เมื่อวันที่ 3 พ.ค.66 นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ พุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) ระบุว่า  คนไทยทุกคนเขามีสิทธิ์ที่จะกลับอยู่เมืองไทยอยู่แล้ว

นั่นคือถ้อยคำหนึ่งในหลายประโยคที่ให้สัมภาษณ์แก่ Top news ในประเด็นที่เขาตั้งคำถามว่า พุทธะอิสระคิดเห็นอย่างไรที่นายทักษิณประกาศจะกลับมาเลี้ยงหลานชายคนที่ 7 ในเดือนกรกฎาคม ที่จะถึงนี้

พุทธะอิสระจึงตอบให้สัมภาษณ์เขาไปว่า

นายทักษิณเขาเป็นคนไทย เขาก็มีสิทธิ์ที่จะกลับมาอยู่ในแผ่นดินไทยอยู่แล้ว

เป็นสิทธิ์ของเขาในฐานะที่เขาเป็นคนไทยคนหนึ่ง เขามีสิทธิ์ที่จะกลับมาประเทศบ้านเมืองของเขา และเขาก็มีญาติโยม ทรัพย์สมบัติอยู่ที่นี่เยอะแยะ

แต่ปัญหามันก็จะตามมาอีกว่า เขาจะรับสภาพของการเป็นนักโทษชาย ที่จะต้องคดีความ แล้วก็ต้องไปติดคุกติดตาราง แล้วก็ขึ้นโรงขึ้นศาลอีกหลายคดีได้มั้ย

ถ้าเขารับสภาพได้มันก็เป็นสิทธิ์ของเขา

แต่ต้องไม่มีอภิสิทธิ์อะไรมากไปกว่านักโทษ หรือผู้อื่น

ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่มีปัญหาอะไร สังคมก็คงจะไม่ได้ไปสนใจอะไรมากอยู่แล้ว เพราะก็เป็นเพียงนักโทษคนหนึ่ง ใหม่ๆ ก็อาจจะกระพือข่าวกันไป สร้างแรงกระเพื่อมได้ในระดับที่ผู้คนก็มาวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่พักหนึ่ง

ส่วนที่จะออกไปเคลื่อนไหว ผลักดันอะไร มันก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของนายทักษิณเองกับพวกว่า จะสร้างบรรทัดฐานของสังคมในมุมของความยุติธรรม มุมของตุลาการที่ไม่ไปก้าวก่าย ไม่ไปทำร้ายทำลายระบบของกระบวนการยุติธรรม

******************

นักข่าว : คือหลวงปู่กำลังจะบอกว่า ถ้าหากคุณทักษิณมาแล้ว ทำตามกติกาของบ้านเมือง คือ คุณเป็นนักโทษ คุณก็ไปติดคุก หรือว่าไปดำเนินการต่อสู้กันทางกระบวนการยุติธรรมไป ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าหากว่า มันมีการที่นอกเหนือจากตรงนั้น ก็อาจจะมีการต่อต้าน

******************

มันก็อาจจะมีกระบวนการเคลื่อนไหวที่จะผลักดันให้เกิดการยอมรับในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งบ้านเมืองมันก็คงจะกลับมาวุ่นวายอีกรอบหนึ่ง

******************

นักข่าว : ซึ่งกระบวนการนั้นหลวงปู่จะออกไปร่วมด้วยหรือเปล่า ?

******************

ฉันแก่แล้วนะคุณ แล้วก็อีกอย่างหนึ่ง เราก็ยังไม่รู้ท่าทีของเขาว่า เขาพร้อมที่จะรับสภาพของความเป็นนักโทษยอมติดคุกเหมือนกับคนอื่นๆ หรือไม่

คือเราต้องยอมรับอย่างหนึ่งนะว่า ทำไมนายทักษิณถึงคิดอยากจะกลับ ประเทศเอาตอนนี้ ก็เพราะเขามั่นใจว่า ถ้าเขากลับมาแล้วเขาจะได้ทางสว่าง ทางสะดวก เขาอาจจะไม่จำเป็นต้องรับโทษ หรือว่าอาจจะรับโทษอยู่ในคฤหาสน์ของเขา อย่างที่ใครๆ วิพากษ์วิจารณ์หรือที่ฉันคิดก็ได้ เขาอาจจะคิดแบบนั้น เพราะเขาเชื่อว่า อำนาจของเขามีล้น

