นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 มีวันหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 13 17 เมษายน 2566 ประชาชนส่วนใหญ่จะเดินทางต่างจังหวัด เพื่อกลับบ้าน เยี่ยมเยียน เฉลิมฉลองกับครอบครัว รวมถึงทำกิจกรรมต่างๆ และรดน้ำดำหัวขอพรจากญาติผู้ใหญ่เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีประชาชนเดินทางจำนวนมาก และมักจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นเป็นประจำ จากข้อมูลกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2565 ภาพรวมสถิติอุบัติเหตุ ตั้งแต่วันที่ 11 - 17 เมษายน เกิดอุบัติเหตุรวม 1,917 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 1,869 คน ผู้เสียชีวิต 278 ราย
รัฐบาลจึงมีความห่วงใยประชาชน เมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วย สามารถใช้สิทธิ์ Universal Coverage for Emergency Patients : UCEP ได้ดังนี้ 1.กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินระดับวิกฤติ หากไม่รักษาทันทีมีโอกาสเสียชีวิตสูง สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ที่สถานพยาบาลทุกแห่งที่อยู่ใกล้สุดโดยเร็ว เป็นไปตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิ์ทุกที่ (Universal Coverage for Emergency Patients : UCEP) ของรัฐบาล โดยให้สถานพยาบาลที่ให้การรักษาเบิกค่าใช้จ่ายค่ารักษาจาก สปสช. ตามอัตราที่กำหนด
2.กรณีเจ็บป่วยที่ไม่ใช่ฉุกเฉินระดับวิกฤติ หรือกรณีผู้มีสิทธิบัตรทองที่เดินทางไปต่างถิ่นแล้วมีความจำเป็นต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล เช่น มีความดันโลหิตขึ้นสูง ปวดศีรษะมาก เกิดภาวะท้องเสียรุนแรง เป็นต้น กรณีนี้ให้เป็นไปตามข้อบังคับ สปสช. ว่าด้วยการใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขกรณีที่มีเหตุสมควร กรณีอุบัติเหตุหรือกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 ระบุว่าผู้ป่วยสิทธิบัตรทองหากมีเหตุสมควร หรือกรณีอุบัติเหตุฉุกเฉิน หรือกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลอื่นที่ไม่ได้ลงทะเบียนหน่วยบริการประจำและสถานพยาบาลที่ไม่ได้เข้าร่วมให้บริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามมาตรา 7 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ขอให้ประชาชนเตรียมบัตรประจำตัวประชาชนซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ ในการเข้ารับบริการรักษาพยาบาลฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้เพื่อความสะดวก พร้อมทั้งศึกษาข้อมูลหน่วยบริการที่อยู่ในพื้นที่ระหว่างเดินทางและจุดหมายปลายทาง เพื่อเป็นข้อมูลในการเข้ารับการรักษาพยาบาลได้โดยเร็ว ส่วนประชาชนที่เจ็บป่วยด้วยโรคประจำตัวที่ต้องรับประทานยาต่อเนื่อง ควรเตรียมพร้อมยารักษาโรคเพื่อให้เพียงพอสำหรับการเดินทาง สิ่งที่สำคัญต้องไม่ประมาท พักผ่อนให้เพียงพอก่อนเดินทาง และมีสติอยู่ตลอดเวลา
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวพักผ่อนช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งทำให้มีปริมาณยานพาหนะเดินทางสัญจรเป็นจำนวนมาก อาจมีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ จึงได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนในการเดินทาง และรณรงค์ลดอุบัติเหตุ ทั้งนี้นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ได้ให้บริการตรวจเช็คสภาพรถฟรี ก่อนเดินทางช่วงสงกรานต์
น.ส.ทิพานัน กล่าวอีกว่า สำหรับบริการตรวจเช็คความพร้อมของรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ เน้นตรวจเช็คทั่วไปที่อาจส่งผลต่ออุบัติเหตุเช่น สภาพยาง ระดับน้ำมันเครื่อง หม้อน้ำและรอยรั่ว ระบบไฟส่องสว่างและไฟสัญญาณต่าง ๆ ระบบเบรก และระบบการทำงานเครื่องยนต์ เป็นต้น ตรวจเช็คโดยครูฝึก ผู้เข้ารับการฝึกอบรมทักษะฝีมือสาขาช่างยนต์ และช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ จึงแจ้งข่าวดีมายังพี่น้องประชาชนสามารถนำรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ เข้ารับบริการได้ที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด ที่มีที่ตั้งติดกับถนนสายหลักได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 12 เมษายน 2566 ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การตรวจเช็กสภาพรถจะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ในระดับหนึ่ง หากแต่ยังมีปัจจัยหลายอย่าง ทั้งสภาพร่างกายของผู้ขับขี่ ที่ต้องมีความพร้อม ง่วงไม่ขับ ดื่มไม่ขับ ขับไม่โทร รวมทั้งวินัยจราจรและความรับผิดชอบต่อสังคม พล.อ.ประยุทธ์มุ่งมั่นดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในทุกมิติ ทั้งการปลุกจิตสำนึกในวินัยจราจร ที่รับผิดชอบต่อสังคม ในแง่การออกกฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก กำหนดเรื่องการคาดเข็มขัดนิรภัย เพิ่มโทษในข้อหาที่กระทบกับความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน การกระทำผิดซ้ำ และการไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย รวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทั้งถนน ราง เรือ และอากาศ ให้ปลอดภัยและทันสมัย เป็นสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำมาแล้วและกำลังทำอยู่เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความปลอดภัยในการดำรงชีวิต สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