ เป็นอนุรักษ์นิยม ผมถึงบอกไงก่อนเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมาว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มันไม่เหมือนเดิม การที่พรรคก้าวไกลได้คะแนนมากๆนั้น เนี่ย ก็เป็นเรื่องของเจนเนอร์เรชั่น เรื่องของกลุ่มวัย เด็กอายุ 18-40 ปีเลือกก้าวไกลหมด ถ้าคุณไปดูตัวเลขอยู่ในนี้ครับ 80% อยู่ที่ประมาณ 14 ล้านพอดีเลย
ฉะนั้นอีก 4 ปีข้างหน้านี้ นั่นคือสิ่งที่น่ากังวล เพราะวันนี้มันไม่มี เหลือง แดง มันเป็นเรื่องของช่วงวัย เด็กอายุ 18-40 ปีเขามีความคิดของเขา คนกลุ่มอายุ 50-60-70 ปี เค้าก็มีความคิดของเขา ฉะนั้นวันนี้มันเกิดปัญหาเป็นเรื่องของวัยครับ ดังนั้นพรรคการเมืองที่น่าจะทำ ก็คือพรรคการเมืองจะต้องเป็นพรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่ แต่สิ่งสำคัญคือคนรุ่นใหม่ที่เอาสถาบัน วันนี้พรรคเหล่านี้ยังไม่เกิดครับ แม้พรรครวมไทยสร้างชาติพยายามจะบอกว่าเป็นพรรคที่เอาสถาบัน แต่กลุ่มวัยยังไม่ได้ครับ มันก็เลยกลายเป็นว่ามันไม่สามารถตอบโจทย์สังคมได้ ว่างๆลองทำตัวเป็นเอ็กชิตโพลดูครับ
ผมเวลาลงพื้นที่พบชาวบ้าน ผมจะถามเด็กว่าเด็กเลือกใคร เด็กทุกคนตอบเลือกก้าวไกล ผมก็ถามว่าทำไมเขาถึงเลือกก้าวไกล เขาบอกเขาอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง แต่เขาไม่ต้องการล้มสถาบันนะ
ผมไปเตะบอลมาวันนี้ หลังเตะบอลเสร็จก็คุยกับน้องๆ เขาก็บอกว่าที่เขาเลือกก้าวไกลเขาอยากเห็นบ้านเมืองเปลี่ยนแปลง นั่นคือสิ่งที่ผมบอกว่า มันต้องใช้ พรรคการเมืองที่เป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ที่เอาสถาบันมันต้องเกิดขึ้นครับ
วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ก็ดี พรรครวมไทยสร้างชาติก็ดี รวมถึงพรรคพลังประชารัฐก็ดี เขามองว่าเป็นพรรคของคนแก่ครับ เมื่อวานพลเอกประวิตรตั้งคนออกมาเป็นยุทธศาสตร์พรรค 23 คน มีคนไหนอายุต่ำกว่า 50 บ้าง ผมไม่รู้นะลองไปดูเอาเอง
นั่นคือสิ่งที่ผมบอกว่ามันไม่ได้ตอบโจทย์ครับ มันเป็นเรื่องของวัยและ วันนี้จะทำยังไง จะสื่อสารกับเด็กยังไง จะทำยังไงให้เด็กเข้าใจประชาธิปไตยที่ถูกต้อง จะทำยังไงจะทำลายระบบพิธา ที่ผมพูดว่าระบบพิธานี่มันน่ากลัวมากๆ พรรคก้าวไกล ไม่เคยโจมตีคนในพรรคตัวเอง ถึงแม้ทำผิดก็ไม่เคยลงโทษ อย่างเช่นหมออ๋อง ทุกคนบอกผมว่ารับไม่ได้ วันนี้หมออ๋องตีเนียนไปแล้วไม่พูดถึง
ทุกคนไม่มีใครพูดถึง ไม่ใครนำทัวร์ลงหมออ๋องเลย หรือแม้แต่ส.ส.ที่ตีกัน เขาบอกคนที่เดินตามส.ส.นั้นทำเว็ปพนันออนไลน์ แต่ไม่เห็นพรรคก้าวไกลออกมาพูดเรื่องนี้เลย นั่นคือสิ่งที่ผมพูดว่ามันกำลังสร้างวัฒนธรรมที่ไม่ถูกต้องในสังคม เราจะทำอย่างไรนั่นคือสิ่งที่ผมบอกว่าต่อไปการเมืองมันเปลี่ยน มันเป็นเรื่องของวัย เราจะทำยังไง แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือสถาบันต้องอยู่กับประเทศไทยตลอดไป คงอยู่กับสังคมไทยต่อไป ฝากกันด้วยครับ ขอบคุณครับ