แต่มันก็ต้องดูกันที่ว่า นี่มันยังไม่ถึงเวลาการเลือกตั้ง แล้วก็พลังเงียบยังอยู่อีกเยอะแยะที่จะชี้เป็นชี้ตาย ว่าอำนาจเขาจะมีล้นฟ้าเหมือนอย่างที่เคยมีหรือ ที่เขาวาดฝันไว้หรือเปล่า

******************

นักข่าว : แล้วถ้าหากมันมีการต่อรองกันว่า โอเคให้ทุกอย่างเป็นศูนย์ไปหมด ไม่ว่าจะเป็นม็อบไหนก็ตามให้กลับไปเริ่มต้นใหม่ อะไรอย่างนี้ละครับ

******************

ใครเป็นคนต่อรองละ ต้องถามกลับไป

******************

นักข่าว : คือถ้ามีเกิดกรณีอย่างนี้ขึ้นมาละครับหลวงปู่

******************

มันไม่ง่ายหรอกนะคุณ เขาบอกว่า เขาจะกลับมาเดือน กรกฎาคม ถูกมั้ย พอเข้ามาเดือน กรกฎาคม แล้วสมมุติว่า สภาเปิดเดือนอะไร ถ้าหากเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม กรกฎาคมสภาเปิดแล้ว

กว่าจะทำกระบวนการนำเรื่องเข้าสู่สภา แล้วก็ผ่านรัฐสภา มันอย่างน้อยก็ใช้เวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งปีนะ มันเป็นกฎหมายสำคัญ แล้วจะมาเดินรอยตามนิรโทษยกเข่งอย่างที่เคยทำ ซึ่งเป็นความผิดพลาดซ้ำ ๒ ก็คงจะยากละมั้ง มันก็คงไม่ใช่เดือนกรกฎาคม อย่างที่เขาว่า

หมายถึงว่า เราเอาประเด็นที่เขาขีดเส้นว่าต้องเป็นเดือนกรกฎาคม แต่ถ้าเขาไม่ขีดเส้นเดือน กรกฎาคม เป็นเมื่อไรก็ได้ อันนั้นก็สุดแล้วแต่เขาจะต่อรอง เขาจะพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไร และจะบอกประชาชนอย่างไร

ฉันเชื่อว่า เขาคงไม่ได้เป็นแลนด์สไลด์ทำให้เป็นพรรค พรรคเดียวที่มาเป็นรัฐบาลได้หรอก

******************

นักข่าว : คิดว่าสิ่งที่คุณทักษิณพูดมานี้เป็นเหมือนการโยนหินถามทางหรือเปล่า ?

******************

มันได้ทั้ง ๒ ทาง เพราะถ้าเขาโยน เขาโยนมาตลอดทุกปี คุณก็รู้อยู่แล้วเขาก็โยนมาตลอดทุกปีอยู่แล้ว แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า ครั้งนี้ทำไมมันถี่นัก เพราะเขามั่นใจว่ากระแสเขามาไง

แล้วก็สรรพกำลัง สรรพวัตถุ สรรพทรัพย์อะไรทั้งหลาย กำลังทรัพย์ กำลังคนทั้งหลายเขามีมากมาย

เขาก็เลยคิดว่า พูดถี่ พูดเปิดทาง

ที่จริงการไปการมา คนไทยคนอื่นเขาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก ถ้ามันจะมีปัญหาก็คือ เขามาแล้วมันจะเป็นบุคคลผู้พิเศษ มีอภิสิทธิ์พิเศษนอกเหนือคนอื่น นั้นล่ะมันจะนำมาซึ่งการสร้างปัญหา ส่วนจะเป็นการเปิดทางหรือการโยนหินถามทางอย่างที่คุณทักษิณทำอยู่ นั่นก็ขึ้นอยู่ที่คุณทักษิณคิด

