sacit พร้อมจัดงาน " Crafts Bangkok 2023 " ดันงานคราฟต์ไทยสู่เวทีโลก มั่นใจขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ นำไปสู่การขายตลาดส่งออกงานหัตถกรรมไทย คาดเม็ดเงินสะพัดตลอดการจัดงานกว่า 100 ล้านบาท

 
เมื่อวันที่ 24 ก.ค.66 น.ส.นฤดี ผู้รัตนรักษ์รักษาการผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิปลหัตถกรรมไทย(องค์การมหาชน) หรือ sacit  พร้อมด้วยนางจุฑาทิพย์ ไชยสุระ เจ้าของแบรนด์ JUTATIP นายมนัทพงศ์ เซ่งฮวด เจ้าของแบรนด์หัตถกรรมกระจูดวรรณี นายเปรมณัช สุวรรณานนท์ ดารานักแสดงชื่อดัง ร่วมกันแถลงถึงความพร้อมจัดงาน " Crafts Bangkok 2023 "ว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีนโยบายมุ่งเน้นการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งส่งเสริมภาพลักษณ์ของสินค้างานศิลปหัตถกรรมไทยให้ทันสมัยและมีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น จึงมอบหมายให้สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ sacit จัดงาน Crafts Bangkok ซึ่งตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาของการจัดงานได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ระบบเศรษฐกิจไทยกว่า 614.62 ล้านบาท และในปีนี้คาดว่าจะสามารถสร้างเม็ดเงินสะพัดได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

น.ส.นฤดี กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ sacit พร้อมแล้วที่จะจัดงาน " Crafts Bangkok 2023 " งานแสดงสินค้าศิลปหัตถกรรมไทยและงานคราฟต์สุดยิ่งใหญ่แห่งปี ซึ่งจะช่วยส่งเสริมสนับสนุนและสร้างความแข็งแกร่งให้งานศิลปหัตถกรรมไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดสากลพร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางงานศิลปหัตถกรรมในระดับภูมิภาคอาเซียนเพื่อขยายตลาดงานศิลปหัตถกรรมให้แพร่หลายและตรงกับรสนิยมของผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาคของโลกและสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ อันจะเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ นำไปสู่การขายตลาดส่งออกงานหัตถกรรมไทย สอดรับนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมที่มีรูปแบบที่ร่วมสมัย เป็นการแสดงพลังแห่งความมุ่งมั่นของการพัฒนา ต่อยอด  จุดประกายความคิดสร้างสรรค์ให้แก่วงการศิลปหัตถกรรมไทย

โดยการจัดงานในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศให้มีเม็ดเงินหมุนเวียน สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการที่มาจำหน่ายสินค้าในงานแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้องค์ความรู้ด้านงานศิลปหัตถกรรม แก่ผู้ที่มีความสนใจด้านงานอาร์ต งานหัตถศิลป์ ได้แลกเปลี่ยนทัศนะ เรียนรู้เทคนิค วิธีการทำงาน จาก ครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม และทายาทช่างศิลปหัตถกรรม สมาชิกของ สศท. รวมถึงศิลปินจากต่างประเทศที่ร่วมนำผลงานมาจัดแสดงทั้ง 7 ประเทศ ได้แก่สหรัฐอเมริกา อิตาลี่ ญี่ปุ่น อาเซียน อาทิ อินโดนิเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และภูฎาน

