“ซีพี แอ็กซ์ตร้า” ผู้นำในธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก เตรียมออกหุ้นกู้เป็นครั้งแรก เสนอขายต่อประชาชนเป็นการทั่วไป โดยคาดว่าจะเสนอขายในเดือนกันยายน 2566 ผ่าน 8 สถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารยูโอบี และบล.เกียรตินาคินภัทร รวมถึงเสนอขายผ่านช่องทางทรูมันนี่ วอลเล็ต เผยหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “A+” แนวโน้ม “บวก” (Positive) จากทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2566 สะท้อนความแข็งแกร่งของธุรกิจและผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างมีศักยภาพ ขณะที่บริษัทฯ มุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งในระดับภูมิภาคเอเชีย และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลายทั้งออฟไลน์และออนไลน์ (Omni channel) ภายใต้การดำเนินธุรกิจที่ยึดหลักบรรษัทภิบาล เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยได้รับผลการประเมินคะแนนจากโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน ประจำปี 2565 ในเกณฑ์ “ดีเลิศ” 5 ปีต่อเนื่อง
บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ” หรือ “CPAXT”) ผู้ดำเนินธุรกิจค้าส่งภายใต้ชื่อ “แม็คโคร” (Makro) และธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าภายใต้ชื่อ “โลตัส” (Lotus’s) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ โดยบริษัทฯ จะแจ้งผลตอบแทนและวันเสนอขายที่แน่นอนอีกครั้ง
นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจค้าส่งแม็คโครและประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจสายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯ ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของบริษัทฯ และเป็นการเสนอขายให้กับประชาชนเป็นการทั่วไปด้วย ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นโอกาสที่ดีของผู้ลงทุนที่จะได้ลงทุนในหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทที่มีการเติบโตอย่างมีศักยภาพในอุตสาหกรรมค้าส่งและค้าปลีกและมีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต”
ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ A+ เช่นเดียวกับอันดับความน่าเชื่อถือองค์กรที่ระดับ A+ แนวโน้ม “บวก” (Positive) จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 สะท้อนสถานะการเป็นผู้นำในธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก ด้วยความแข็งแกร่งของผลการดำเนินงานที่ฐานรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยทริสเรทติ้งระบุว่า รายได้จากการดำเนินงานของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 2.66 แสนล้านบาทในปี 2564 เป็น 4.69 แสนล้านบาทในปี 2565 ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เพิ่มขึ้นจาก 1.67 หมื่นล้านบาทเป็น 3.47 หมื่นล้านบาท และ EBITDA Margin เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 6.3 ในปี 2564 เป็นร้อยละ 7.4 ในปี 2565 เนื่องจากการการรวมงบการเงินของกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ทำให้มีการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนรายได้ที่มีอัตรากำไรสูงจากธุรกิจการขายสินค้าสู่ผู้บริโภค หรือ Business-to-Customer (B2C) และธุรกิจพื้นที่ให้เช่า
สำหรับไตรมาสแรกของปี 2566 รายได้จากการดำเนินงานของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน มาอยู่ที่ 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งการเพิ่มขึ้นดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของยอดขายจากกลุ่มธุรกิจค้าส่ง โดย EBITDA ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ระดับ 9 พันล้านบาท โดยทริสเรทติ้ง ระบุด้วยว่า บริษัทฯ มีเงินสดในมือและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเพียงพอสำหรับการชำระหนี้ครบกำหนดและเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายตามแผนลงทุนรวมประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2566 บริษัทฯ มีเงินสดในมือจำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท
ปัจจุบัน บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า ประกอบธุรกิจโดยครอบคลุม 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจค้าส่ง ภายใต้ชื่อ “แม็คโคร” (Makro) ในประเทศไทยและต่างประเทศ ครอบคลุมประเทศเมียนมา กัมพูชา อินเดีย และจีน โดยจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคให้แก่ลูกค้าผู้ประกอบการมืออาชีพ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้แก่ ร้านค้าปลีกรายย่อย กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และจัดเลี้ยง (HoReCa) ตลอดจนกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระและสถาบันต่างๆ ธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจให้เช่าพื้นที่ศูนย์การค้าภายใต้ชื่อ “โลตัส” (Lotus’s) ในประเทศไทยและมาเลเซีย โดยบริษัทฯ มุ่งที่จะเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งอาหารสดและสินค้าอุปโภคบริโภคในระดับภูมิภาคในเอเชีย และขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้ ด้วยช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายทั้งในช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ (Omni channel) นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายเพิ่มประสิทธิภาพของร้านค้า ต่อยอดธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และการปรับโฉมร้านค้าแบบไฮบริด เพื่อตอบสนองกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
“เรามั่นใจว่า หุ้นกู้ “ซีพี แอ็กซ์ตร้า” จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่แสวงหาโอกาสจากการลงทุนในธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างมั่นคง โดยเฉพาะหุ้นกู้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “A+” และมีแนวโน้มเป็นบวกอีกด้วย ขณะเดียวกัน ยังเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้วยการยึดมั่นในหลักบรรษัทภิบาล ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี” ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจค้าส่งแม็คโครและประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจสายงานบัญชีและการเงิน บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า กล่าว
ทั้งนี้ บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า ได้รับคัดเลือกให้ติดอันดับบริษัทด้านความยั่งยืน โดยเข้าเป็นสมาชิกของดัชนี S&P Global The Sustainability Yearbook 2023 ในกลุ่ม Food & Staples Retailing ซึ่งเป็นดัชนีชั้นนำของโลกที่ใช้วัดผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอกย้ำการเป็นบริษัทที่มุ่งสร้างการเติบโตไปพร้อมกับคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคมให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการจากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัท (IOD) ในระดับ 5 ดาวหรือ “ดีเลิศ” (Excellent CG Score) อีกด้วย