เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 พ.ค.66 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายความ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (24 พ.ค.66) ตนได้เข้าไปเยี่ยมนางสรารัตน์ หรือ แอม ไซยาไนด์ ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เธอยืนยันให้ตนเป็นทนายเช่นเดิม แต่ตนแจ้งว่าเธอจะต้องรับสารภาพคดีก้อย พร้อมกับโชว์เอกสารใบแต่ตั้งทนายความจาก แอม ไซยาไนด์ ลงวันที่ 16 พ.ค.2566 ซึ่งเป็นวันเดียวกันที่ น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ “ทนายพัช” ระบุว่ายังเป็นทนายอยู่เหมือนกัน

โดยทนายกฤษณะ ระบุว่า "เยี่ยมเสร็จทนายคนแรกมานั่งรอพบแอมเฉยเลย สังเกตผมเข้ามาปุ๊บทนายคนแรกจะมาหลังผมทันที ซึ่งล่าสุดแอม เบี่ยงเบนประเด็นคงลืมคำพูดเดิม และบอกเรื่องลูกกับผมว่าคือลูกของใคร และบอกผมว่าใครคือคนแนะนำให้ส่งพัสดุ อีกทั้งยังบอกว่าผู้ที่รับพัสดุรู้เรื่องที่ส่งพัสดุ ถ้าไม่รู้จะทราบที่อยู่ได้อย่างไร แอม เริ่มซัดไปที่พยานที่รับพัสดุ สรุปเมื่อวานเข้าไปแอม บอกไม่เคยคิดจะถอนผมเลย ยังให้ช่วยต่อไปทุกคดี แต่ผมมีข้อแม้ว่าคดีก้อย ต้องรับสารภาพเท่านั้นพี่ถึงจะช่วยคดีอื่นแต่ขอดูสำนวนก่อน ส่วนที่แอม สงสัยว่า ทนายคนแรกโดนแจ้งข้อกล่าวหาจะเป็นทนายให้แอมได้หรือไม่ ผมตอบได้แค่ว่า แล้วศาลจะเชื่อไหมละคิดเอาเองว่า จะรับหรือจะสู้ แต่ถ้าทนายคนแรกสู้พี่จะนั่งดูเฉยๆ แล้วจะถอนตัว แต่เท่าที่คุยแอม ไม่รับสารภาพ ขณะคุยร้องไห้ตลอดห่วงคนข้างนอกมากแต่สภาพร่างกายเมื่อวานซูบผอมอย่างเห็นได้ชัดและคิดฆ่าตัวตายตลอดเวลา"

"หมายเหตุ ทุกถ้อยคำพูดของแอม ผมจะรับฟังอย่างระมัดระวังเกรงจะเป็นการให้ร้ายผู้อื่น ที่สำคัญเขาห่วงแก้วมากและยอกไม่อยากให้แก้วต้องมาเกี่ยวข้อง"

ผู้สื่อข่าวเข้าไปตรวจดูเฟซบุ๊กส่วนตัวบัญชี "ทนายกฤษณะ-ทนายแม๊" ที่โพสต์ว่า

"เมื่อวาน แอมซุบผอมลงมากน้ำหนักลด10กิโล ความดันขึ้น หมอให้ยาลดความดัน บ่นคิดฆาาตัวตาย#ยืนยันให้ผมเป็นทนายเช่นเดิม#แต่ผมมีเงื่อนไขคือต้องรับ
สารภาพเท่านั้น#เจ้าตัวขอคิดทบทวนอีกครั้ง#สักพักมีทนายคนสวยรอต่อคิว รู้ได้ยังไงว่าเรามา"

ปรากฎว่า ได้มีการลบทิ้งไปแล้ว