“สยามรัฐ" ยืนหยัดอยู่บนบรรณพิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาน “นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํ ปคฺคณฺเห ปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม”…*…

ได้กลิ่นทะแม่งๆ กับอาการคันของคนมือบอนพ่นสีสเปรย์ใส่กำแพงวัดพระแก้ว เรียกร้องแก้ไขมาตรา 112 แต่ถูกเจ้าหน้าที่สายตรวจรวบตัวได้ทันควัน …*…

วัดพระแก้ว หรือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว เป็นพระอารามหลวง เป็นที่ประดิษฐานพระมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต ที่ประชาชนทั้งไทยและเทศต่างเคารพศรัทธา และเป็นที่ประกอบพระราชพิธีที่สำคัญทางศาสนา …*…

ตั้งอยู่ในมุมตะวันออกเฉียงเหนือของพระบรมมหาราชวัง เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 จนกระทั่งถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 …*…

มีเรื่องเล่าถึงอาถรรพ์ ที่เกิดขึ้นกับคนที่กระทำการก้าวล่วงวัดพระแก้วมาเล่าสู่กันฟัง ฝรั่งนักท่องเที่ยวรายหนึ่ง  ไปเก็บเอาเศษแก้วสีเขียวมรกต จากเจดีย์พระมณฑป ในวัดพระแก้วซึ่งตกอยู่ที่พื้นกลับบ้านไป …*…

ด้วยคิดว่าเป็นสัญญาณจากพระพุทธเจ้าที่อนุญาต ให้นำชิ้นแก้วเก็บไปเป็นที่ระลึกได้ ประกอบกับไกด์ทัวร์ที่น่าจะเป็นไกด์มั่ว แนะนำให้อธิษฐานจิตขออนุญาตกับองค์พระ ก็เลยเก็บกลับบ้านไป หลังจากนั้นชีวิตก็มีแต่เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน  จนต้องใส่ซองส่งคืนหน่วยงานราชการของไทย ซึ่งเป็นการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ …*…

เรื่องพ่นสีสเปรย์ลงบนกำแพงวัด กำแพงวังนี้ คนทำจะคิดอะไรในใจ ศรพระราม ไม่อาจล่วงรู้ได้ จะได้รับสัญญาณมาจากใคร  ก็ไม่สามารถตัดสินได้เช่นกันต้องมีการสืบสวน ข่าวกรอง และมีหลักฐานในเชิงประจักษ์ แต่หยักสมองอันน้อยนิดของ ศรพระราม  ยังคิดได้ว่า ผลพวงของเรื่องนี้ ย่อมเล็งผลต่อการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงแน่นอน …*…

อ่ะ ที่แน่ๆ มีเสียงขานรับมาจาก “เจี๊ยบ ก้าวไกล” อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ออกมาแบกผู้กระทำผิดกฎหมาย ในทันทีว่า  “มีพื้นที่ให้พวกเขาพูดอย่างปลอดภัยสิ จะได้ไม่ไปขีดเขียนกำแพง !#ยกเลิก112” แล้ว…*…

ที่ ศรพระราม เงี่ยหูฟังและเสียงดังมากที่สุด  เห็นจะเป็นทหารพระราชา “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ บอกว่า  “ถ้าคนดี คนปกติ คง ไม่ทำ”…  “เรามีสถาบันหลักอยู่แล้ว ตามกฎหมายเรามี เราก็ต้องปกป้องคุ้มครองสถาบันหลักอยู่แล้ว ส่วนอยู่ในอำนาจหน้าที่ขอบเขตแค่ไหน เราก็ทำตามขอบเขตหน้าที่นั้น” …*…

ส่วนใครที่อ่านหมากตาเดียว แล้วรีบร้อนฟันธงว่า ฝ่ายที่รณรงค์แก้ไขมาตรา 112 กำลังได้เปรียบในสถานการณ์ ประชิดกำแพงวัง ฮึกเหิมกันไปใหญ่ อาจคิดผิด เพราะการกระทำลบหลู่เช่นนี้ อาจกลายเป็น “กระดานหก” ปลุกให้คนรักสถาบัน ที่อยู่ในฝั่งอนุรักษ์นิยม ตัดสินใจได้ว่าจะต้องเลือกใคร และต่อต้านใคร …*…

แวะไปเวทีปราศรัยของพรรคเพื่อไทย  วันก่อนที่ปทุมธานี ได้ยินแว่วๆ เสียงของ “เต้น”ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ชูวิสัยทัศน์ของ สมศักดิ์ เทพสุทิน ว่า “นายสมศักดิ์ เรียนจบเอกด้านเป็นรมต. เป็นแล้วรักษาไม่หาย เพราะเป็นมาแล้ว 14 หน มาวันนี้ผมก็ขอเอาโชคเอาลางก็ต้องเป็นรัฐบาล” …*…

เรื่องนี้ อย่าอึ้งไป เพราะ “สมศักดิ์” นั้น เซียนเหยียบเมฆ แม้ตัวจะไปอยู่เพื่อไทย แต่ฝากเลี้ยง ส.ส.สยายปีกของสามมิตรเอาไว้ ในหลายพรรคฉะนั้น ตรรกะที่ว่า ยังไง “สมศักดิ์” ก็ได้เป็นรัฐมนตรี ก็ไม่ได้หมายความว่า จะเป็นรัฐมนตรีในโควตาของพรรคเพื่อไทยเสมอไป อุ๊ย! ...*...

ที่มา:ศรพระราม (31/3/66)