มันจะมีอะไรมากมายนักหนา กะอีแค่นักโทษไทยคนหนึ่ง ต้องการจะกลับมายอมรับโทษเงียบๆ เข้าไปมอบตัวรับโทษ ถ้ามีเจตนาบริสุทธิ์จริงๆ นะ ไม่เห็นจำเป็นจะต้องมาโพทนาออกข่าวคราวใหญ่โตอย่างที่คุณทักษิณและพวกทำเลย เว้นเสียแต่ว่ามีเจตนาไม่บริสุทธิ์ และหวังผลทางการเมือง ฉันมองอย่างนี้นะ

******************

นักข่าว : อันนี้เฉพาะคุณทักษิณคนเดียวหรือน้องสาวด้วยครับ หมายถึงการกลับมาน่ะครับ เฉพาะของคุณทักษิณหรือว่ารวมทั้งคนในตระกูล เช่น คุณยิ่งลักษณ์

******************

ก็ถ้าเขาจะมา ก็ไม่ได้ยากอะไร ก็แค่แจ้ง ตม. แล้วก็บอกดีเอสไอหรือบอกเจ้าของคดี ใครเป็นเจ้าของคดีบ้าง แล้วก็มีคดีอะไรที่มันค้างคาอยู่ในศาล ย่องเข้ามาแล้วก็รับโทษนอนคุก ตามคำพิพากษาเดิมที่เขามีอยู่แล้ว แล้วก็อีกหลายคดีที่ยังไม่ได้พิจารณา ก็เข้าสู่กระบวนการ สู้คดีอย่างวินๆ เท่าเทียม เป็นธรรมอย่างที่พวกเขาพร่ำเพ้ออยู่ตลอดเวลาเช่นนี้ ก็ไม่มีแรงกระเพื่อมอะไรก็จบ

******************

นักข่าว : อย่างเรื่องนี้ หลวงปู่ก็เป็นแนวคิดที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอยู่แล้วอย่างที่ทราบ แล้วพอมันมีประเด็นคุณทักษิณพูดมา เราได้มีการพูดคุยกับคนคุ้นเคย

******************

ฉันเฉยๆ แกนนำแต่ละจังหวัดก็ไม่ได้ไปสนใจอะไร วันนี้ฉันก็มุ่ง มองไปข้างหน้าเรื่องการเลือกตั้ง เพราะว่านายทักษิณก็พูดมาเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว ถ้ายิ่งใกล้ๆ เลือกตั้ง 4 ปี ที่แล้วเขาก็พูดแบบนี้จำไม่ได้หรอ

******************

นักข่าว : แต่ครั้งนี้รู้สึกจะหนักแน่นนิดหนึ่ง คงจะมองกระแสแล้วน่าจะมา

******************

เขาก็เขย่าสถานการณ์เรื่อยๆ อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว มันเป็นอะไรที่เขาถนัดทำ แล้วก็ได้ผลด้วยนะ มันทำให้สังคมหวั่นไหว ฉันก็ได้แค่บอกพรรคพวก ลูกหลานของฉันว่า อย่าไปหวั่นไหวกับเรื่องพวกนี้มันเป็นธรรมชาติ ธรรมชาติของนายคนนี้ที่จะชอบสร้างความหวั่นไหว ความวิตกกังวล ความปั่นป่วน

ที่จริงบ้านเมืองอยู่กันอย่างสงบก็ดีอยู่แล้ว แต่ถ้าอยากจะมาก็มาแบบสงบเรียบร้อย ก็เข้ามารับโทษกันตามกติกา ก็จบ ที่มันมีปัญหาก็เพราะเขาทำตัวไม่สงบไง เหมือนกับจะไม่ยอมรับกติกา แล้วก็โพทนาไปเรื่อยๆ มันก็เลยเกิดปัญหาขึ้น

ถ้าถามฉันว่า ทางเขามาแล้วมันจะสร้างปัญหามั้ย คนอื่นไม่มีปัญหาแต่ตัวเขาเองจะสร้างให้เกิดปัญหา

ก็พฤติกรรมของเขาและพวกพ้องที่จะสร้างให้เกิดปัญหา

******************

นักข่าว : อย่างเช่นอาจจะให้มีอภิสิทธิ์ เช่น ไม่ต้องรับโทษ เป็นต้น

******************

ใช่ ก็ลูกน้องเขากรุยทางให้แล้วนี่ คุณไม่เห็นหรอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน ก่อนจะลาจากก็ได้กรุยทางให้ลูกพี่เก่าอย่างเรียบร้อย สามารถคุมขังในคฤหาสน์ได้ อะไรอย่างนั้น ออกกฎกระทรวงออกมารองรับเรียบร้อย

******************

นักข่าว : คดีอย่างนี้ ?

