“สามารถ” ไม่แปลกใจทำไมโพล “ก้าวไกล” มาแรง เชื่อเป็นเรื่องของรุ่นวัย

“สามารถ” ไม่แปลกใจทำไมโพล “ก้าวไกล” มาแรง ย้ำไม่ใช่เรื่องเสรีประชาธิปไตย แต่เป็นเรื่องของพฤติกรรมผู้บริโภค เป็นเรื่องของรุ่นวัย

เมื่อวันที่ 6 พ.ค.66 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้แสดงความคิดเห็นผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว มีข้อความระบุว่า  ผมเองได้รับข้อมูลจากพ่อแม่พี่น้องประชาชน ส่งข้อมูลมาให้ผมว่าผลโพล หลายสำนัก ได้หยิบยกให้พิธา มีคะแนนนิยมสูงกว่า อุ๊งอิ๊ง  แล้วนักข่าวหลายสำนักก็มาเชื่อมโยงว่า เป็นฝ่ายเสรีประชาธิปไตย มีคะแนนความนิยมสูงกว่าฝ่าย อนุรักษ์นิยม ซึ่งผมอยากจะบอกว่า ตอนนี้โลกทัศน์ทางการเมืองเปลี่ยนไปแล้ว ไปใช่เรื่องของฝ่ายซ้าย หรือ  ฝ่ายขวา   ไม่ใช่เรื่องของสีเสื้อที่เคยถูกแบ่งเป็นเสื้อเหลือง หรือ เสื้อแดง แล้ว แต่ตอนนี้เป็นเรื่องของวัย  ดังจะเห็นได้ว่าวันนี้นักเศรษฐศาสตร์ของสังคมไทยนั้นมีการแบ่งเรื่องของรุ่นวัยไว้ประมาณ  4 กลุ่มด้วยกันคือ  ซึ่งผมจะหยิบยกสัดส่วนประชากรในปีพ.ศ.2566 มาให้เห็นภาพจะได้เข้าใจว่าทำไม ผลโพลถึงทำให้พิธาแซงอุ๊งอิ๊ง

กลุ่ม 1 Baby Boomer หรืออีกนัยหนึ่งคือ กลุ่มผู้สูงวัย ซึ่งได้แก่ กลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 59-77ปี มีประชากร 11,153,133 คน 

กลุ่มที่ 2 คือ Gen X ซึ่งได้แก่ กลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง. 43-58 ปี  มีประชากร 16,091,150  คน 

