ไฟป่าพรุควนเคร็งเริ่มคลี่คลายหลังฝนตกในพื้นที่ 2 ระลอก ชาวบ้านยันเหตุเกิดจากลอบเผา ขอเร่งศึกษาวิถีธรรมชาติป่าพรุจริงจัง หลังเชื่อขุดคูล้อมป่าพรุกลายเป็นทำลายธรรมชาติป่าพรุโดยตรง
ครบ 4 ปีสำหรับการว่างจากสถานการณ์ไฟป่าพรุรุนแรงในพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง จังหวัดนครศรีธรรมราช 3 วันที่ผ่านสถานการณ์ไฟป่าพรุแห่งนี้กลับมารุนแรงอีกครั้ง ไฟป่าได้ลุกลามไปในเขตป่าพรุเป็นวงกว้างหลายร้อยไร่ รวมทั้งพื้นที่เกษตรกรรมสวนปาล์มน้ำมัน สวนยางพาราของชาวตำบลเคร็ง อำเภอชะอวด เหตุที่ไฟพรุได้ห่างหายไปถึง 4 ปีนั้นด้วยเพราะธรรมชาติที่เปลี่ยนไปจาก 4 ปีก่อนหน้านี้ฝนตกชุกต่อเนื่อง ขณะที่ธรรมชาติในป่าพรุพืชต่างๆเจริญงอกงามจนแน่นเต็มพื้นที่กลายเป็นเชื้อไฟอย่างดีจึงเกิดไฟป่าขึ้นอย่างรุนแรงระยะนี้ถูกยืนยันว่าการเกิดจากการกระทำของมนุษย์ทั้งหมด
สถานการณ์ในพื้นที่ล่าสุดภาพมุมสูงจากโดรนพบว่าไฟป่าได้ทิ้งร่อยความเสียหายเป็นวงกว้างเหลือเพียงแนวไฟขนาดใหญ่อีกราว 3 จุดเท่านั้นที่ต้องควบคุม เนื่องจากวานนี้ช่วงค่ำฝนได้ตกระลอกใหญ่มา 1 ระลอก ทำให้สถานการณ์ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ไฟป่า และกำลังหน่วยเสือไฟของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป่าไม้ เร่งเข้าเคลียร์แนวดำคือขอบของแนวไฟป่าให้มอดสนิทป้องกันการคุโชนขึ้นมาได้อีก มีการอัดน้ำจากเครื่องสูบแบบหาบหาม จุดไหนที่ไกลแหล่งน้ำเจ้าหน้าที่ต้องขุดดินเพื่อเอาน้ำมาใช้อย่างยากลำบาก
นายสุเลน กลางวาปี ชาวหมู่ 9 ตำบลเคร็ง อำเภอชะอวด ระบุว่าความเสียหายรอบนี้เกิดขึ้นเร็วโดยนเฉพาะแนวสวนยางสวนปาล์มน้ำมันของชาวบ้าน ด้วยความหนาแน่นของพืชในป่าพรุเมื่อไฟลุกลามได้เกิดกลุ่มควันหนาทึบตลอด 4-5 วันที่ผ่านมา ส่งผลต่อสุขภาพชาวบ้านอย่างมาก เหตุที่เกิดขึ้นยืนยันว่าด้วยฝีมือมนุษย์
อย่างไรก็ตามชาวบ้านในพื้นที่ ได้ตั้งข้อสังเกตุว่าการจัดการพื้นที่ป่าพรุของหน่วยงานที่รับผิดชอบอาจเป็นดาบสองคมที่ทำลายป่าพรุเสียเอง คือการขุดแนวคูคลองล้อมรอบพื้นที่อนุรักษ์ด้วยเหตุป้องกันการบุกรุกแผ้วถาง กลับทำลายธรรมชาติของป่าพรุน้ำที่เคยท่วมขังในป่าพรุไหลงวดมาอยู่ในคลองจนพื้นที่ป่าแห้ง ทำให้สมดุลของความชื้นในป่าเสียไปอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อเกิดเหตุการไฟป่าความย้อนแย้งคือการสูบน้ำอย่างหนักเพื่อเข้าเลี้ยงป่าพรุต่อสู้กับแนวไฟ ซึ่งในข้อสังเกตจากชาวบ้านนี้ได้เรียกร้องว่าขอให้มีการศึกษาอย่างจริงจังเพื่อแก้ไขปัญหาไม่ใช่มาดับไฟกันทุกรอบแบบนี้และล่าสุดช่วงเย็นที่ผ่านมาฝนได้ตกอีกระลอกทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าทุกจุดจะสามารถควบคุมได้อย่างเบ็ดเสร็จ