******************

ก็นี่ไง ฉันถึงได้บอกว่า ถ้าเขาทำแบบนั้นก็คือสร้างปัญหา ก็เขาเขียนเอาไว้แล้ว

******************

นักข่าว : ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เขาดำเนินการอย่างนั้นจริงๆ ในเมื่อเขารองรับเอาไว้แล้ว

******************

ถ้าอย่างนั้นเกิดปัญหาแน่ ปัญหามันจะตามมาอีกมากมาย มันจะเป็นการเอาเปรียบ เป็นอภิสิทธิ์ชน ไหนว่าเป็นประชาธิปไตยแล้วคนอื่นไม่มีประชาธิปไตยหรอ

คือ คนพวกนี้ปากว่าตาขยิบหรือเปล่า เขาก็มองว่าอย่างนั้น เพราะว่าคุณสมศักดิ์ รัฐมนตรียุติธรรม ก็กรุยทางสะดวกเอาไว้ให้คุณทักษิณเรียบร้อยแล้ว เข้าไปก็อาจจะอยู่ได้สักเดือนหนึ่ง อ้างสุขภาพ อ้างป่วย อ้างอายุมาก อายุเขาก็เข้าหลักการที่จะอนุโลมอยู่แล้ว เพราะเขา 70 กว่าอยู่แล้วตามเกณฑ์เลย ตามหลักที่คุณสมศักดิ์ออกเอาไว้เป๊ะๆ เลย

นั้นละคือตัวปัญหา นั้นละคือที่มาของตัวปัญหา

ถามว่าจริงๆ แล้วกฎหมายฉบับนี้ ระเบียบกฎกระทรวงฉบับนี้ว่ากันจริงๆ แล้ว กปปส. ก็ได้ประโยชน์หลายคนนะ ฉันเองก็ได้ประโยชน์นะ แต่ฉันไม่เอา ฉันไม่ชอบเพราะมันไม่ตรงไปตรงมา มันเป็นการเอาเปรียบสังคม เอาเปรียบคนอื่น

เพราะเราเองก็มีอายุเข้าเกณฑ์ที่จะลดหย่อน ผ่อนโทษ แม้สมมุติว่าเราจะถูกตัดสินติดคุกติดตะราง ฉันก็พร้อมที่จะติด เพื่อรักษาระเบียบกติกาของบ้านเมือง

ส่วนนายทักษิณเขากฎเกณฑ์ของเขา คือ กฎเกณฑ์ของกูไง

กฎเกณฑ์ของเขาคือประโยชน์กูไง ถ้าไม่ได้ประโยชน์กู ก็ไม่ใช่กฎเกณฑ์ของเขา แล้วก็ไม่ใช่กฎเกณฑ์ของบ้านเมือง ก็สังเกตดูบ่อยครั้งที่เขาออกมาโพทนา ตำหนิติว่ากระบวนการยุติธรรมของไทย เพราะเขาไม่ได้ประโยชน์

แต่ถ้าครั้งใดที่เขาได้ประโยชน์ เขาก็จะออกมาโพทนาว่า ศาลสถิตยุติธรรม กฎบ้านเมืองมีความยุติธรรมเที่ยงแท้ อะไรแบบนี้

คนกลุ่มนี้ก็เป็นแบบนี้มาตลอดอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราก็เลยพูดไปตรงๆ เลยว่า หากพฤติกรรมเขาไม่ได้สร้างปัญหา ประชาชนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ฉันเชื่อว่าพฤติกรรมของพวกเขาในอดีตสร้างปัญหามาตลอด มันสร้างให้เกิด 2 มาตรฐานในสังคมไทยมาตลอด

แล้วที่ผ่านมาก็เป็นอย่างนั้นไง

******************

นักข่าว : แล้วเชื่อว่าแนวโน้มจะกลับมาเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า ?

