วันที่ 26 มิ.ย.66 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้ประชุมร่วมกับคณะสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 โดยในวันนี้เป็นประชุมนัดสุดท้าย ก่อนที่จะมีการสรุปสำนวนคดี นางสาวสรารัตน์ หรือ แอมไซยาไนด์ เพื่อจะส่งให้กับ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ตรวจความเรียบร้อย ในวันศุกร์ที่ 30 มิ.ย. 66 และจะมีการแถลงสรุปสำนวนคดีที่กองปราบ ในวันเดียวกันเวลา 10.00 น. โดยสำนวนคดีทั้งหมด 15 สำนวน แต่ละคดี แอม จะถูกแจ้งข้อหา 6-7 ข้อหา ซึ่งอัตราโทษในแต่ละคดีมันมีอัตราโทษสูงอยู่แล้ว ดังนั้นตำรวจมีความมั่นใจ ในพยานหลักฐานที่สามารถจะเอาผิดได้
สำหรับสารไซยาไนด์ซึ่งเป็นต้นเหตุ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ขณะนี้พนักงานสอบสวนมีหลักฐานชัดเจน ว่า แอม มีการสั่งซื้อไซยาไนด์ทางออนไลน์ตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งในห้วงเวลาดังกล่าว มีผู้เสียชีวิตจำนวนหลายราย โดย แอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนนำไซยาไนด์ไปให้กับเหยื่อหลายราย โดยแอมอ้างว่า เหยื่อได้นำไปทดลองผสมบุหรี่เสพ ส่วนการแจ้งข้อหาเพิ่มบุคคลใกล้ชิดแอม หลังจากที่ได้หารือกับพนักงานอัยการแล้ว เห็นว่า พยานหลักฐานยังไม่สมบูรณ์ จึงยังไม่จำเป็นต้องแจ้ง ซึ่งหลังจากนี้ก็จะมีการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม หากพบผิดจริงก็จะดำเนินการโดยไม่ละเว้น นอกจากนี้ ก็จะมีการสืบสวนสอบสวนในเรื่องของเว็บพนันออนไลน์ที่เส้นทางการเงินของแอม เข้าไปเกี่ยวข้อง 70-80 ล้านบาท ว่ามีเว็บใดบ้าง หรือมีบุคคลใดเข้าไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนันดังกล่าว นอกจากนี้ตำรวจก็จะไปสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่มีการปล่อยปะละเลย ให้มีการอนุญาตนำสารไซยาไนด์ออกมาจำหน่าย
ส่วนที่ทนายออกมากล่าวหาว่า พนักงานสอบสวนกดดัน ทำให้ แอม มีอาการเครียด จนเกิดภาวะแท้งลูก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ในการสอบปากคำนางสาวแอมทุกครั้ง ภายในเรือนจำ จะได้รับอนุญาต และการดูแลจากกรมราชทัณฑ์เป็นพิเศษ โดยไม่มีการข่มขู่หรือบังคับผู้ต้องหาแต่อย่างใด ส่วนทนายความสามารถที่จะพูดอะไรก็ได้ สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตของทารก จะต้องให้แพทย์ เป็นผู้ระบุถึงสาเหตุ
ส่วนประเด็นที่ของ แอม พิจารณา อาจจะฟ้องกลับ พนักงานสอบสวน พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ระบุว่า ก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่สามารถทำได้ ก็ไม่มีความกังวลที่ทางทนายของแอมจะฟ้องร้องกลับ