โรงเรียนสอนภาษาจีนในไทยขยายตัวต่อเนื่อง ตอกย้ำความสัมพันธ์ไทย-จีน ที่มุ่งสู่การพัฒนาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมสองชาติ

จากความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทยที่มีมายาวนานนับศตวรรษ และมีความผูกพันใกล้ชิด ทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ ภาษาและวัฒนธรรม โดยมีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมจากการส่งเสริมความร่วมมือและความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงที่ผ่านความสัมพันธ์อันดีดังกล่าว ได้ส่งเสริมให้มีการขยายตัวของสถาบันขงจื้อและโรงเรียนสอนภาษาจีนในจังหวัดต่างๆ ของประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ต้องการมาท่องเที่ยวและดื่มด่ำกับวัฒนธรรมไทย

Prof. Dr. Hongjie Dong ศาสตราจารย์ด้านภาษาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยซีอาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดเผยว่า บุคคลสำคัญที่สุดที่มีบทบาทในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของสองชาติก็คือ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงดำรงฐานะเป็นทูตสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน โดยได้เสด็จฯ เยือนประเทศจีนอยู่หลายครั้ง และทรงมีส่วนสำคัญในการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ด้วยพระปรีชาสามารถในด้านต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดการสร้างสัมพันธไมตรีอันดีผ่านวัฒนธรรมไทย-จีน 

“แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด19 จนทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกเกิดการหยุดชะงัก แต่การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างไทย-จีน ก็ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านการศึกษา ที่ยังมีการขับเคลื่อนและได้รับความร่วมมืออย่างสม่ำเสมอ โดยมีการดำเนินการจัดการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น เช่น การเรียนการสอนของนักศึกษาวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์ลำปาง) ที่เรียนหลักสูตรวิชาภาษาจีน โดยนักศึกษายังคงสามารถศึกษาและเข้าใจภาษาและวัฒนธรรมจีนได้อย่างลึกซึ้งผ่านการเรียนการสอนรูปแบบออนไลน์ จากโครงการ China Studies Program(CSP)ที่ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์การศึกษาภาษา และความร่วมมือจากกระทรวงศึกษาธิการประเทศจีน ซึ่งหลักสูตรการเรียนการสอนเหล่านี้ช่วยอำนวยความสะดวกในการสื่อสาร และการพัฒนาระหว่างสถาบันการศึกษาและผู้สอนร่วมกันอีกด้วย” Prof. Dr. Hongjie Dong กล่าว

ปัจจุบันภาษาและวัฒนธรรม นับเป็นหัวใจสำคัญที่ก่อให้เกิดความสำเร็จในความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งคาดว่าเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 คลี่คลายลงแล้ว การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมไทย-จีน จะยิ่งขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะมีการส่งเสริมความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ เพื่อเป็นต้นแบบสำหรับความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศ สำหรับประเทศอื่นๆ ในระดับภูมิภาคและระดับโลกต่อไป