กลุ่มที่ 3 คือ Gen Y อายุระหว่าง 27-42ปี   มีประชากร 15,144,468 คน 

กลุ่มที่ 4 คือ Gen Z อายุระหว่าง 11-26ปี    มีประชากร   7,670,354 คน  

ส่วนอีกกลุ่มเรียก silent gen  มีอายุระหว่าง 78-98 มีประชากร 2,227,540 คน

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าจากกลุ่มตัวอย่างที่ถูกแบ่งเป็นเจเนอเรชั่นเป็นช่วงวัยจะเห็นได้ว่ากลุ่มเจนแซด และเจนวายมีสัดส่วนถึงประมาณ 22,700,000 คนส่วนกลุ่มเจนเอ็กซ์และเบบี้บูมเมอร์ก็มีสัดส่วนอยู่ประมาณ27,100,000 คนจะเห็นได้ว่า มีสัดส่วนใกล้เคียงกันแต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นที่ทำให้โลกทัศน์ทางการเมืองเปลี่ยนไปไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มีเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดง  ที่เรามักจะเรียกว่าฝ่ายเสรีประชาธิปไตยกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม ซึ่งทุกวันนี้ไม่ใช่แล้วจะเห็นได้จากผลโพลไม่ว่าจะเป็นนิด้าโพล   เนชั่นโพล  หรือล่าสุดไทยรัฐโพล  จะเห็นได้ว่าคะแนนของคุณอุ๊งอิ๊งไม่ชนะคะแนนของคุณพิธา  อ้างอิงจากไทยรัฐโพล  จะเห็นได้ว่าตกลงเรื่อยเรื่อยจากเดือนมีนาคม  มีความนิยมที่ 34% เมษายน   มีคะแนนความนิยมอยู่ที่ 24% และครั้งสุดท้ายวันที่ หนึ่งพฤษภา  คะแนนคุณอุ๊งอิ๊งเหลืออยู่ 18% ในทางเดียวกันคะแนนความนิยมของคุณเศรษฐาก็ลดลงเช่นเดียวกันหลังจากเปิดตัวแต่ในทางกลับกันคะแนนของคุณพิธาเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเปิดตัว 23% ขึ้นมา 35% และปัจจุบันขึ้นมาถึง 38% เพราะว่าคะแนนของคุณพิธาหรือพรรคก้าวไกลได้รับความนิยมจากคนในเจเนอเรชั่นวายและแซด  จะเห็นได้จากในโลกโซเชียลที่มีการpromote พรรคดังกล่าวมากมายแต่  ในพรรคการเมือง อื่นไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติหรือพรรคอื่นๆถูก ถูกคนกลุ่มดังกล่าวมองว่าเป็นพรรคของผู้สูงอายุหรือพรรคคนแก่  เพราะเด็กหรือวัยรุ่นไม่ได้มีบทบาทในพรรคหรือจะมองให้สอดคล้องกับผลดีเบตในเวทีต่างๆ    ถ้าเอาผลโพลมาดูเชื่อมโยงกับการอภิปรายในเวทีดีเบตจะเห็นได้ว่าพรรคก้าวไกลมีคะแนนความนิยมเพิ่มขึ้นในทุกครั้งหลังจากจบการดีเบต  ดังนั้นจึงเป็นเสียงสะท้อนให้เห็นว่าการที่เราจะมองโลกการเมือง แบบเดิมใช้ไม่ได้แล้ว   อย่าลืมว่าวันนี้คนในเจนวายและแซด   เขาต้องการพรรคการเมืองของเขาคือพรรคของวัยรุ่นหรือวัยเดียวกับเขา   แต่ในปัจจุบันไม่มีพรรคการเมืองไหนที่แสดงออกให้เขาเชื่อได้ว่าเป็นพรรคของเขามันจึงทำให้คะแนนไปพุ่งขึ้นที่พรรคก้าวไกลทั้งหมด   เพราะพรรคก้าวไกลมีคนในพรรคที่เป็นผู้สูงอายุแต่เขาไม่เคยเอาออกมาโชว์บนเวทีเลย   เพราะเขาต้องการแสดงในจุดยืนว่าเป็นพรรคของวัยรุ่นเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ที่จะต้องการเปลี่ยนแปลงการเมืองเปลี่ยนแปลงอำนาจทางการเมือง 

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่าลืมคนกลุ่มเจนเนอเรชั่นเอ็กซ์และเบบี้บูมเมอร์มีหลายพรรคการเมืองมาแย่งคะแนนกันไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐพรรคภูมิใจไทย ก็ต่างหาหนทาง  หาคะแนนกับคนกลุ่มนี้    ดังนั้นหัวคะแนนแกนนำหรือการจัดตั้งแกนนำ  ไม่ได้น่ากลัวอีกต่อไปเพราะการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารการทำโซเชียลมีเดียการให้ข้อมูล

มันไม่ได้ถูกปิดกั้นเหมือนอดีตแล้ววันนี้พูดปราศรัยที่กรุงเทพ  คนที่อยู่เชียงใหม่ก็ได้ฟังคนที่อยู่เชียงรายก็ได้ฟัง

คนที่อยู่สงขลาก็ได้ฟัง   หรือแม้แต่คนที่อยู่ในจังหวัดไหนของประเทศไทยก็สามารถฟังได้ทั้งหมดหรือแม้แต่อยู่ต่างประเทศก็รับฟังได้

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าหลังจากการดีเบตเสร็จสิ้นก็จะมีการตัดคลิปส่งในโลกโซเชียลเพื่อให้มีการแชร์ข้อมูลกันนั่นคือสิ่งที่การเมืองในอดีตไม่มี   ดังนั้นถ้าใครยังวิเคราะห์วิจารณ์ยังเชื่อผลโพลแบบเก่า

ยังเชื่อหัวคะแนน  ยังเชื่อแกนนำ  ผมว่าเตรียมสอบตกได้เลยวันนี้ที่ออกมาบอกทุกคนจะได้เข้าใจ ว่าทำไมโพลของพิธาถึงขึ้นสูง   เมื่อวานนี้พรรคเพื่อไทยก็รีบเปิดตัวที่พารากอนเพื่อหวังว่าจะดึงคะแนนนิยมของคนรุ่นใหม่กลับมาให้ได้    แต่อย่าลืมว่าพรรคเพื่อไทยนั้นมีคนหลายช่วงวัย  ซึ่งแตกต่างกับพรรคก้าวไกล

ยังไงคนในวัยรุ่นก็มุ่งหาพรรคการเมืองที่เป็นของแท้  มากกว่าของเทียม   ผมจึงได้ตั้งข้อสังเกตให้สมาชิกแฟนคลับผมได้เข้าใจ   ส่วนพรรคการเมืองไหนจะเอาไปปรับกลยุทธ์ก็รีบไปปรับใช้ ยังมีเวลาโค้งสุดท้าย  แต่ผมยังเชื่อว่าไม่มีพรรคการเมืองไหนดีไปกว่าการภักดีต่อพระเจ้าอยู่หัวครับ