เปิดปฏิบัติการ stop cyber corruptions รวบเจ้าหน้าที่องปกครองส่วนท้องถิ่น 5 แห่งยักยอกเงินหลวงผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์รวมกว่า 80 ล้านบาท
วันที่ 14 มิ.ย.66 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และนายกฤษณ์ กระแสเวส รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. แถลงผลการจับกุมของ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป.ร่วมแถลงข่าวเปิดปฏิบัติการ stop cyber corruptions จับกุมเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 5 แห่งยักยอกเงินหลวงผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์รวมกว่า 80 ล้านบาท
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากสำนักงาน ป.ป.ท. ว่า ตรวจสอบความผิดปกติในการเบิกจ่ายเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยโอนเงินผ่านระบบอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและบัญชีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยักยอกเงินงบประมาณของทางราชการไปใช้จ่ายส่วนตัว โดยใช้อำนาจหน้าที่ที่สามารถเข้าถึงรหัสการเบิกถอนเงินจากธนาคาร ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและบัญชีชำนาญการเทศบาลตำบลลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ที่ได้ยักยอกเงิน 215 ครั้ง เป็นเงินกว่า 15 ล้านบาท และเจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี อบต.วังโพรง จังหวัดพิษณุโลก ยักยอกเงิน 132 ครั้ง เป็นเงินกว่า 44 ล้านบาท
ล่าสุดได้เปิดปฏิบัติการเพิ่มเติมอีก 5 จังหวัด หลังพบมีความผิดปกติทางการเบิกจ่ายเงินเช่นกัน และมีเจ้าพนักงานการเงินและบัญชีชำนาญการ อบต.นิลเพชร จังหวัดนครปฐม ยักยอกเงิน 23 ครั้ง เป็นเงินกว่า 8 ล้าน 3 แสนบาท , ผู้ช่วยเจ้าพนักงานการเงินและบัญชี อบต.หนองหัวโพ จ.สระบุรี ยักยอกเงิน 84 ครั้ง เป็นเงินกว่า 4 ล้าน 9 แสนบาท , ผู้ช่วยนักพัฒนาชุใชน ปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยเจ้าพนักงานการเงินและบัญชี อบต.ห้วยยายจิ๋ว จังหวัดชัยภูมิ ยักยอกเงิน 60 ครั้ง เสียหายกว่า 5 ล้าน 8 แสนบาท , นักวิชาการเงินและบัญชี อบต.โคกหล่าม จังหวัดศรีสะเกษ ยักยอกเงินไป 8 ครั้ง เป็นเงินกว่า 5 แสน 4 หมื่นบาท และผู้อำนวยการกองคลัง อบต.นาเขลียง จังหวัดนครศรีธรรมราช ยักยอกเงิน 59 ครั้ง เป็นเงินกว่า 4 ล้านบาท โดยโอนเงินไปให้กับภรรยา และลูกจ้าง ซึ่งถูกดำเนินคดีในฐานะผู้สนับสนุนการกระทำความผิดด้วย
สำหรับการตรวจจับใน 7 คดีนี้ เบื้องต้นทำให้เกิดความเสียหายกว่า 84 ล้านบาท ซึ่งตำรวจยังเชื่อว่ามีอีกหลายแห่งที่ยังมีการลักลอบก่อเหตุแบบนี้อยู่ หลังจากนี้ก็จะร่วมสืบสวนกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งได้ความร่วมมือจากธนาคารกรุงไทย ในฐานะเจ้าของบัญชีที่ใช้เบิกจ่ายเงินของทางราชการจนนำไปสู่การสืบสวนและจับผู้ก่อเหตุได้
ขณะที่พันตำรวจโทศิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 สำนักงาน ป.ป.ท. เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบประวัติการใช้เงินของผู้ต้องหาพบว่าเกี่ยวข้องกับการเล่นพนันออนไลน์ทั้งหมด โดยได้ตรวจสอบย้อนหลังไปตั้งแต่ปี 2564 รวมทั้งตรวจสอบบัญชีเงินเดือนของผู้ต้องหาที่พบไม่มีความสอดคล้องกับจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชี
ส่วนผู้ต้องหาที่ได้รหัสผ่านการควบคุมบัญชีมาแล้ว ก็จะปิดการแจ้งเตือนการตัดเงินออก ทำให้ผู้ที่ดูแลตรวจสอบในระดับที่สูงกว่าไม่ทราบได้ว่ามีเงินออกจากบัญชี และบางคนก็มอบรหัสผ่านให้กับคนที่ดูแลบัญชีด้วยความไว้ใจ บางคนเป็นญาติกันเอง และไม่ทำตามระบบที่วางไว้ทำให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก
ด้านนายกฤษณ์ กระแสเวส รองเลขาธิการป.ป.ท. เปิดเผยว่า การตรวจจับครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตรวจพบความผิดปกติในระบบการเบิกจ่ายผ่านบัญชีธนาคาร และในระบบการเบิกจ่ายของอบต. จะต้องมีอย่างน้อย 3 คน และต้องรายงานบัญชีที่โอนเงินไปด้วย แต่ส่วนใหญ่ที่พบคือ คนที่จะต้องร่วมตรวจสอบการโอนเงิน ก็จะมอบหมายให้เพียงคนเดียวทำธุรกรรมไปทั้งหมด