กรมส่งเสริมการเกษตร เปิดโครงการส่งเสริมการหยุดเผาพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ภาคกลาง แก้ปัญหาหมอกควัน อากาศเป็นพิษ และดินเสื่อมโทรม พร้อมสร้างภาคีเครือข่าย 337 แห่งทั่วประเทศ ร่วมรณรงค์และส่งเสริมนำวัสดุจากการเกษตรมาใช้ให้เกิดประโยชน์
วันที่ 7 มี.ค.66 นายครองศักดิ์ สงรักษา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมรณรงค์ลดการเผาในพื้นที่การเกษตร โครงการส่งเสริมการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร ปี 2566 ซึ่งสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 1 จังหวัดชัยนาท และสำนักงานเกษตรจังหวัดลพบุรีจัดขึ้น ณ ลานตากข้าววิสาหกิจชุมชนโรงสีข้าวชุมชนบ้านคลอง หมู่4 ตำบลมหาโพธิ อำเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี
นายครองศักดิ์ สงรักษา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ผลกระทบจากการเผาพื้นที่การเกษตร นอกจากจะทำให้ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ หรือดินเสื่อมโทรมแล้ว ยังก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ ปัญหาหมอกควัน กระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งผลเสียต่อการทำอาชีพการเกษตรโดยตรง รัฐบาลจึงให้ความสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร รับผิดชอบดำเนินการควบคุมและรณรงค์ไม่ให้เกิดการเผาในพื้นที่การเกษตรทั่วประเทศ
ในปี 2566 นี้ กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่การเกษตร โดยใช้กลไกของศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน (ศดปช.) กลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ Young smart farmer, Smart farmer เครือข่ายวิสาหกิจชุมชน และเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการ เพื่อสร้างเครือข่ายเกษตรกรปลอดการเผา และสร้างกลไกขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา รวม 337 เครือข่าย ในพื้นที่ 62 จังหวัด ประกอบด้วยจังหวัดที่ประสบปัญหาหมอกควันปกคลุมอยู่เป็นประจำทุกปี และจังหวัดที่มีการเผาในภาคการเกษตรสูง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
โดยเครือข่ายทั้งหมด จะถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับสภาพปัญหาและผลกระทบที่เกิดจากการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ในไร่นา แนะนำเทคโนโลยีการเกษตรทดแทนการเผา สาธิตการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้จากภาคการเกษตร ส่งเสริมการรวมตัวกันของเกษตรกรเป็นเครือข่ายเกษตรกรปลอดการเผา สร้างวิทยากรอาสาสมัครด้านการทำเกษตรปลอดการเผา และสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น การไถกลบตอซัง การนำเศษวัสดุมาผลิตปุ๋ยอินทรีย์ อาหารสัตว์ พลังงานทดแทน เพาะเห็ดฟาง รวมทั้งการปลูกไม้ผล และไม้ยืนต้น
รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า สำหรับสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 1 จังหวัดชัยนาท มีหน้าที่รับผิดชอบพื้นที่ 9 จังหวัดในภาคกลาง มีพื้นที่การเกษตร 7.625 ล้านไร่ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ปลูกข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และอ้อย จากฐานข้อมูลสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (Gistda) พบภาพรวมจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่การเกษตร ระหว่างเดือน มกราคม-พฤษภาคม 2565 จำนวน 1,644 จุด โดยพบมากที่สุดในจังหวัดลพบุรี จำนวน 476 จุด
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร ได้รณรงค์และประชาสัมพันธ์ลดการเผาในพื้นที่การเกษตรมาตลอดและต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยนำร่องสาธิตการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้จากภาคการเกษตรเพื่อลดปัญหาการเผาในพื้นที่ภาคเหนือตั้งแต่ ปี 2547 เพื่อให้เกษตรกรและประชาชนทั่วไป ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเผาพื้นที่การเกษตร รวมทั้งจัดกิจกรรมสาธิตเทคโนโลยีการจัดการเศษวัสดุการเกษตรทดแทนการเผา เพื่อเป็นทางเลือกให้เกษตรกรทำเกษตรแบบปลอดการเผาได้อย่างยั่งยืน