"ททท.ภูมิภาค" ภาคตะวันออก เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวหมู่เกาะ และทะเลภาคตะวันออก คึกคัก คาดปี 2566 “ปีส่งเสริมการท่องเที่ยว (Visit Thailand Year)” จะมีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวภาคตะวันออก 16 ล้านคน/ครั้ง รายได้ท่องเที่ยวพุ่งกว่า 100,000 ล้านบาท
วันที่ 10 ม.ค. 2566 ที่เกาะหมาก จังหวัดตราด นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้วาราชการจังหวัดตราด เป็นประธาน งานแถลงข่าวเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวหมู่เกาะ และทะเลภาคตะวันออก พร้อมนายอัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)นายพัฒนพงษ์ พงษ์ทองเจริญ ผู้อำนวยการกองบริหารความยั่งยืน ททท. นายอนุชา เทียนชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเขต 9 พื้นที่ ระยอง จันทบุรี ตราด และนายนล สุวัจนานนท์ นายกองค์การบริหารตำบลเกาะหมาก โดยมีผู้ประกอบการวงการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ในพื้นที่ และสื่อมวลชนจากส่วนกลางและท้องถิ่น ร่วมงานจำนวนมาก
นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า จังหวัดตราด การจัดกิจกรรมในวันนี้ของ ททท. มีความสอดคล้องกับในยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดตราด ที่มุ่งในเรื่องเมืองท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัด “ท่องเที่ยวอย่างมีคุณค่า เมืองน่าอยู่ เศรษฐกิจเติบโต เกษตรปลอดภัย สิ่งแวดล้อมยั่งยืน” ซึ่งหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดตราดก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามลำดับ และทุกภาคส่วนเตรียมความพร้อม และพัฒนาศักยภาพด้านการบริการต่าง ๆ เพื่อรองรับการท่องเที่ยว อาทิ สถานที่พัก โรงแรม มีมาตรการการรักษาความปลอดภัยด้านสาธารณสุข ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว ความสะดวกและความสะอาด สังคมมีคุณภาพมีคุณธรรม เป็นต้น
“ ททท. ได้มาจัดกิจกรรมแถลงข่าวที่เกาะหมาก เป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ และการได้รับรางวัลติดอันดับ Top 100 green destination ประจำปี 2565 จัดอันดับโดย www.greenfestinations.org และเกาะหมากนับเป็นที่แรกของประเทศไทยที่เป็น Low Carbon destination โดยการจัดอันดับนี้มีเกณฑ์จาก Good practice stories, governance, and reset and recovery การจัดอันดับนี้ แสดงถึงพลังความร่วมแรงร่วมใจจาก อพท. ชุมชนในพื้นที่ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องผนึกกำลังกันในการดูแลรักษาให้ยังคงเป็นเกาะหมาก Low Carbon Destination อย่างยั่งยืนต่อไป”
ด้านนายอัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก ททท. กล่าวว่า การจัดกิจกรรมเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวหมู่เกาะ และทะเลภาคตะวันออก ณ เกาะหมาก จังหวัดตราด เพื่อประชาสัมพันธ์และเป็นการประกาศให้นักท่องเที่ยวทราบว่าในช่วงเวลานี้ หมู่เกาะ และทะเลภาคตะวันออก เริ่มต้นตั้งแต่ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด มีความสวยงาม น้ำทะเลใส มีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ ประกอบกับกิจกรรมทางน้ำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น พายเรือคายัค ดำน้ำ ฟลายบอร์ด (Fly Board) ที่ชายหาดพัทยา พาราเซลลิ่ง (Parasailing) และ พายซัปบอร์ด (SUP Board) ที่สวนพฤกษศาสตร์ จังหวัดระยอง และ อ่างเก็บน้ำเขาระกำ จังหวัดตราด ซึ่งเป็นพื้นที่ Unseen New Series ของภาคตะวันออก เหมาะสำหรับสายท่องเที่ยวที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งและได้ท่องเที่ยวชมธรรมชาติไปด้วย รวมทั้งมีอาหารทะเลสดใหม่ และเป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกะปิ น้ำปลา ส้มมะปี๊ด หรือส้มจี๊ด ระกำ เร่วหอม( พืชสมุนไพร ท้องถิ่นที่พบได้ในจังหวัดตราด จันทบุรี และระยอง) กระวาน นำมาเป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหารถิ่น อาทิ น้ำพริกระกำ แกงส้มผักกระชับ แกงหมูชะมวง ข้าวคลุกพริกเกลือ ก๋วยเตี๋ยวเส้นจันท์ผัดปู ปลาย่ำสวาท และในพื้นที่ระยอง จันทบุรี ตราด ยังมีสวนผลไม้หลากหลายชนิดที่มีรสชาติอร่อย ทั้ง ทุเรียน มังคุด เงาะ สละ ลองกอง เป็นต้น ซึ่งถือว่าตอบโจทย์ทุก Lifestyle ของการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ตามนโยบายของรัฐบาลที่จะผลักดันส่งเสริมวัฒนธรรม“Soft Power” ไทยที่มีศักยภาพ 5 F (Food Film Fashion Fighting Festival) แล้ว ภาคตะวันออกก็จะขอเป็น 1 ในผู้แทนของประเทศไทย โดยขอเพิ่ม F ที่ 6 คือ F-Friendship มิตรภาพ เจ้าบ้านที่ดี หมายถึงการบริการที่ออกมาจากหัวใจ การต้อนรับประดุจญาติมิตร โดย ททท. ภูมิภาคภาคตะวันออก ได้วางพันธกิจ Mission เพื่อเป็นการบอกถึงจุดประสงค์หรือภารกิจที่จะเริ่มทำ โดยจะเชิญชวนร่วมมือกับหน่วยงาน องค์กร สถานประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่าง ๆ รวมถึงนักท่องเที่ยว ให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำเพื่อสังคม สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจชุมชน ที่ดีขึ้นอย่างยั่นยืน ภายใต้ คอนเซ็ปต์ Eastern Thailand the Destination for Sustainable Tourism
นายอัครวิชย์ ยังกล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อการผลักดันให้ “เกาะหมาก” ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ยกระดับขึ้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวต้นแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม หรือ Low Carbon Destination ด้วยการลดการปล่อยคาร์บอนจากกิจกรรมภาคการท่องเที่ยวให้น้อยกว่าแหล่งท่องเที่ยวโดยทั่วไป และยกระดับให้เกาะหมากเป็นแหล่งท่องเที่ยวต้นแบบ Circular Economy ให้กับพื้นที่อื่น ๆ ในภาคตะวันออก ที่สำคัญการส่งเสริมการท่องเที่ยวของ ททท. ภูมิภาคภาคตะวันออกจะมุ่งไปสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทราบว่า ในทุกครั้งที่ออกเดินทางท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจะต้องรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายแหล่งท่องเที่ยว ไม่เพิ่มขยะในทุกพื้นที่ที่เดินทางท่องเที่ยว และเจ้าบ้านเอง ไม่ว่าจะเป็นคนในชุมชน ผู้ประกอบการที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว ร่วมมือกันทำพื้นที่ของตนเองให้มีความสะอาด น่าอยู่ น่าเที่ยว ใช้ทรัพยากรที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม นักท่องเที่ยวจะได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่า และมีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อมบนโลกใบนี้ร่วมกัน ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องตระหนัก
โดยการจัดกิจกรรมเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวฯ ในครั้งนี้ มีการจัดกิจกรรมร่วมกับกรมป่าไม้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ภาคเอกชน และอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล ชุมชน มาให้ความรู้ถึงวิธีการดูแลรักษาต้นไม้ ร่วมกันเก็บขยะ นำขยะไปจัดเก็บอย่างถูกวิธี การสร้างชิ้นงานขยะจากทะเลเพิ่มมูลค่า ปลูกปะการัง เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรแหล่งท่องเที่ยว เป็นต้น
