ตำรวจไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการ “ล่าลวงหลอก” ขุดรากถอนโคน แก๊ง Call Center รวบผู้ต้องหา 8 ราย เสียหายกว่า 10 ล้านบาท


วันนี้ (15 ส.ค  66) ที่ อาคารสัมนา บช.สอท. เมืองทองธานี พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยสข้อง แถลงผลการเปิดปฏิบัติการ “ล่าลวงหลอก” ขุดรากถอนโคน แก๊ง Call Center จับกุมผู้ร่วมขบวนการ 8 ราย ตรวจยึดทรัพย์สินและเงินสด ร่วมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท

พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 กล่าวว่า สอท. 3 ได้รับเรื่องแจ้งความร้องทุกข์ผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติกรณีสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 - 4 ส.ค.66 ผู้เสียหายได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากคนร้ายหมายเลข 08 2792 5035 อ้างตัวเป็นพนักงานส่งพัสดุKerry Express แจ้งว่าตรวจพบสิ่งของในพัสดุ ที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด ได้แก่ หนังสือเดินทาง (Passport) ของชาวจีน จำนวน 15 เล่ม และ สมุดบัญชีธนาคาร  (ระบุชื่อผู้เสียหายเป็นเจ้าของบัญชี) จำนวน 3 บัญชีซึ่งพัสดุดังกล่าวถูกส่งจากต้นทางจังหวัดตาก  และปลายทางจังหวัดอุบลราชธานีโดยปรากฏชื่อผู้เสียหายเป็นผู้ส่งพัสดุจากนั้นคนร้ายจึงแจ้งให้ผู้เสียหาย ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ (Line) โดยให้วิดีโอคอลคุยกับปลายสายซึ่งอ้างตัวเป็น ผกก.สภ.เมืองตาก (โปรแกรม AI) หลอกสอบถามข้อมูลส่วนตัวและเงินในบัญชีของผู้เสียหาย รวมถึงพูดจาหว่านล้อมให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่ามีการกระทำความผิดจริง โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินเพื่อเป็นการตรวจสอบ  รวมทั้งสิ้น 9 ครั้ง เป็นจำนวนเงินกว่า 2,839,298.45 บาท ทั้งยังให้โอนเงินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนผู้เสียหายเชื่อแน่ว่าตนถูกคนร้ายหลอกให้โอนเงิน จึงแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับคนร้ายตามกฎหมาย

ภายหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สถิตย์  จึงได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งรัดสืบสวนสอบสวนจับกุมตัวคนร้าย มีการยักย้ายถ่ายโอนเงินที่ได้จากการหลอกผู้เสียหายไปยังบัญชีม้า แถวที่ 4-5 จากนั้นจึงมีการกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม (ATM) บริเวณ อ.แม่สาย  จว.เชียงราย เจ้าหน้าที่สืบสวน กก.3 บก.สอท.3 จึงลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลแผนประทุษกรรมคนร้ายและผู้มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดดังกล่าว จนกระทั่ง สามารถรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายค้น/หมายจับผู้ต้องหา ทั้งผู้ทำหน้าที่กดเงินสด รวมถึงผู้รับ จ้างเปิดบัญชีม้า จำนวนกว่า 15 ราย

พล.ต.ท.วรวัฒน์  จึงสั่งเปิดปฏิบัติการ “ล่าลวงหลอก” ขุดรากถอนโคน แก๊ง Call Center กำหนดเข้าปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมาย ในพื้นที่ อ.แม่สาย จว.เชียงราย พร้อมกัน 2 จุด  เมื่อวันที่ 12 ส.ค.66 ที่ผ่านมา ผลการตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 9 ราย พร้อมของกลาง และยึดทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิด  
จำนวน 130 รายการ มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท

จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางดังกล่าวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีในความผิดฐาน  “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน” 

สำหรับปฏิบัติการในครั้งนี้ ปรากฏจากการสืบสวนขยายผล พบความเชื่อมโยงในการกระทำความผิดเป็นขบวนการ Call Center รายใหญ่ โดยที่ผ่านมากลุ่มผู้ต้องหารับว่าได้ร่วมกันกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว ตั้งแต่ปลายปี 2565 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน หลอกลวงผู้เสียหายมาแล้วหลายราย มูลค่าความเสียหาย รวมกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานติดตามจับกุมผู้ร่วมกระทำความผิดและไล่ล่ายึดทรัพย์เพื่อส่งกลับคืนแก่ผู้เสียหายต่อไป