เมื่อวันที่ 14 พ.ค.66 นายสามารถ  เจนชัยจิตรวนิช  อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  กล่าวว่า  ได้ฟังการปราศรัยโค้งสุดท้าย ของนายพิธา  ลิ้มเจริญรัตน์  หัวหน้าพรรคก้าวไกล  ที่จัดขึ้น ณ สนามกีฬาไทยญี่ปุ่นดินแดง    ซึ่งตลอดการปราศรัยชัดเจนว่า  นายพิธาพูดในเชิงปลุกระดม  เพื่อต้องการเปลี่ยนแปลงแนวคิดเยาวชนคนรุ่นใหม่  ทั้งการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร  หรือการกล่าวถึงน้องหยก มาตรา 112  ซึ่งการปราศรัยเหล่านี้ล้วนชัดเจนว่าเป็นการปลุกระดมทั้งสิ้น 

 ”นายพิธา  พูดถึงการยกเลิกเกณฑ์ทหาร  พูดถึงน้องหยก ม.112   เรื่องเหล่านี้ปลุกระดมทั้งสิ้น  ... สิ่งสำคัญที่สุด เราจะเห็นว่าการลงคะแนนไม่เหมือนเดิม   ตอนนี้เป็นเรื่อง เจนเนอเรชั่น มากขึ้น   สมัยตอนผมเลือกตั้งครั้งแรก  ผมก็เคยเลือกพรรคไทยรักไทย และ พรรคประชาธิปัตย์  แต่ปัจจุบัน คนเลือกตั้งครั้งแรก ไม่มีพรรคของคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดเปลี่ยนแปลงที ให้เยาวชนคนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาทในการเมือง  นอกจากพรรคก้าวไกล  ซึ่งผลการเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้จะเป็นสิ่งบ่งชี้  ว่าต้องมีการตั้งพรรคของคนรุ่นใหม่แต่ต้องเป็นพรรครักสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย    ไม่งั้นพรรคก้าวไกล  ก็จะหล่อหลอมเปลี่ยนความคิดของเขาเหล่านั้นทั้งหมด  แล้วประเทศจะเดินได้อย่างไร...? “

นายสามารถ  กล่าวว่า  ไม่แปลกใจที่นายพิธา  ถือหุ้น บ.ไอทีวี จำกัดมหาชน  โดยรายชื่อปรากฎในบัญชีรายงานผู้ถือหุ้นหลักทรัพย์  ลำดับที่  6,121    นายพิธาบอกว่ามีการแจ้งเรื่องไปยัง คณะกรรมการ ปปช. แต่ดันไม่ส่งเรื่องไปสอบถามยังคณะกรรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.   เพราะหากส่งเรื่องไปตามขั้นตอนไปทาง กกต จริง   นายสามารถ เชื่อมั่นว่า  นายพิธา จะถูก กกต. ตัดสินทางการเมือง ต้นเหตุถือหุ้นสื่ออย่างแน่นอน  ทำให้เชื่อได้ว่า  นายพิธา มีแผนกลอุบายคือกระเบื้องล่อหยก

 “ ถ้าอ้างเป็นผู้จัดการมรดก  ในทางกฎหมายแพ่งพาณิชย์  ระบุต้องจัดการให้เสร็จใน 1 ปี  แต่นี่ล่วงเลย  มาตั้งแต่ปี 2549  จนถึงปัจจุบัน    การเลือกตั้งปี 2562  ก็ไม่ได้ส่งเรื่องถาม กกต.  จึงเข้าข่ายใช้กลอุบาย แผน กระเบื้องล่อหยก อย่างที่ผมเคยบอกจริงๆ...”

นายสามารถ  กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า  ปัจจุบันมีพรรคการเมืองที่หลากหลายมากกว่าในอดีต  ถึงเวลาแล้ว ที่ผู้ใหญ่ในการเมืองต้องมีพรรคของคนรุ่นใหม่  ที่รักสถาบัน    หากมีพรรคการเมืองเหล่านี้จริง

ผมก็พร้อมจะเข้าร่วมทำงานการเมืองให้กับคนรุ่นใหม่  ที่ทำเพื่อประชาชน แน่นอน    การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น  เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนอย่างแน่นอน  ผมจบวิศวะจะเชื่อถือตัวเลขเป็นหลัก ตัวเลขไม่เคยหลอกใครดังนั้น พรุ่งนี้หลังปิดหีบ เราจะได้เห็นว่าแนวคิดเป็นไปตามที่มองไว้หรือไม่