“ในปี 2566 ซึ่งเป็นปีส่งเสริมการท่องเที่ยว (Visit Thailand Year) ททท. ภูมิภาคภาคตะวันออก คาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวภาคตะวันออก จำนวน 16 ล้านคน/ครั้ง และรายได้ทางการท่องเที่ยวจำนวน 109,328 ล้านบาท โดย ททท. ภูมิภาคภาคตะวันออกได้ออกแคมเปญกระตุ้นให้นักท่องเที่ยว ในประเทศตัดสินใจออกเดินทางไปท่องเที่ยวภาคตะวันออก อาทิ โครงการ 365 มหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน สบ๊าย สบาย สายกิน “เที่ยวไป กินไป สบายพุง” สร้างประสบการณ์การกินผ่านกิจกรรมท่องเที่ยวแบบสบ๊าย สบาย สายกิน เที่ยวไป กินไป สบายพุง ด้วยเมนูคาว หวาน แบบฉบับภาคตะวันออก ที่มีคอนเซ็ปต์เมนูที่รังสรรจากวัตถุดิบหลัก 3 ประเภท ได้แก่ Seafood สมุนไพรป่า และผลไม้ จากแหล่งผลิตวัตถุดิบ นำมาประกอบกันเป็นเมนูสุดพิเศษ จากชุมชนท้องถิ่น ชาวสวนผลไม้ และเชฟมืออาชีพ ร่วมกันสร้างประสบการณ์การกินด้วยเรื่องราวของ Gastronomy Tourism ในรูปแบบ Live Seller โดย Chef ฝีมือคุณภาพ เชื่อมโยงสู่การส่งเสริมการขายอาหารและผลไม้ในพื้นที่ นักท่องเที่ยวสามารถสะสม Reward card “เที่ยวไป กินไป สบายพุง” เมื่อซื้ออาหารทะเลอาหารชุมชน อาหารสมุนไพร และผลไม้ภาคตะวันออก รับส่วนลดค่าที่พัก และบัตรเติมน้ำมัน สำหรับการเดินทางเข้าพื้นที่ครั้งต่อไป
โครงการ Workation วันธรรมดา ททท. เล็งเห็นโอกาสภายหลังจากวิกฤติโรคระบาด (โควิด-19) ที่ทำให้พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไป ประชาชนและนักท่องเที่ยวในปัจจุบันสามารถเดินทางท่องเที่ยวและทำงานไปพร้อมๆกัน กระแส Work From Anywhere จึงได้รับความนิยมมากขึ้น จึงมุ่งส่งเสริม ประชาสัมพันธ์ และสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบ Workation “ทำงานง่าย ได้สุขภาพ” นำเสนอเส้นทางและกิจกรรมท่องเที่ยววันธรรมดา Happy Workplace + Responsible Tourism + Wellness (ที่พัก + กิจกรรม ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Wellness หรือ CSR/RT การออกกำลังกาย อาหารเพื่อสุขภาพ)สร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบรักษ์สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ผ่อนคลายจากการทำงาน เรียนรู้ Trick สร้างสุขภาพ
นอกจากนี้ ภาคตะวันออกยังมีโปรโมชั่นที่กระตุ้นและสร้างกระแสให้ออกเดินทางท่องเที่ยวต่าง ๆ มากมาย ตลอดปี 2566 โดยสามารถอ่านข้อมูลข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ Facebook วันธรรมดาน่าเที่ยว Facebook เที่ยวตะวันออก และ Facebook ของสำนักงาน ททท. ในภาคตะวันออกทั้ง 6 สำนักงาน
ด้านนายพัฒนพงษ์ พงษ์ทองเจริญ ผู้อำนวยการกองบริหารความยั่งยืน ททท. กล่าวว่า กองบริหารความยั่งยืนททท. เรามีภารกิจเรื่องการทำcsr ซึ่งในหลายพื้นที่ลงไปทำcsr นั่น ได้พยายามให้ความสำคัญกับหน่วยงานพันธมิตรในพื้นที่ ที่จะเข้ามามีส่วนสำคัญในการทำงานเชื่อมโยงกับส่วนกลางในการอนุรักษ์หวงแหนทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ สำหรับการเดินทางมาเกาะหมากครั้งนี้ นอกจากนำคณะนักท่องเที่ยวและสื่อมวลชน มาสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามทางธรรมชาติแล้ว ยังร่วมกับกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล ทำกิจกรรมเก็บขยะบริเวณชายฝั่งเกาะนก และเกาะขายหัวเราะ เพื่อนำขยะไปให้ อบต.เกาะหมาก นำไปคัดแยกใช้ประโยชน์ และกำจัดอย่างถูกวิธี ซึ่งเป็นการไม่สร้างมลภาวะให้แหล่งท่องเที่ยวและตอบโจทย์การท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืน
#เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวหมู่เกาะและทะเลภาคตะวันออก
#เที่ยวเมืองไทยAmazingยิ่งกว่าเดิม
#สวรรค์ทะเลตราดสุดยอดธรรมชาติแดนบูรพา
#ตะวันรุ่งบูรพา
#365วันมหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน
#อื่นๆอีกมากมายท้าทายให้สัมผัส
#ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว