แม้การวิ่งจะเป็นกิจกรรมที่เรียบง่ายที่สุด แต่ทุกการออกวิ่ง ทุกคนล้วนมีเหตุผลและเป้าหมายที่แตกต่างกัน เพราะระหว่างทางของการวิ่ง มีคุณค่าให้เก็บเกี่ยวและพร้อมเปลี่ยนแปลงชีวิตเสมอ การวิ่งจึงไม่ใช่แค่เพียงขยับร่างกายไปข้างหน้า หากแต่ยังแฝงกระบวนการของการพัฒนาตนเองไปพร้อมกัน
ในตลาดสีทาบ้าน หลายคนคงคุ้นหูกับชื่อ ‘สีกัปตัน’ ซึ่งมีอายุแบรนด์กว่า 40 ปี และกิจกรรม Captain Colors Run หรือ สีกัปตัน วิ่งฟรีเพื่อเด็ก ก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อสังคมของ บริษัท กัปตัน โค๊ทติ้ง จำกัด โดยสิ่งที่ Captain Colors Run แตกต่างจากกิจกรรมเพื่อสังคมทั่วไป คือ ไม่ได้เป็นกิจกรรมที่ชักชวนให้คนออกมาวิ่ง หรือนำสิ่งของไปให้ผู้ขาดแคลนเท่านั้น แต่สิ่งที่ถูกใช้เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมนี้ คือ การวิ่งแบบเวอร์ชวล รัน วิ่งตอนไหน และวิ่งเป็นระยะทางเท่าไหร่ก็ได้ เพื่อสะสมระยะ แล้วแปลงเป็นทุนไปสนับสนุนโรงเรียนที่ขาดแคลนทั่วประเทศ นักวิ่งจึงได้ทั้งสุขภาพและความอิ่มเอมใจไปพร้อมๆ กันเลยทีเดียว
ปีนี้ Captain Colors Run จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ซึ่งระยะที่วิ่งจะเปลี่ยนเป็นคะแนน โดย 1 กิโลเมตร เท่ากับ 1 คะแนน สำหรับคะแนนที่ได้จากการวิ่งนั้น หากพื้นที่ไหนทำคะแนนได้มากสุดจะเป็นผู้ชนะ และสามารถเลือกโรงเรียนระดับประถมศึกษาที่ขาดแคลน เพื่อมอบอุปกรณ์กีฬาและสีทาอาคารได้ โดยเริ่มเก็บระยะวิ่งตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม-31 พฤษภาคม 2565
เรียกได้ว่า Captain Colors Run ประสบความสำเร็จล้นหลาม เพราะผลรวมระยะวิ่งตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา มีนักวิ่งเข้าร่วมอย่างคับคั่ง สะท้อนจากระยะทางกว่า 2 ล้านกิโลเมตร! ปีนี้จึงมอบอุปกรณ์กีฬาและสีทาอาคาร แก่อำเภอและโรงเรียนที่ได้รับการเลือกทั่วประเทศไทย 300 อำเภอ 300 โรงเรียน รวมมูลค่ากว่า 2.5 ล้านบาท
พิเศษกว่าทุกปี เพราะผู้ชนะจากกิจกรรม Captain Colors Run ปี 3 เป็นตัวแทนจาก จ. ลำพูน อีกทั้งจังหวัดนี้ยังเป็นผู้ชนะถึง 3 ปีซ้อน ได้ร่วมกับสีกัปตัน เดินทางไปจัดกิจกรรม พร้อมมอบอุปกรณ์กีฬาและสีทาอาคารแก่โรงเรียนบ้านปงแม่ลอบ สาขาห้วยฮ่อม อ. แม่ทา จ. ลำพูน พร้อมทั้งจัดกิจกรรม ‘วิ่งนี้เพื่อห้วยฮ่อม’ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยเชิญชวนนักวิ่งมาร่วมกิจกรรมวิ่งมินิมาราธอน ระยะทาง 3 กิโลเมตร และ 9 กิโลเมตร เพื่อนำรายได้จากการจัดงานสมทบทุนเป็นโครงการอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนต่อไป
วรพจน์ สุภิมารส กรรมการผู้จัดการ บริษัท กัปตัน โค๊ทติ้ง จำกัด และหนึ่งในผู้คิดกิจกรรม Captain Colors Run เล่าถึงความเป็นมาของกิจกรรมนี้ว่า โจทย์คือทำอย่างไรให้สิ่งที่มอบให้ จะสามารถเกิดประโยชน์กับผู้ที่ขาดแคลนมากที่สุด ขณะเดียวกันก็ต้องสร้างการมีส่วนร่วมให้ตัวแทน ชุมชน และสังคม ในระดับภูมิภาคมากที่สุดเช่นกัน
