กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม' จัดเวทีปราศัยเสวนา เรียกร้อง ส.ว. โหวต 'พิธา' เป็นนายกรัฐมนตรี / ขณะที่ช่วงท้ายเกิดเหตุชลมุน กลุ่มทะลุวัง พยายามบุกติดป้ายเจตจำนงประตูรัฐสภา

วันนี้ (23 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของ 'กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม' ที่หน้าอาคารรัฐสภา  โดยหลังได้มีการนัดหมายทำกิจกรรมเพื่อเรียกร้องให้ ส.ว. ร่วมโหวต นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี และเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในวันที่ประชุมวุฒิสภา ภายใต้หัวข้อ 'ส.ว.ต้องไม่สวนมติประชาชน'  

โดยกิจกรรมเริ่มขึ้นเวลาประมาณ 18.00น. ในรูปแบบเวทีเสวนา แลกเปลี่ยนความคิดถึงหลักการและเหตุผลว่าทำไมถึงต้องให้ ส.ว. สนับสนุนนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีนักวิชาการมาร่วมพูดคุย อาทินายอุเชน เขียงเสน, นายอนุสรณ์ อุณโณ และนายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการไอลอว์ 

จากนั้นทางตัวแทนของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้อ่านแถลงการณ์ ที่ขอให้สมาชิกวุฒิสภาเคารพเจตนารมณ์ของประชาชนในการลงมติเห็นชอบให้ผู้ที่ได้รับเสียงข้างมากจากประชาชนดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า 'สืบเนื่องจากวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ได้มีการจัดเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผลปรากฏว่าพรรคก้าวไกล ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมาเป็นลำดับที่ 1 โดยได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 152 ที่นั่ง และสามารถรวมเสียงจากพรรคการเมืองอื่น ๆ ในการจัดตั้งรัฐบาลรวมกันได้มากกว่ากึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนฯ จึงหมายความว่าพรรคก้าวไกล มีสิทธิอันชอบธรรมโดยสมบูรณ์ในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ปรากฏว่า สมาชิกวุฒิสภาบางท่าน แสดงท่าที่ไม่เห็นด้วยในการเลือกนายกรัฐมนตรีอที่มาจากเจตจำนงค์และความต้องการส่วนใหญ่ของประชาชน

ด้วยท่าที่ของสมาชิกวุฒิสภาบางท่าน ที่ปฏิเสธเจตจำนงของประชาชน นำมาซึ่งการตั้งคำถามต่อสมาชิกวุฒิสภา ในการดำรงไว้ซึ่งหลักการพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ที่ประชาชนไม่ว่าจะมีฐานะ หรือสถานภาพแตกต่างกันก็ ล้วนมีหนึ่งสิทธิหนึ่งเสียงเท่ากัน ทั้งนี้ ด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีของสมาชิกวุฒิสภา จึงขอให้ สมาชิกวุฒิสภา เคารพเจตจำนงของประชาชน โดยการลงคะแนนเสียงเห็นชอบ ให้ตัวแทนพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากที่สุด ในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และสนับสนุนให้พรรคการเมืองที่มาจากประชาชนในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชน เพื่อให้การกระทำที่สง่างามและตามหลักการของประชาธิปไตยในครั้งนี้ ถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการอ่านแถลงการณ์ เกิดเหตุชุลมุนขึ้นด้านหน้าอาคารรัฐสภา โดยนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือสายน้ำ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และกลุ่มทะลุวัง นำมวลชนบางส่วน พยายามเข้าไปริมประตูอาคารรัฐสภาเพื่อติดแผ่นป้ายไวนิลระบุข้อความด่าทอ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แต่ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของเวทีเสวนาได้เข้ามาห้ามปราม และขอให้ยุติการทำกิจกรรมดังกล่าว เนื่องจากพื้นที่ที่ต้องการติดไวนิลเป็นพื้นที่นอกเหนือการขออนุญาตและการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ประจำรัฐสภา นอกจากนี้ยังถือเป็นการผิดวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรม ที่ต้องการเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ไม่ใช่การกดดันสร้างความรุนแรง ขณะเดียวกันทางกลุ่มดังกล่าวยังมีการนำรูปวาด พร้อมตะโกนข้อความยกเลิกมาตรา 112 แต่ป้ายข้อความที่เอามาชูมีข้อความว่า ‘คัดค้าน มาตรา 112’ แต่คัดค้านในที่นี่เป็นการล้อเลียน ซึ่งความหมายที่แท้จริงคือ เรียกร้องให้ยกเลิก ม.112 ทำให้บริเวณที่จัดงาน เกิดความวุ่นวายขึ้นเล็กน้อยเนื่องจาก 

ทำให้ ผู้ที่มาฟังเวทีเสวนาไม่เห็นด้วยกับการทำกิจกรรมของกลุ่มดังกล่าว จึงได้มาแสดงจุดยืนเช่นกันว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการจัดตั้งรัฐบาลโดยนายพิธา จึงไม่อยากให้มีภาพของความรุนแรงความวุ่นวายเกิดขึ้น เพราะการจัดตั้งรัฐบาลก็ยากลำบากอยู่แล้ว ไม่อยากให้จะกระทบต่อการโหวตนายก และไม่อยากให้ถูกมองว่า มวลชนที่สนับสนุนก้าวไกลเป็นพวกหัวรุนแรง ต่อมาและเมื่อทางคณะผู้จัดงานมาทำความเข้าใจแลัว ทำให้ กลุ่มทะลุวัง นำป้ายไวนิล ที่ตอนแรกจะผูก บริเวณริมทางเข้าอาคารรัฐสภา พร้อมกับรูปวาดที่นำมาวางไว้ที่พื้นบริเวณทางเข้าออกของอาคารแทน

กระทั่งเวลา 20.00 น. ทางบนเวทีเสวนา 'ส.ว.ต้องไม่สวนมติประชาชน' ของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กลุ่มทะลุวัง ได้ประกาศยุติกิจกรรมในวันนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมต่างพากันแยกย้ายเดินทางกลับบ้าน