จากกรณีแอมไซยาไนด์ สั่งตายคนใกล้ชิด โดยเฉพาะรายของนายสุทธิศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ นายแด้ ซึ่งแอมบอกว่าเป็นสามี ถูกแอมไซยาไนด์วางแผนเอายาแก้ริดสีดวงให้กิน สุดท้ายนายแด้ ล้มหมดสติที่ปั๊มน้ำมันที่อ.หนองหาน และสุดท้ายมาเสียชีวิตในห้องพัก อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 12 มี.ค.66
ล่าสุด วันที่ 4 พ.ค.66 พล.ต.ต.พิษณุ อุณหะเสรี ผบก.ตร.ภูธร จ.อุดรธานี เปิดเผยทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า คดี น.ส.สรารัตน์ ก่อนที่จะถูกออกหมายจับ ตร.ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบประจักษ์พยานทั้งที่ปั๊มน้ำมัน หอพักที่อยู่ มีพยานบุคคลและหลักฐานอย่างอื่นๆ รวมทั้งสิ่งของนายแด้ ที่น.ส.แอมส่งไปให้ญาติที่ จ.ราชบุรี มีไซยาไนด์ด้วย ทำให้ศาลฯ ได้ออกหมายจับ น.ส.สรารัตน์ หลังนายแด้ เสียชีวิต
ต่อมาวันที่ 18 มี.ค.66 น.ส.แอม ได้ขึ้นมาจ.อุดรธานีครั้งหนึ่ง แล้วนำทองของนายแด้ ไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งที่ จ.อุดรธานี มีน้ำหนัก 45.3 กรัม น้ำหนักของทองประมาณ 3 บาท มาขายได้รับเงินจำนวน 79,000 บาท โดยทางร้านทองให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ตร.อย่างดี ส่วนกรณี มี ตร.ยศ รองผกก.คนใกล้ชิดแอมเดินทาง มาจ.อุดรธานี นั้น ทาง ตร.เราตรวจสอบพบว่า รถเซฟโรเลตของนายแด้สวมทะเบียน มีคนสนิทของ น.ส.แอม เดินทางขึ้นมาเอารถเอากลับไปแล้วไปจำนำ และศาลได้ออกหมายจับไปแล้วเมื่อวาน
ขณะเดียวกัน นายพจปรีชา สารสิทธิ์ พนักงานกู้ภัยฉุกเฉิน มูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยไปเก็บศพวันแรก เปิดเผยว่า บ่ายวันที่ 12 รับแจ้งจากศูนย์กู้ชีพ 1669 ว่ามีเหตุคนเสียชีวิตที่หอพักแห่งหนึ่งในจ.อุดรธานี ทางเขาไปพบผู้ตายนอนเปลือยกายเสียชีวิต มีเพียงกางเกงในตัวเดียว ดูเบื้องต้นใบหน้าเขียวช้ำ แต่เห็นมีผู้หญิงใส่เสื้อเหลืองคาดว่าเป็นภรรยานั่งร้องไห้อยู่ข้างๆ หลังตร.และหมอมาชันสูตรศพ ตนเองก็ได้นำศพมาที่ห้องเก็บศพ รพ.ศูนย์อุดรธานี ไม่นึกว่าเพียงเคสคนตายที่หมอบอกว่าหัวใจล้มเหลว จะเป็นข่าวดังและยาวของแอมไซยาไนด์จนถึงทุกวันนี้
ขณะที่นายประจักษ์ วงศ์รอด หัวหน้ากู้ภัยส่งเสริมธรรมอุดรธานี บอกอีกว่า มิน่าสงสัยวันที่ศพนายแด้ อยู่ รพ.อุดรธานี ทางหมอจะผ่าตัดชันสูตรเขาไม่ยอมท่าเดียวและตัวน.ส.แอม ซึ่งเป็นภรรยาของนายแด้ไ ด้มาขอให้เปิดม่านตา เพื่อเอาโทรศัพท์ไอโฟนของผู้ตายไปสแกนม่านตา กู้ภัยเราบอกไปว่า คนตายมาหลาย ชม.ตอนนี้ม่านตาเปิดแล้ว ไม่สามารถสแกนได้ จึงไม่ได้สแกนม่านตาแต่อย่างใด