******************

ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น น่าจะทำให้บ้านเมืองวุ่นวายเพิ่มขึ้นอีกหรือเปล่า เรามีสิทธิ์จะสงสัยได้ เพราะอดีตมันทำให้เกิดปัจจุบันไง

เมื่ออดีตมันเป็นรากเหง้าของปัจจุบัน เรามีสิทธิ์จะสงสัยตามที่คุณกระทำมาตลอดเวลา มันก็เป็นสิ่งที่ใครก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกคุณ

ถามว่าถ้าเขามาแบบสงบๆ เป็นนักโทษชาย มารับโทษตามกระบวนการของกระบวนการยุติธรรม ดำเนินการไปแล้วก็ไม่มีอภิสิทธิ์ชน แล้วก็เข้าไปในคุกอยู่อย่างยอมรับโทษไปโดยดี

ก็ดีนะฉันก็อยากให้เขาเข้าไปติดคุกจะได้คุยกับพี่น้องเสื้อแดง คนที่ถูกเขาทอดทิ้งให้อยู่อย่างอดๆ อยากๆ ทั้งพ่อ ทั้งแม่ ทั้งพี่ ทั้งน้อง เข้าไปอยู่ในนั้นฉันเจอตลอด

เขาก็มาพูดกับฉัน

******************

นักข่าว : แล้วหลวงปู่คิดว่าเขาน่าจะกลับมาในช่วงเวลาไหน ตามความคิดของหลวงปู่

******************

อ้าว เขาก็บอกแล้วไง ในเดือนกรกฎาคม เขาอยากกลับมาเลี้ยงหลานคนที่ 7 เหมือนกับว่าหลานเขานี่อนาถา ไม่มีใครจะเลี้ยง พูดน่าสงสารมาก

อยากจะบอกคุณทักษิณว่า ไม่มีใครเลี้ยง ฉันเลี้ยงให้ก็ได้ คุณเข้ามาแล้วมันมีปัญหาละก็ ก็อย่ามา

ก็เอาเป็นว่า ถ้าเขากลับมาเดือนกรกฎาคม เราก็ฟังเขาไป ไม่รู้ว่าเดือนกรกฎาคมจะได้กลับมั้ย ถ้าหนทางมันไม่สะดวกจริงๆ แล้วก็แลนด์สไลด์มันไม่เกิดขึ้นจริง ฉันก็ว่าเดี๋ยวก็เลื่อนอีกล่ะ

เอาอย่างนี้ไว้ก่อนเลยว่า ถ้าแลนด์สไลด์มันไม่เกิดขึ้นจริง คุณทักษิณไม่กล้ามาหรอก

******************

นักข่าว : มันก็น่าจะเป็นการโยนหินถามทางว่างั้นเถอะ ถ้าไม่เกิดแลนด์สไลด์ก็คงไม่กล้ากลับมา

******************

ก็ถือว่าเป็นกระบวนการกระตุ้นต่อมอยากของ สังคมและพี่น้องที่ยังนิยมเขาอยู่ และเป็นการหวังผลทางการเมืองด้วย

******************

นักข่าว : การที่พูดอย่างนี้ เหมือนอาจมีผลทำให้คะแนนเสียงเทไปทางเพื่อไทยหรือเปล่า ?

******************

ใช่ อันนั้นก็เป็นส่วนหนึ่ง นายทักษิณไม่ใช่คนโง่นะคุณ เขารู้จักวางเกม เหมาะสม แต่ปัญหาคือสิ่งที่เขาพูด ส่วนใหญ่ทำไม่ค่อยได้สักเรื่อง

มันก็เลยทำให้คนฝ่ายตรงข้าม มองเห็นไส้เห็นพุงไปหมด ร้อยวันพันปีไม่พูดถี่ พอใกล้ๆ เลือกตั้งก็พูดให้ถี่หน่อย นี่ใกล้จะตัดสินไม่กี่วัน นี่ก็ยิ่งเข้ามาขย่ม เรียกว่าอะไร บอกวันเวลาชัดเจนไปเลย ต้องการอะไร คะแนนนิยมเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดแลนด์สไลด์ได้ง่ายไง

