ผู้ว่าธปท.เผยส่งออกไทยแย่ รับผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนแผ่ว จ่อปรับจีดีพีใหม่ต่ำกว่า 3.6% จับตา สศช.ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 2/66 ดีเดย์ 21 ส.ค.นี้ ส่งสัญญาณขึ้น-คงดอกเบี้ย ประเมินการเมืองลากยาวกระทบเบิกจ่ายงบลงทุน 

-กลุ่มบริษัทบางจาก รายงานผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2566 มีรายได้รวม 148,403 ล้านบาท มี EBITDA 17,620 ล้านบาท โดยราคาพลังงานที่ปรับลดลงจากความกังวลเกี่ยวกับ เศรษฐกิจโลก ทำให้กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันได้รับปัจจัยกดดัน อย่างไรก็ดี การลงทุนใน ส่วนอื่นๆ ที่มีศักยภาพหนุนการขยายธุรกิจและเพิ่มรายได้โดยรวม ส่งผลให้บริษัทฯมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 3,199 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.16 บาท

-ไทยออยล์เผยผลดำเนินงานไตรมาส 2/2566 ไรสุทธิ 1,117 ล้านบาทฝ่าพิษเศรษฐกิจชะลอตัว-ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัว

-กรมการค้าต่างประเทศเผยการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ FTA ในช่วง 5 เดือนปี 66 มีมูลค่า 33,455.12 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 2.76% คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิ์ 76.70% ของมูลค่าส่งออกที่ได้รับสิทธิ์ทั้งหมด อาเซียนยังนำโด่งตลาดที่มีการใช้สิทธิ์สูงสุด ตามด้วยอาเซียน-จีน ไทย-ญี่ปุ่น ไทย-ออสเตรเลีย อาเซียน-อินเดีย

-ธอส.รายงานผลการประมูลบ้านมือสอง ธอส. ออนไลน์ 8.8 พบเพียง 1 ชั่วโมง สามารถจำหน่ายทรัพย์ NPA ได้จำนวนทั้งสิ้น 97 รายการ คิดเป็นมูลค่ารวม 115 ล้านบาท เป็นทรัพย์ในกรุงเทพ 33 รายการและภูมิภาค 64 รายการ

-ครม.เห็นชอบ ขยายระยะเวลาคนต่างด้าว 4 สัญชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ให้สามารถอยู่ในไทยและทำงานถึง 30 ก.ย.นี้ โดยใช้บัญชีรายชื่อ เป็นหลักฐานว่าได้รับการผ่อนผัน

-กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน เตรียมจัดงาน "อาชีพอิสระ เพื่อคนไทยมีงานทำ"ส่งเสริมคนไทยทุกช่วงวัยสร้างอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ เชิญผู้สนใจพบกันที่กระทรวงแรงงาน วันที่ 18 ส.ค.นี้

-สปส.มอบเงินเยียวยาทายาทผู้เสียชีวิต โกดังประทัดระเบิด จ.นราธิวาส

-หลักทรัพย์บัวหลวง แนะสร้างผลตอบแทนปลายทางดอกเบี้ยขาขึ้นด้วยการ "บริหารพอร์ตลงทุนต่างประเทศแบบอัตโนมัติ" ผ่านกลยุทธ์ "Dynamic Income USD ETF"

-สมาคมค้าทองคำรายงานราคาทอง(ทองคำ 96.5%) ในประเทศเปิดตลาดเมื่อเวลา 09.32 น. ราคาปรับลง 50 บาท โดยทองคำแท่งรับซื้ออยู่ที่บาทละ 31,850 บาท ขายออก 31,950 บาท ขณะที่ทองรูปพรรณรับซื้ออยู่ที่บาทละ 31,275.08 บาท ขายออก 32,450 บาท ส่วนราคาทองคำโลก (Gold Spot) อยู่ที่ระดับ 1,929.00 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์

-เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 34.91 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.03 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.85-35.08 บาท/ดอลลาร์ และกลับมาแข็งค่าขึ้นในช่วงปิดตลาด ซึ่งเป็นการแข็งค่าสอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ตามทิศทางเงินหยวนเป็นหลัก อย่างไรก็ดี วันนี้ยังไม่มีปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของเงินบาทมากนัก ซึ่งตลาดติดตามผลการประมูลพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว อายุ 10 ปีของสหรัฐเป็นหลัก รวมทั้งในสัปดาห์นี้ สหรัฐฯ จะมีการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ค. คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.85 - 35.10 บาท/ดอลลาร์

-SET ปิดวันนี้(9 ส.ค.)ที่ 1,528.30 จุด เพิ่มขึ้น 9.86 จุด (+0.65%) มูลค่าซื้อขาย 50,039.62 ล้านบาท ตลาดหุ้นวันนี้แกว่งพักตัวอิงทางลง มีรีบาวด์ระยะสั้นจากความคืบหน้าทางการเมือง แต่มองว่าการจัดตั้งรัฐบาลมีความล่าช้า ส่งผลต่อการอนุมัติงบประมาณล่าช้าต่อไป นอกจากนี้ความกังวลเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจจีน ซึ่งมีการรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคปรับลดลงใกล้เคียงที่ตลาดคาด ส่งสัญญาณแนวโน้มเศรษฐกิจของจีนอ่อนแอ แนวโน้มตลาดวันพรุ่งนี้แกว่งออกด้านข้างซึมตัว นักลงทุนติดตามการรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ เพื่อรอดูทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ให้แนวต้าน 1,530 - 1,540 จุด และแนวรับ 1,507 - 1,515 จุด