สำหรับแต่ละประเทศได้นำผลงาน highlight มาจัดแสดงในงาน Crafts Bangkok 2023 เป็นที่แรกเช่น บิงกะตะ กิมิโน ซึ่งเป็นเทคนิคการย้อมทอมือและระบายสีที่มีประวัติยาวนานกว่า 15 ศตวรรษ โดย Mr. Eiichi Shiroma จากญี่ปุ่น ผลงานจากศิลปินในภูมิภาคอาเซียนโดยสมาคมส่งเสริมและพัฒนาหัตถกรรมอาเซียน(AHPADA)  อินโดนีเซีย (ASEPHI) ฟิลิปินส์ มาเลเซีย ซึ่งเป็นผลงานศิลปะที่รังสรรค์จากเส้นใยธรรมชาติที่หาได้ในท้องถิ่น ภาพวาดจากศิลปินชาวอิตาเลียน Ms. ARIANNA CAROLI ซึ่งเป็นศิลปินที่ร่วมงานกับบริษัทชั้นนำระดับโลกและองค์กรการกุศลมากมายทั้งในและต่างประเทศโดยเทคนิคการใช้ทองคำมาวาดลงในผืนผ้า โดยภายในงานจะมีการนำชิ้นงานที่ปรับรูปแบบให้เข้ากับสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น หมอน ผ้าพันคอ และ กระเป๋า เพื่อให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ผลงานภาพวาดจาก Mr. Matthew Campbell Laurenza ศิลปินชาวสหรัฐอเมริกาที่พัฒนางานโดยได้แรงบันดาลใจมาจากการเดินทาง ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงการให้ความสำคัญในด้านการค้าแบบเสรีที่ให้ความเป็นธรรมและผลประโยชน์คืนสู่สังคมกระบวนการย้อมผ้าด้วยสีและวัสดุธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์จากราชอาณาจักรภูฏาน นอกจากนี้ยังมีผลงานจากศิลปินชาวไทย ที่มีชื่อเสียงแพร่หลายในระดับสากล อาทิ คุณ วิชชุลดาและคุณวศินบุรีซึ่งเป็นผลงานจากเศษวัสดุเหลือใช้รวมถึงผลงานที่พัฒนาจากวัสดุธรรมชาติและกระบวนการย้อมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยคุณมนัทพงศ์ คุณปราชญ์ คุณปิลันธน์และคุณวาสนา เพื่อนำคำแนะนำต่างๆ ไปพัฒนาศักยภาพ พัฒนาสินค้าของตนเอง ให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ โดยคาดว่าเมื่อสิ้นสุดการจัดงานตลอด 5 วัน จะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 100 ล้านบาทอย่างแน่นอน 

งาน "Crafts Bangkok 2023" จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-30 กรกฎาคมนี้ เวลา 10.00-20.00 น. ณ ฮอลล์ 98-99 ไบเทค บางนา เอาใจคนรักงานคราฟต์ที่จะได้เสพงานศิลป์จุใจ 5 วันเต็ม พบกับผู้ประกอบการที่มาจำหน่ายสินค้าแฮนด์เมดนับหมื่นรายการ ในงานกว่า 400 คูหามารวมไว้ที่นี่ที่เดียว โดยในปีนี้ จะจัดภายใต้แนวคิด “Creative Innovation Green” ต่อยอดอัตลักษณ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อเพิ่มมูลค่าท้องถิ่นด้วยความคิดสร้างสรรค์ จนเกิดเป็นผลงาน Masterpiece เพื่อยกระดับภูมิปัญญาของท้องถิ่นไทยสู่เวทีโลก และผสมผสานกระแสความยั่งยืนของโลก ด้วยการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกับ Green Economy

น.ส.จุฑาทิพย์ กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์เรา สามารถพัฒนาและนำไปจำหน่ายยังต่างประเทศ และลูกค้าเชื่อมั่นในคุณภาพและการเป็นสินค้าที่รักษ์โลก ตอบรับนโยบาย BCG 

ขณะที่นายมนัทพงศ์ กล่าวว่า เราภูมิใจในผลิตภัณฑ์ของเราเป็นอย่างมาก ได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด ทำให้กระจูกจากที่เป็นวัชพืช ตอนนี้ต้องนำมาปลูกเนื่องจากวัสดุเริ่มไม่เพียงพอ 

นายเปรมณัชกล่าวว่า ตนและภรรยานิยมสวมใส่เสื้อผ้าที่ผลิตมาจากธรรมชาติ หรือคราฟ และเห็นถึงความตั้งใจของชาวบ้านที่ทำ ทอด้วยมือ จึงอยากจะส่งเสริมผลิตภัณฑ์ของคนไทย มีสินค้าหลายแบรนด์ส่งออกไปขายต่างประเทศ และมีการพัฒนาด้านการออกแบบด้วย