วันที่ 1 มิ.ย.66 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ คดี อ.1090/2566 ที่ นางสรารัตน์ หรือ แอม ผู้ต้องหาคดีวางยามาตรกรรมเหยื่อหลายราย ฟ้องนายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานเหยื่อคดีแอม ไซยาไนด์ ฐานความผิดหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ ทนายพัช ทนายความโจทก์มาในฐานะผู้รับมอบอำนาจ นางสรารัตน์ หรือแอม ในคดีเพื่อเป็นพยานเบิกความต่อศาล ขณะที่นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายของนายรพี ฝ่ายจำเลย ที่ถูกฟ้องก็เดินทางมาพร้อมทำซักค้านโดยมีนายรพี  ตัวแทนมูลนิธิวินวิน ญาติของผู้เสียหายบางส่วนก็เดินทางมาศาลเพื่อร่วมฟังกระบวนพิจารณาด้วย ส่วนนางสรารัตน์ หรือ แอม ในวันนี้ฐานะโจทก์ ไม่ได้มีการเบิกตัวมาจากทัณฑสถานหญิงกลาง

นายรพี กล่าวก่อนขึ้นฟังการพิจารณาคดีว่า มูลเหตุการฟ้องร้อง มาจากการที่ไปออกรายการ “ถกไม่เถียง” เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา ได้กล่าวในรายการว่า แอม โกหกเจ้าหน้าที่จนหัวปั่น และหลอกตำรวจ จึงทำให้แอมฟ้องร้องในวันที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งตนเองเสียใจว่า ตนตามคดีนี้จนตำรวจออกหมายจับแอมหลายคดี และการพูดในรายการโทรทัศน์ “ถกไม่เถียง”ก็เป็นการพูดตามข้อเท็จจริง ทั้งนี้รู้สึกเสียใจว่า ตนช่วยตามคดีให้กับญาติของผู้ตาย จนตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับแอมได้ แต่ต้องมาถูกฟ้องเป็นจำเลย รวมทั้งอ้างว่าจะฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจ ญาติผู้เสียชีวิต และสื่อมวลชนด้วย จึงมองว่าเป็นการฟ้องเพื่อปิดปาก ไม่ให้ออกมาเปิดเผยข้อเท็จจริง ทั้งที่การทำหน้าที่และออกมาเปิดเผยข้อมูลต่างๆ นั้นเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และก่อนหน้านี้ตนเองเคยบอกแอมว่า ให้ยอมรับความจริง จะได้ไม่มีความผิดมากไปกว่านี้

ด้านนายเดชา ทนายความนายระพรี กล่าวว่า วันนี้เตรียมพยานหลักฐานเพื่อใช้ในการไต่สวน เป็นบันทึกการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหมายจับแอม จำนวน 15 คดี รวมทั้งคลิปวิดีโอที่แอมพูดคุยกับตำรวจสภ.บ้านโป่งว่าถูกแอมหลอกจนหัวปั่น มายื่นเพื่อพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่านายระพีพูดตามข้อเท็จจริง ไม่ได้พูดหมิ่นประมาท เพราะเป็นการพูดไปตามที่ตำรวจกองปราบปรามและตำรวจกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พูดไว้ อย่างไรก็ตามเบื้องต้นพิจารณาจากข้อความดังกล่าวแล้ว ไม่น่าจะเข้าข่ายหมิ่นประมาท ดังกล่าวหากศาลยกฟ้อง ก็อาจจะดำเนินการฟ้องกลับข้อหาฟ้องเท็จ เบิกความเท็จ ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกสูงสุดรวมกัน 12 ปี

โดยการไต่สวนมูลฟ้องวันนี้เริ่มเวลา 17.00 น. โดย น.ส.ธันย์นิชา ได้เบิกความ เกี่ยวกับพฤติการณ์ตามฟ้อง ขณะที่นายเดชา ทนายจำเลยก็พยายามซักค้านในประเด็นต่างๆจนเสร็จสิ้น และทนายพัช ได้เบิกความและตอบคำถามค้านของทนายจำเลยจนเสร็จสิ้น และได้แถลงต่อศาลขอให้เบิกตัว นางสรารัตน์ หรือ แอม กับ แม่แอม โดยศาลพิจารณาแล้ว ให้นัดไต่สวนมูลฟ้องอีกครั้งเนื่องโจทก์ประสงค์เบิกความเพิ่มเติมอีก 2 ปาก วันที่ 24 ก.ค.2566 เวลา 13.30 น.

ภายหลังไต่สวนมูลฟ้องแล้ว น.ส.ธันย์นิชา หรือ ทนายพัช ทนายความโจทก์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนเองเบิกความเพียง 1 ปาก ซึ่งศาลนัดไต่สวนอีกครั้งในวันที่ 24 ก.ค.2566 โดยศาลอนุญาตให้เบิกตัวนางสรารัตน์ หรือ แอม โจทก์มาเบิกความ นอกจากนี้ยังมีพยานอื่นอีก 1 ปากด้วย ยืนยันว่าการยื่นฟ้องหมิ่นประมาทเป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย ส่วนที่นายเดชา ทนายความจำเลย ให้สัมภาษณ์ว่าหากคดียกฟ้อง จะฟ้องกลับนั้น ก็ไม่ได้กังวล เพราะหากศาลเห็นว่าเป็นการใช้สิทธิฟ้องคดีโดยชอบ ก็อาจจะดำเนินการฐานกลั่นแกล้งได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามตนเองกับนายเดชา ก็เจอหน้าและพูดคุยกันแล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ต่างคนต่างก็ทำตามหน้าที่ในฐานะทนายความ