“เนื่องจากบริษัทมีกิจกรรมเพื่อสังคมมาโดยตลอด จึงอยากจัดกิจกรรมที่ไม่ใช่เพียงแค่การให้ แต่อยากทำกิจกรรมที่ให้คนในพื้นที่และทีมงานของบริษัทได้ทำกิจกรรมร่วมกัน จึงได้มองหากิจกรรมที่เหมาะสม
“ส่วนตัวผมเติบโตจากการเรียนโรงเรียนรัฐบาล และคุ้นเคยกับการเห็นโรงเรียนที่ขาดแคลนอุปกรณ์กีฬา จึงเกิดเป็นไอเดียการวิ่งการกุศลแบบเก็บระยะ หากพื้นที่ใดวิ่งเก็บระยะได้ตามกำหนด ก็จะมอบอุปกรณ์กีฬาและสีทาอาคารให้โรงเรียนที่ขาดแคลน ตามที่ผู้ชนะได้คัดเลือกมา เพราะเล็งเห็นว่า การวิ่งเป็นกีฬาที่ใครก็สามารถร่วมได้ และด้วยกีฬานี่แหละที่จะเป็นตัวสร้างคน ทั้งคนที่มาร่วมวิ่งเองก็จะได้พัฒนาศักยภาพ อีกทั้งโรงเรียนก็สามารถต่อยอดในการใช้กีฬาสร้างบุคลากรของประเทศชาติที่ร่างกายแข็งแรงต่อไป” วรพจน์ เล่า
ชุมชน สังคม และการแบ่งปัน
สีกัปตันเป็นแบรนด์ที่มีความผูกพันกับชุมชนมาอย่างยาวนาน เนื่องจากช่องทางการขายส่วนใหญ่จะเน้นระบบตัวแทนในภูมิภาค ซึ่งเติบโตจากการพัฒนาเมืองมาตลอด 20 ปีที่ผ่านมา
แล้วกรรมการผู้จัดการ กัปตัน โค๊ทติ้ง ก็อธิบายเพิ่มเติมว่า บริษัทมีฐานลูกค้าอยู่ทุกส่วน โดยลูกค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล กับภูมิภาค สัดส่วนไม่ต่างกัน แต่ตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ภูมิภาคมีผลบวกกับสีกัปตันมาก เพราะมีส่วนสำคัญที่ทำให้สีกัปตันเป็นที่รู้จักในชุมชน จึงเชื่อว่าทุกคนมีจังหวัด มีอำเภอที่ผูกพัน และมีความสัมพันธ์กับบ้านเกิด
“กิจกรรมนี้ทำให้เขาได้ไปรวมตัวกัน พูดถึงเรื่องเดียวกัน ถ้าทุกคนวิ่งให้อำเภอได้ วิ่งให้เด็กที่เขาอยากช่วยได้ เราเชื่อว่าทุกคนอยากจะวิ่ง นี่จึงเป็นกติกาที่เราต้องเริ่มต้นเลือกว่า จะวิ่งเพื่ออำเภอไหน และในวันที่ส่งมอบรางวัลอยากจะส่งมอบให้โรงเรียนอะไร วันนั้นไม่ใช่แค่อุปกรณ์กีฬา หรือสีกัปตันเท่านั้น แต่ชาวบ้าน นักธุรกิจในพื้นที่ และตัวแทนจำหน่ายจะเข้ามามีส่วนร่วมได้
“แนวคิดการมีส่วนร่วม เราได้สะท้อนผ่านอุปกรณ์กีฬาด้วยเช่นกัน คือ เป็นลูกฟุตบอล วอลเลย์บอล ฟุตซอล แบดมินตัน ฯลฯ ซึ่งเล่นเป็นทีม เพื่อให้เด็กนักเรียนสามารถร่วมเล่นด้วยกันได้ ไม่จำกัดเพศและวัย” วรพจน์ กล่าว
ดังนั้น Captain Colors Run จึงเป็นกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับกลุ่มตัวแทนในพื้นที่มากที่สุด เพราะเมื่อกิจกรรมถูกตั้งด้วยไอเดียของการแบ่งปันอย่างทั่วถึง ตัวแทนจัดจำหน่ายสีกัปตันฯ จะมีส่วนร่วมกับกิจกรรมในชุมชนของตัวเอง ขณะเดียวกันก็สร้างบรรยากาศความเป็นทีม ซึ่งต้องทุ่มเทสรรพกำลัง เพื่อพาอำเภอ หรือโรงเรียนที่ตัวเองผูกพันไปสู่ชัยชนะ
ร่วมแรงร่วมใจ…พาโรงเรียนที่เลือกไปถึงเส้นชัย
การเปิดโอกาสให้ใครก็ได้มาวิ่งถือเป็นการสร้างให้คนเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด ทั้งยังเป็นการแฝงถึงแนวคิดของการพัฒนาตัวเอง พร้อมกับการช่วยเหลือผู้อื่นไปด้วยกัน เพราะแม้จะวิ่งได้มากที่สุด ไกลที่สุด หรือแข็งแรงที่สุด แต่ผู้ที่ได้รับรางวัล จะเป็นอำเภอหรือโรงเรียนที่ผู้เข้าร่วมแข่งขันมีความเห็นร่วมกันว่าสมควรจะได้รับรางวัลมากที่สุด เชื่อมโยงกับผู้วิ่งมากที่สุด
