วันที่ 27 ก.ค.66 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางกลับไทยในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ว่า สำหรับกรณีผู้ที่มีหมายจับ และคดียังไม่ขาดอายุความ โดยหลักการแล้วหมายจับจะแสดงในระบบฐานข้อมูลของด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินอยู่แล้ว ซึ่งหมายความว่าเมื่อนายทักษิณเดินทางกลับผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในสนามบินตามหมายจับฐานข้อมูลก็จะแสดงให้พนักงานทราบว่านายทักษิณเป็นบุคคลตามหมายจับ หน้าที่ของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองคือจะต้องควบคุมตัวต้องหาส่งให้กับศาลตามหมายจับ ขั้นตอนหลังจากนั้นจะเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งศาล
ขณะเดียวกัน ในกรณีเดินทางเข้าเมืองโดยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว แล้วลงจอดในสนามบินอื่น เช่น บน.6 ของกองทัพอากาศ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับสนามบินดอนเมืองก็จะต้องผ่านขั้นตอนของการตรวจคนเข้าเมืองเช่นเดียวกับขั้นตอนที่สนามบินหลัก
ส่วนด้านการข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มใด และยังไม่พบการข่าวที่น่ากังวล แต่เจ้าหน้าที่จะเฝ้าระวังไปจนถึงช่วงเวลาที่นายทักษิณจะเดินทางกลับ ตลอดจนช่วงเวลาหลังเดินทางกลับไทยแล้ว
ขณะที่ พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวภายหลังเข้าพบพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในช่วงเช้าวันนี้ว่า สำหรับมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยของอดีตนายกรัฐมนตรีที่มีกระแสข่าวว่าจะเดินทางกลับมาในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลยืนยันว่าได้มีการเตรียมการมาแล้วตั้งแต่ช่วงแรกที่มีกระแสข่าวว่าจะกลับมาซึ่งยังคงเป็นไปตามมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย และทางตำรวจนครบาลได้มีการเฝ้าฟังความเคลื่อนไหวว่าอดีตนายกนายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับมาจริงหรือไม่โดยตลอด
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีเอกสารลับของทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่ระบุถึงการเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ โดยมีขั้นตอนการดำเนินการตามกฎหมาย กรณีมีผู้ต้องหาตามหมายจำคุกเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยเครื่องบินโดยสาร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง หรือสุวรรณภูมิ, การรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทางทั้งหลักและรองจากท่าอากาศยาน ศาลฎีกา กองบัญชาการตำรวจปรายปรามยาเสพติด และเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