บีโอไอ เร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การลงทุนเพื่อสร้างเศรษฐกิจใหม่ จับมือพันธมิตรจัดงาน “NEW Economy, NEW Opportunities” ประเดิมพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) นักธุรกิจไทย -ต่างชาติให้ความสนใจเข้าร่วมงานกว่า 500 คน เผย 2 เดือน ยื่นขอลงทุนภาคตะวันออกพุ่งกว่า 90,000 ล้านบาท
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไอร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ภาคตะวันออก จัดงาน “NEW Economy, NEW Opportunities” เพื่อประชาสัมพันธ์ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุน 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) และมาตรการส่งเสริมการลงทุนชุดใหม่ โดยประเดิมคิกออฟที่ภาคตะวันออก เนื่องจากเป็นที่ตั้งเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของไทยในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ โดยมีผู้สนใจร่วมงานกว่า 500 คน
“ภาคตะวันออกเป็นพื้นที่สำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยมาโดยตลอด นับตั้งแต่การพัฒนาโครงการ Eastern Seaboard จนมาเป็นคลัสเตอร์ของอุตสาหกรรมหลัก เช่น ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมี และอาหารแปรรูป รวมทั้งเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรและแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำ ซึ่งล้วนเป็น Growth Engine ของไทย อีกทั้งยังมีโครงสร้างพื้นฐานที่มีความพร้อมและดีที่สุดในภูมิภาค ทั้งท่าเรือ ระบบโลจิสติกส์ และนิคมอุตสาหกรรม” นายนฤตม์กล่าว
สำหรับยอดการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ภาคตะวันออก ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค. – ก.พ. 66) มีจำนวนทั้งสิ้น 92 โครงการ มูลค่าการลงทุน 90,305 ล้านบาท โดยเป็นการขอรับการส่งเสริมในพื้นที่อีอีซีจำนวน 78 โครงการ มูลค่าการลงทุน 88,632 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ และยานยนต์และชิ้นส่วน
โดยในงาน “NEW Economy, NEW Opportunities” บีโอไอได้นำเสนอมาตรการส่งเสริมการลงทุนชุดใหม่ที่จะเป็นประโยชน์กับนักลงทุนในภาคตะวันออก อาทิ มาตรการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย มาตรการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน มาตรการรักษาและขยายฐานการผลิตเดิม มาตรการส่งเสริมการจัดตั้งสำนักงานภูมิภาคและศูนย์วิจัยและพัฒนาในประเทศไทย รวมทั้งมาตรการ LTR Visa ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกแก่บุคลากรที่มีทักษะความเชี่ยวชาญพิเศษครอบคลุมอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ไทยต้องการผลักดันให้เกิดการลงทุน
นอกจากนี้ ยังมีการเสวนาหัวข้อ “การยกระดับความแข็งแกร่งของระบบนิเวศ (Ecosystem) ด้านการลงทุนเพื่อสร้างโอกาสและเศรษฐกิจใหม่” โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งในการเสวนาได้พูดถึงความสำคัญของการเตรียมพร้อมบุคลากรเพื่อรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต และมาตรการของภาครัฐที่สนับสนุนการพัฒนาบุคลากร เช่น การให้สิทธิประโยชน์สำหรับการพัฒนาบุคลากร โครงการ EEC Model Type B และ STEM OSS Platform รวมถึงการแลกเปลี่ยนความเห็นด้านการส่งเสริมการลงทุนเพื่อยกระดับชุมชนและสังคม พร้อมจัดกิจกรรม BOI Clinic เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สนใจขอรับคำปรึกษาโดยตรงกับเจ้าหน้าที่บีโอไอในด้าน ต่าง ๆ ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจเข้ามารับคำปรึกษาจำนวนมาก
ทั้งนี้ บีโอไอมีแผนจัดกิจกรรมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนใหม่ไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทุกภูมิภาค เพื่อสร้างการรับรู้แก่นักลงทุนทั่วประเทศ โดยครั้งต่อไปจะมีการจัดงานสัมมนาใหญ่สำหรับนักลงทุนในพื้นที่ภาคเหนือ ณ จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 28 เมษายน 2566