“ถ้าเราอยากจะมอบอุปกรณ์กีฬา หรือมอบของรางวัลให้กับใคร เราก็อยากจะให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลนที่สุด ซึ่งการจะหาผู้เหมาะสมตรงนี้ ไม่มีใครรู้ดีกว่าคนในชุมชนแน่ๆ เพราะผู้ที่จะเลือกว่าจะให้ใคร คือนักวิ่งที่อยู่ในการแข่งขันเอง อย่างในการจัดงานเมื่อ 2 ครั้งที่ผ่านมา ในรายชื่อของผู้ชนะมีโรงเรียนที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร เดินทางลำบาก ต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ของตำรวจตระเวนชายแดน และนั่งรถขับเคลื่อน 4 ล้อเข้าไป
“เราไม่มีทางรู้เลยว่าโรงเรียนเหล่านี้มีที่ใดอีกบ้าง แต่เรื่องนี้คนในชุมชนรู้ดีกว่าใคร เพราะตอนที่เขาเริ่มวิ่ง เขาจะเลือกอำเภอ หรือเลือกโรงเรียนก่อน แล้วช่วยกันร่วมแรงร่วมใจพาโรงเรียนหรืออำเภอนั้นไปถึงเส้นชัย” วรพจน์ กล่าวถึงที่มาของไอเดียนี้ ที่ทำให้ความตั้งใจของผู้วิ่งไปถึงมือผู้ที่ต้องการได้อย่างแท้จริง
โรงเรียนจะน่าเรียน เมื่อสภาพแวดล้อมดีขึ้น
สภาพแวดล้อมที่ดีภายในโรงเรียนส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กนักเรียน ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ จิตใจ และสังคม เนื่องจากพฤติกรรมของคนสามารถปรับเปลี่ยนได้เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ดังนั้น เมื่อสภาพแวดล้อมของโรงเรียนดี ก็จะเป็นสิ่งจูงใจให้เด็กอยากมาเรียน และช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็กให้ดียิ่งขึ้นได้
หนึ่งในโรงเรียนที่ได้รับการคัดเลือกคือ โรงเรียนบ้านปงแม่ลอบ สาขาห้วยฮ่อม ซึ่งเป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษาขนาดเล็ก ตั้งอยู่กลางหุบเขา ไร้สัญญาณโทรศัพท์ และไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง ปัจจุบันมีนักเรียน 60 คน และมีครูผู้สอน 6 คน โดยยังขาดอุปกรณ์และสื่อการเรียนการสอนเป็นจำนวนมาก
อีกทั้งสภาพแวดล้อมของโรงเรียน โดยเฉพาะสีบริเวณผนังของอาคารเรียนต่างๆ เริ่มซีดจางและไร้ความสดใส ด้วยเหตุนี้ ทีมงานสีกัปตัน รวมทั้งนักเรียน บุคลากรของโรงเรียน และชาวบ้านในพื้นที่ จึงได้ร่วมแรงร่วมใจกันทาสีอาคารเรียน และเครื่องเล่นสนามกลางแจ้งของเด็กๆ เพื่อให้มีสีสันที่สดใหม่ น่าอยู่และน่าเรียนมากขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งได้มอบอุปกรณ์กีฬา มูลค่า 10,000 บาท เพื่อให้เด็กๆ ได้ใช้เรียนและออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงของเด็กนักเรียน
ชาญชัย ทิพย์ชู หัวหน้าศูนย์และครู โรงเรียนบ้านปงแม่ลอบ สาขาห้วยฮ่อม กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่สุดที่สีกัปตัน เล็งเห็นความสำคัญของการศึกษา การได้มาจัดกิจกรรมในครั้งนี้ทางโรงเรียนได้รับประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง คือ ได้รับมอบอุปกรณ์กีฬา เพื่อใช้ประกอบการเรียนวิชาพลศึกษา ซึ่งเป็นวิชาที่เด็กนักเรียนชื่นชอบที่สุด และเด็กๆ คงจะได้ใช้อุปกรณ์กีฬาที่มอบให้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด
