“อลงกรณ์”คือใคร เคยทำอะไร เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำการฟื้นฟูพรรคประชาธิปัตย์ สถาบันการเมืองเก่าแก่ที่สุดของประเทศในยามที่พรรคตกต่ำถดถอยได้หรือไม่
เขาเป็นคนหนึ่งที่ผลักดันการปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์และการปฏิรูปประเทศมาโดยตลอด คราวนี้ประกาศลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นคนแรก
ลองมาดูประวัติและผลงานโดยสังเขป
ของนายอลงกรณ์ พลบุตร
เขามีความเป็นมาอย่างไรและทำอะไรมาบ้าง
จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโทจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ได้รับประกาศนียบัตรชั้นสูงจากหลายประเทศเช่นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ปอร์ตุเกส ฯลฯ
เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นเลขาธิการสหภาพแรงงานหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยคนแรกและกรรมการสมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย(ปี2524-2528)เป็น1ในแกนนำต่อสู้เพื่อเสรีภาพปลดโซ่ตรวน ปร.42
เคยเป็นหุ้นส่วนเจ้าของและผู้บริหารบริษัทนำเข้าส่งออก บริษัทคอมพิวเตอร์ บริษัทโฆษณา-สื่อมวลชน บริษัทเหมือนแร่ กิจการร้านอาหาร
เป็น ส.ส.สมัยแรกในปี 2535และเคยเป็นกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กรรมาธิการงบประมาณ กรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรหลายคณะเช่นการท่องเที่ยว,การพาณิชย์,การทหารฯลฯ
เป็นเลขานุการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและเลขานุการนายกรัฐมนตรี(ชวน หลีกภัย) ปี 2539-2544
ได้รับฉายา”มิสเตอร์เอทานอล”
ปี 2543-2544 ในฐานะประธานโครงการเอทานอลทำให้มีน้ำมันแก๊ซโซฮอลล์จำหน่ายทั่วประเทศ
เป็น”ดาวเด่นแห่งปีของรัฐสภา”ปี 2546จากผลงานการปราบปรามคอรัปชั่น
ได้รับรางวัล”คนดีสังคมไทย”และรางวัล”บุคคลดีเด่นประจำปี 2548-2549”และคนดีศรีเมืองเพชร”ปี2565
เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และทำหน้าที่รมต.เศรษฐกิจอาเซียน ปี 2551-2554
ได้รับการโหวตให้เป็นรัฐมนตรีที่มีผลงานดีเด่น2ปีซ้อน ปี 2552-2553
ได้รับการคัดเลือกจากนิตยสารอังกฤษ”Intellectual Property Magazine ให้เป็น1ใน50ผู้ทรงอิทธิพลของโลกด้านการพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญา
เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและเคยเป็นเลขาธิการสภาพรรคการเมืองเสรีนิยมและประชาธิปไตยแห่งเอเชีย(CALD)
เป็นผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรรัฐสภาแห่งเอเชีย-แปซิฟิก(APPF:ASIA-Pacific Parliamentary Forum)
เป็นประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติ
เป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติและรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ปี 2558-2560
เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ที่ประชุมการตั้งถิ่นฐานมนุษย์ของสหประชาชาติ (UN-GFHS) ปี2660-2561
สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยประกาศเกียรติคุณให้เป็น ”บุคลากรผู้ทรงคุณค่าต่อขบวนการสหกรณ์ในประเทศไทย “ปี 2563
เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานคณะกรรมการกว่า10คณะเช่นประธานคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรฯ.กับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเทคโนโลยีเกษตร4.0 และประธานคณะกรรมการบริหารศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม(AIC:Agritech and Innovation Center) ระหว่างปี2562-2566
เป็นประธานมูลนิธิWorkdview Climate Foundation (2565-ปัจจุบัน)
เป็นผู้ก่อตั้ง-ประธานและประธานกิตติมศักดิ์มูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทย
เป็นหุ้นส่วนเจ้าของ-ผู้บริหารหลายบริษัทด้านการเกษตร รีสอร์ท และพัฒนาที่ดิน
เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทวิสาหกิจเพื่อสังคม(Social Enterprise)ชื่อRFC(Read For Change)
เป็นอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 4 สมัยและอดีตส.ส.เพชรบุรีและส.ส.บัญชีรายชื่อ6สมัย
เป็นอดีตประธานสาขาพรรคประชาธิปัตย์เพชรบุรี(สาขาพรรคดีเด่น)
เป็นคนที่อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่ปี2534เพียงพรรคเดียว ไม่เคยสังกัดกลุ่มใดในพรรคจนได้รับการเรียกขานว่า”รองฯ.อิสระ”และ ไม่เคยย้ายพรรค
เป็นผู้บรรยายพิเศษปริญญาเอก ปริญญาโทและปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยหลายแห่งเป็นผู้บรรยายพิเศษหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงภาครัฐและเอกชนเช่น บยส. นธป.วตท. Tepcot สวปอ. นบส. วกส. วพน. วิทยาการตำรวจ สถาบันพระปกเกล้า ฯลฯหัวข้อหลัก การปฏิรูปประเทศไทย และอนาคตเศรษฐกิจดิจิตอล(The Future of Digital Economy)ฯลฯ.
มีผลงานเขียนหนังสือ(pocketbook)4เล่มด้านต่างประเทศ วิทยาศาสตร์และการเมือง
“อลงกรณ์”กล่าวตอนหนึ่งในคำแถลงเปิดตัวลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า
“วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ต้องการก้าวใหม่ของตัวเองและโอกาสใหม่จากประชาชนด้วยการแสดงออกถึงภาวะผู้นำที่เข้มแข็งและกล้าหาญบนจุดยืนประชาธิปไตยที่ชัดเจนเพื่อนำประเทศออกจากกับดักความขัดแย้งและวงจรอุบาทว์ด้วยหลักนิติรัฐและธรรมาภิบาลสู่เอกภาพและศักยภาพใหม่ของประเทศเพื่ออนาคตที่ดีกว่าของทุกคน โลกเปลี่ยนเร็วและแข่งขันแรงทั้งการเมือง เศรษฐกิจและเทคโนโลยี ประเทศไทยต้องมีพรรคการเมืองที่ทันสมัยก้าวหน้าทันโลกทันเกมและก้าวใหม่ประชาธิปัตย์คือคำตอบ”
เขาจะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่9ได้หรือไม่ วันที่ 9 กรกฎาคมนี้ คนประชาธิปัตย์จะเป็นผู้ให้คำตอบ.
เดอะ สเตรทแมน
1 กรกฎาคม 2566