เพราะทุกครั้งที่ออกมาขย่ม เขาไม่เคยขีดเส้นของเขาว่าต้องเดือนนี้ เดือนนั้น แต่ครั้งนี้กำหนดเวลามาเป็นพิเศษ กำหนดเงื่อนไขชัดเจน

******************

นักข่าว : คาดว่าต้องการผลทางการเมือง

******************

ใช่

1. ผลทางการเมือง

2. เหมือนกับโยนหินถามทางพวกพ้องที่เป็นฝ่ายตรงข้าม หรือว่าคนที่ไม่นิยมเขาจะมีปฏิกิริยาใดๆ บ้าง อะไรบ้าง แล้วลิ่วล้อที่นี่ก็จะได้หาวิธีกรุยทาง พูดคุยหรืออะไรก็ว่าไปถ้ามันมีแรงกระเพื่อมเกิดขึ้นในช่วงนี้

แค่ตัวฉันก็เคยมีคนตระกูลชินวัตร เคยติดต่อมากับลูกศิษย์ขอเจรจาพูดคุย ฉันก็เลยบอกว่า ไม่ต้องมาคุย ไม่มีอะไรพูดคุย

******************

นักข่าว : เขาจะคุยกับหลวงปู่ประเด็นไหนหรอครับ ?

******************

ไม่ได้บอกหรอก ฉันก็ถามเขาไปจะคุยเรื่องอะไร เขาบอกเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในตระกูลชิน จะมาขอคุย บอกจะมาขอคุยเรื่องอะไร ฉันไม่มีอะไรจะคุยด้วย ไม่มีธุระ และฉันเองก็ไม่ชอบที่จะมาคุยเรื่องอะไรแบบนี้ หลบๆ แอบๆ เดียวจะหาว่าฉันมีส่วนได้ส่วนเสีย

เขาก็ส่งคนไปเชื่อมสัมพันธ์ในทุกกลุ่มอยู่แล้ว เท่าที่ทราบมานะ คุณไม่ได้ยินข่าวหรือ

******************

นักข่าว : ได้ยินอยู่เหมือนกันครับ แต่ผมก็ไม่ได้ตามตลอด

******************

แล้วเขาก็มีส่งคนไปเชื่อมสัมพันธ์ ให้คนนู้น คนนี้เข้าไปติดต่อกลุ่มนั้นกลุ่มนี้อยู่มาเป็นระยะๆ หละ

******************

นักข่าว : ทุกครั้งที่มีประเด็นร้อนเขาก็จะออกมาพูดประมาณนี้ ทำอย่างนู้นซิ ทำอย่างนี้ซิ เหมือนแนะ เพื่อให้กระแสยังมี เกาะกระแสไป

******************

ก็ธรรมดาช่วงนี้เป็นช่วงตัดสิน ช่วงนี้เป็นช่วงเข้าวิน ม้าจะเข้าวินแล้วขืนทำเนือยๆ ก็วิ่งไม่ไหว คนไทยเรามีนิสัยอย่างหนึ่งนะ โดยเฉพาะคนชนบท เขาชอบเชียร์คนชนะ

******************

นักข่าว : อ๋อใช่ ผู้ชนะคือผู้ที่ถือความถูกต้อง

******************

คือคนไทยเขาชอบที่จะเล่นการพนัน ขนาดรถวิ่งยังเล่นได้เลยว่า หมายเลขทะเบียนเลขอะไร มันเป็นธรรมชาติ มันได้ลุ้น แล้วถ้าตัวเองลุ้นแล้วไม่ลงก็ไม่ได้ ลุ้นแล้วต้องลง

