วันที่ 28 มี.ค.66 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าวันพุธที่ 29 มี.ค.66 เวลา 09.30-11.00 น.สำนักงานตำรวจแห่งชาติและคุณสุมนา กิตติประภัสร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ได้กราบอาราธนานิมนต์ และรับเมตตาจาก พระเดชพระคุณ “หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม” เจ้าอาวาส วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
ในการแสดงพระธรรมเทศนา เรื่อง “ครองตน ครองคน ครองงาน บริหารตามหลักธรรมาธิปไตย”
ตามโครงการ “ธรรมนำใจ” เพื่อ ตำรวจไทยมีคุณธรรม ที่ห้องประชุมแจ้งยอดสุข ชั้น 2 อาคาร ศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร และสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กทม.
ขิปปาภิญญาประวัติ หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม (พระอาจารย์กัณหา สุขหาโม) เจ้าอาวาสวัดแพร่ธรรมาราม จังหวัดแพร่ ปัจจุบันจำพรรษา ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม บ้านบุเจ้าคุณ ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
หลวงพ่อกัณหา เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ.2493 แรม 3 ค่ำ เดือน 4 ปีขาล เป็นบุตรของพ่อกา และแม่ช้อน ศรีวงศา ภูมิลำเนา อยู่ที่ ต.นาเจริญ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี โดยหลวงพ่อกัณหา มีศักดิ์เป็นหลานชายแท้ๆ ของหลวงปู่ชา สุภัทโท (ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุง) เมื่ออายุครบบวช 20 ปี ท่านเข้าพิธีอุปสมบทที่พัทธสีมาวัดสุปัฏนารามวรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดอุลราชธานี เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2513 เวลา 13.40 น. ซึ่งเป็นสังกัดธรรมยุติกนิกาย และได้รับฉายาว่า “สุขกาโม แปลว่า ผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข” หลังจากอุปสมบทแล้ว หลวงพ่อกัณหาได้อยู่ประพฤติปฏิบัติศึกษาพระธรรมวินัย กับหลวงปู่ชา สุภัทโท เป็นเวลา 3 ปี
จากนั้นได้ออกธุดงค์กรรมฐานในทุกภาคของประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน ใกล้เคียง ได้แก่ พม่า มาเลเซีย เขมร ลาว รวมระยะทางที่เดินธุดงค์ ร่วม 60,000 กิโลเมตร ท่านเป็นพระสุปฏิปันโน ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มุ่งมรรคผลพระนิพพาน ปฏิปทาที่ยึดเป็นหลัก ในการปฏิบัติประจำวันได้แก่ฉันอาหารมื้อเดียว ไม่รับเงินรับทองไว้เป็นของส่วนตัว ไม่ฟังวิทยุ ไม่ดูโทรทัศน์ ไม่มีโทรศัพท์มือถือ
หลวงพ่อกัณหา สุกาโม ท่านดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดแพร่ธรรมาราม อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ มีวัดสาขาที่อยู่ในความเมตตา ดูแลของท่าน ทั้งในและต่างประเทศ รวมจำนวน 33 วัด ปัจจุบันจำพรรษา ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม บ้านบุเจ้าคุณ ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
เมื่อปีพุทธศักราช 2536 ทางวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ให้เจ้าคณะจังหวัดแพร่ น่าน ลำปาง พะเยา เชียงราย แจ้งให้หลวงพ่อกัณหา สุกาโม รับตำแหน่งซึ่งมีสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะ แต่หลวงพ่อกัณหา สุกาโม ไม่รับสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะ
ดังนั้นเจ้าคณะจังหวัดจึงให้ท่านทำหนังสือยืนยันการที่ไม่รับ สมณศักดิ์นั้น เพื่อรายงานให้สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทราบเจตนาดังกล่าว ซึ่งถ้าหากไม่มีหนังสือรับรอง ทางเจ้าคณะ เกรงว่าประชาชน จะติเตือนว่า พระที่ทำคุณประโยชน์ ให้ประเทศชาติและประชาชนไม่ได้รับการดูแล จากทางคณะสงฆ์ ซึ่งทางหลวงพ่อกัณหา สุกาโม ท่านรับเป็นเพียงพระอุปัชฌาย์ เพื่ออำนวยความสะดวก ในการบวชพระให้แก่ลูกหลาน ได้สืบทอดพระพุทธศาสนาเท่านั้น หลวงพ่อกัณหา สุกาโม จึงได้ชื่อว่า เป็นพระผู้ที่ไม่รับ สมณศักดิ์ใดๆ