บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังแกว่งตัว Sideway กรอบดัชนี 1,520-1,580 จุด จับตาเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 2-3 พ.ค.นี้ ส่วนปัจจัยในประเทศงบกลุ่มแบงก์ออกมาดี บวกแนวโน้มเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังยังโตดี แนะหุ้นรับประโยชน์ไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ XBB.1.16 ได้แก่ BCH, CHG, VIBHA และ EKH
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ยังแกว่งตัว Sideway โดยนักลงทุนจับตาทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 2-3 พ.ค.นี้ โดย FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 90% เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% และให้น้ำหนักเพียง 10% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00% หลังจากตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 5,000 ราย สู่ระดับ 245,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 240,000 ราย
โดยปัจจัยในประเทศ มีแรงหนุนจากผลประกอบการกลุ่มธนาคารที่ออกดี ประกอบกับทางธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ประเมินเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังมีการเติบโตที่ดี โดยได้ปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลใหม่ที่ออกมาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ และสนับสนุนการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไทยชัดเจนมากขึ้น สอดคล้องกับมุมมองของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ประเมินว่าภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ชัดเจนต่อเนื่อง ปัจจัยหนุนจากการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายของประชาชน แม้ว่าทางกระทรวงการคลังปรับลดประมาณการ GDP ประเทศไทยปี 66 เหลือโต 3.6% จาก 3.8%
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่ต้องจับตาในประเทศ อาทิ สัปดาห์ที่ 4 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรมสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค วันที่ 28 เม.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย วันที่ 3 พ.ค. กระทรวงพาณิชย์แถลงข่าว "ดัชนีเศรษฐกิจค้า" วันที่ 14 พ.ค. กำหนดเลือกตั้ง และวันที่ 31 พ.ค. กำหนดประชุมกนง.ครั้งที่ 3/2566
ส่วนปัจจัยต่างประเทศ วันนี้ (25 เม.ย.) สหรัฐ รายงานราคาบ้านเดือนก.พ. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย. และบ้านใหม่เดือนมี.ค. วันที่ 26 เม.ย. สหรัฐ รายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันที่ 27 เม.ย. อียู รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย. สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตัวเลข GDP 1Q66 (ประมาณการเบื้องต้น) ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนมี.ค., วันที่ 28 เม.ย. อียู รายงาน GDP 1Q66 (ประมาณการเบื้องต้น) และวันที่ 2-3 พ.ค. กำหนดประชุมเฟด ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการระบาดของไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ XBB.1.16 ได้แก่ BCH, CHG, VIBHA และ EKH
ขณะที่ทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินภาพรวมราคาทองคำในสัปดาห์นี้สัปดาห์นี้จับตาประกาศตัวเลขดัชนีเงินเฟ้อส่วนบุคคล Core PCE มองอ่อนตัวลง สอดคล้องกับดัชนีเงินเฟ้อเดือนมีนาคม ขณะที่แนวโน้มตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐเริ่มอ่อนตัวลงต่อเนื่อง ทั้ง 2 ปัจจัยข้างต้นเป็นแรงหนุนกับราคาทองคำ
ฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำยังสามารถทรงตัวได้ เนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นกดดันเศรษฐกิจสหรัฐทำให้เงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลง มองทองคำแกว่งตัวในกรอบ 1,975-2,030 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ คำแนะนำซื้อขายตามกรอบที่ให้ไว้