******************

นักข่าว : ที่หลวงปู่มอง 2 ประเด็นก็คือว่า

******************

การสร้างกระแส สร้างคะแนนนิยมทางการเมือง

การโยนหินถามทางแล้วก็กรุยทางกับแนวร่วม ซึ่งเขาทำอยู่แล้ว ทำมาตลอด

แล้วก็เที่ยวนี้คิดว่าตัวเองน่าจะได้ ก็เลยกล้าที่จะบอกเวลาชัดเจน ก็อย่าเพิ่งวางใจ ฉันก็อยากบอกคุณทักษิณว่า จะมาก็มาไม่มีใครเขาว่าหรอก แต่อย่าให้เป็นอภิสิทธิ์ชน เป็นเทวดาเดินตีนไม่ติดดิน

คุณก็เป็นคนไทย ฉันก็เป็นคนไทย ทุกคนเป็นคนไทย มีสิทธิ์ที่จะเหยียบแผ่นดินไทย แต่เหยียบแบบไหน เหยียบแบบย่ำ หรือ เหยียบแบบชนิดอยู่อาศัย

ปัญหามันอยู่ตรงนั้น ที่ผ่านมาคุณทักษิณกับพวกออกไปอยู่ข้างนอกประเทศก็เหยียบย่ำเมืองไทยมาโดยตลอด ไม่เคยได้ชมถึงแผ่นดินไทย ประเทศไทย บ้านเกิดเมืองนอนของตนเองให้ชาวต่างชาติได้รับฟัง รับรู้เลย

คือเขาเหยียบแผ่นดินแบบเหยียบย่ำมาตลอด แล้วถึงวันนี้เขาจะมาเหยียบแผ่นดิน ก็ต้องถามกลับไปว่า คุณจะเหยียบแบบไหน เหยียบแบบอยู่อาศัยหรือเหยียบแบบย่ำ

เหยียบแบบย่ำแล้วกระทืบซ้ำเมื่อไม่ได้ประโยชน์ เช่นนี้คงจะมีปัญหาแน่

******************

นักข่าว : ดูแนวโน้มแล้ว จากใจจริงเลยครับหลวงปู่ ว่าแนวโน้มจะไปทางไหน ถ้าเขามาจริงๆ

******************

คุณอย่าพึ่งตีตนไปก่อนไข้ อย่าไปคิดว่า แลนด์สไลด์มันจะเกิดขึ้นจริง

******************

นักข่าว : ถ้ามันไม่มีแลนด์สไลด์อย่างที่ว่า เขาจะมีแผนสำรองมั้ย?

******************

ฉันเชื่อว่านายทักษิณไม่มา ยกเว้นว่า เขาจะมีข้อต่อรองอะไรต่อผู้มีอำนาจในบ้านเมือง เช่น รัฐบาล เป็นต้น

แต่ว่า ฉันเชื่อว่า 3-4 ปีที่ผ่านมาลูกน้องเขาเนี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเขากรุยทางไว้เรียบร้อยแล้ว

******************

นักข่าว : มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมคนเดียวหรือเปล่าครับ คนอื่นด้วยหรือเปล่า

******************

คนอื่นนี่ ฉันก็ไม่ได้รู้ด้วยตัวเอง จังไม่กล้ายืนยัน

******************

นักข่าว : หรือว่ามันไม่ชัดเจนว่าคนที่กำลังมีบทบาทในรัฐบาลเห็นมีอยู่คนเดียวคือสมศักดิ์

******************

ใช่ เขาเป็นคนที่เอื้อประโยชน์โดยตรงกับนักโทษชายนายทักษิณและก็พวกอยู่แล้ว ในสิ่งที่เขาทำ เพราะร้อยวันพันปีไม่ทำ แต่มาทำเรื่องนี้แล้วเขาก็ตีจาก คือไพ่ใบสุดท้ายก่อนที่เขาจะย้ายพรรค

ก็ปล่อยเขา คนไทยก็มีสิทธิ์ที่จะกลับบ้านอยู่แล้ว อย่าไปคิดอะไรเยอะ

ก็อยากฝากบอกว่า จะเลือกใครก็เลือกเถอะ แต่อย่าเลือกคนที่เข้ามาทำร้ายประเทศไทย หรือเคยมาทำร้ายประเทศไทย

******************

นักข่าว : ขอบคุณมากครับ

******************

 

 

ขอบคุณ เฟซบุ๊ก หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)