‘มงคลกิตติ์’ พร้อมสมาชิกพรรคฯ รับรางวัล พระพิฆเนศวร์ ประจำปี 2566 สาขาผู้ทำคุณประโยชน์เพื่อสังคมดีเด่น  เผยเป็นกำลังใจในการทำงานทางการเมืองในอนาคต พร้อมมุ่งมั่นทำประโยชน์ต่อสังคมอย่างต่อเนื่องต่อไป

ที่หอประชุมใหญ่ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ TOT แจ้งวัฒนะ  นายมงคลกิตติ์  สุขสินธารานนท์   อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วย นายสรกฤช จันทรคณา รักษาการโฆษกพรรคฯ และ น.ส. อรศศิพัชร์ มามีเกตุรัตน์ หรือ ลูกศร อดีตผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคไทยศรีวิไลย์ เข้ารับรางวัลพระพิฆเนศวร์ (รางวัลแห่งความสำเร็จ)  ประจำปี 2566 สาขาผู้ทำคุณประโยชน์เพื่อสังคมดีเด่น ทั้งนี้ ภายในงาน มีศิลปิน ดารา ผู้บริหาร และจิตอาสา ที่ได้รางวัลดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

          

โดย นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ตนขอขอบคุณคณะกรรมการและผู้จัดงานมอบรางวัลดังกล่าว ซึ่งได้เล็งเห็นถึงบทบาทของตนในการทำงานในสภาและนอกสภามาตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยถือว่า เป็นผลตอบแทนจากการทำงานเพื่อประชาชนของตนและสมาชิกพรรคไทยศรีวิไลย์ ในการปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน เช่น การยับยั้งก่อนสถานการณ์โควิดจัดซื้อเครื่องบิน 38 ลำ งบประมาณ 1.56 แสนล้านบาท ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)  ที่ส่อไปในทางทุจริต เมื่อปี 2562-2563 การตรวจสอบทวงภาษีโตโยต้ารุ่น พรีอุส 11,667 ล้านบาทสำเร็จ(2555-2565) การยับยั้งการออกกฏหมายขายที่ดินให้ต่างชาติแลกเงินกู้รัฐบาลผ่านพันธบัตร 40 ล้านบาทต่อ 1 ไร่ สำเร็จ การตรวจสอบดำเนินคดีการทุจริตงบไทยเข้มแข็ง ปี 2553-2555 โครงการจัดซื้อคุรุภัณฑ์อาชีวะศึกษา  การตรวจสอบดำเนินคดีการก่อสร้างสนามฟุตซอลปี 2557-ปัจจุบัน การตรวจสอบยับยั้งกรณีโครงการจัดทำป้ายชื่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวนกว่า 33 ล้านบาทและโครงการอื่นๆอีกมากมาย เป็นต้น

“ถึงแม้ว่า ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาล่าสุด ทางพรรคฯ จะไม่ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้  แต่เมื่อทางคณะกรรมการผู้มอบรางวัลฯ  เห็นว่า ตนและเพื่อนสมาชิกพรรคไทยศรีวิไลย์ คือ นางสาวภคอร จันทรคณา อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์  รางวัล สาขา นักบริหารองค์กรหญิงดีเด่น  และนางสาวอรศศิพัชร์ มามีเกตุรัตน์  อดีต ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 29 รางวัล สาขา นักแสดงละครพื้นบ้านดีเด่น มีความเหมาะสมที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ก็ถือเป็นกำลังใจอย่างยิ่ง ในการทำงานทางการเมืองในอนาคต ซึ่งอย่างน้อยๆ ในช่วงเวลาก่อนที่จะมีการเลือกตั้งครั้งต่อไป ก็จะได้มีการนำผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา มาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของพรรคฯ ให้ทันสมัย ตอบโจทย์คนไทยทุกรุ่น รวมทั้ง จะผลักดันคนใหม่ๆ ที่มีอุดมการณ์เดียวกันกับพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่จะได้ทำงานรับใช้คนไทยทั่วประเทศ โดยยึดหลักการประชาธิปไตยและเน้นการสร้างคุณประโยชน์เพื่อสังคมและสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง เพราะตนและสมาชิกพรรคฯ มีความเชื่อมั่นว่า พรรคไทยศรีวิไลย์ จะดำเนินกิจกรรมทางการเมืองไปตลอดเป็นระยะเวลายาวนานด้วย”

             

“ผมต้องขอขอบคุณ ทางคณะกรรมการผู้มอบรางวัลพระพิฆเนศวร์ (รางวัลแห่งความสำเร็จ)  ประจำปี 2566 ที่ได้เล็งเห็นผลงานของนักการเมืองที่มาจากพรรคการเมือง ที่มีความตั้งใจในการทำงานทางการเมืองเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง  จนทำให้ผมและสมาชิกพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้รับรางวัลที่ถือเป็นการการันตีว่า พรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นพรรคการเมืองที่ทำคุณประโยชน์เพื่อสังคมไทย ซึ่งถึงแม้ว่า ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ผมและพรรคไทยศรีวิไลย์ จะไม่ประสบความสำเร็จตามที่มุ่งหวัง แต่นั่นก็ไม่ทำให้ผมท้อถอยในการทำประโยชน์เพื่อสังคมต่อไป  ดังนั้น หลังจากนี้ ผมก็จะมุ่งมั่นทำประโยชน์เพื่อสังคม ตามแนวทางของผมไปเรื่อยๆ เพราะขณะนี้ คนไทยจำนวนมากก็ยังวิตกกังวลถึงความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรเนิ่นช้าจนเกินไป” นายมงคลกิตติ์กล่าว