อีกทั้งได้มอบสีทาอาคารให้กับโรงเรียน รวมถึงให้ทีมงานเข้ามาช่วยทาสี และแนะนำการทาสีอย่างถูกต้องให้กับชาวบ้านในพื้นที่อีกด้วย ซึ่งอาคารสถานที่ของโรงเรียนถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะช่วยให้เด็กนักเรียนเกิดความอยากมาเรียนมากขึ้น
“อยากขอบคุณสีกัปตัน ที่ได้เล็งเห็นว่าโรงเรียนบ้านปงแม่ลอบ สาขาห้วยฮ่อม เหมาะสมที่จะจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ในฐานะตัวแทนคณะครูและนักเรียนรู้สึกเป็นเกียรติและขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง” ชาญชัย บอกความรู้สึก
วิ่งนี้เพื่อห้วยฮ่อม…สมทบทุนอาหารกลางวันให้นักเรียน
การจัดกิจกรรม ‘วิ่งนี้เพื่อห้วยฮ่อม’ จัดขึ้นเพื่อฉลองที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ของการส่งผลวิ่งแบบเวอร์ชวล รัน ในกิจกรรม Captain Colors Run ซึ่งรายได้จากการจัดวิ่งในครั้งนี้ หลังการจัดงานจะมอบให้โรงเรียนปงแม่ลอบ สาขาห้วยฮ่อม สมทบทุนเป็นโครงการอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนต่อไป
บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความคึกคัก มีนักวิ่งจากทั่วสารทิศทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จนถึงผู้สูงอายุ ได้ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 300 คน รวมทั้ง วรพจน์ หัวเรือใหญ่ของสีกัปตัน ก็ได้ร่วมกิจกรรมวิ่งในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
อุดม ศรีติ๊บ หนึ่งในผู้ร่วมกิจกรรม ‘วิ่งนี้เพื่อห้วยฮ่อม’ และเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ในรุ่นอายุ 60 ปีขึ้นไป ระยะทางวิ่ง 9 กิโลเมตร กล่าวว่า ปัจจุบันอายุ 67 ปี และอยู่ในชมรมวิ่งของ จ. ลำพูน รู้สึกดีใจที่สีกัปตันและทีมผู้จัดงานได้จัดกิจกรรมดีๆ เพื่อสังคมแบบนี้ขึ้น นอกจากเป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพแล้ว ยังได้ช่วยเหลือเด็กนักเรียนอีกด้วย
“อยากเชิญชวนให้ทุกท่านหันมาดูแลสุขภาพร่างกายกันมากขึ้น ยิ่งปัจจุบันผมอายุมากกว่า 60 ปีแล้ว ก็รู้สึกกลัวการเป็นผู้ป่วยติดเตียง เพราะหากไม่ดูแลตนเอง ร่างกายก็พร้อมป่วยอยู่ตลอดเวลา จึงได้หันมาออกกำลังกายโดยการวิ่งทุกวัน วันละ 10-15 กิโลเมตร เพื่อให้สุขภาพร่างกายฟิตและแข็งแรงอยู่เสมอ” อุดม เชิญชวนให้ทุกคนหันมาดูแลสุขภาพ
ส่วนนักวิ่งอีกรายที่มาร่วมกิจกรรม อย่าง พงศกร ริมทอง ก็บอกถึงความรู้สึกว่า ดีใจที่สีกัปตันและทีมผู้จัดงานได้จัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้ขึ้นมา อีกทั้ง จ. ลำพูน ยังได้ครองแชมป์จากการวิ่งเวอร์ชวล รัน เป็นสมัยที่ 3
“วันนี้สนุกมาก และดีใจมากๆ ที่เห็นคนหลายวัยมาออกกำลังกายด้วยการวิ่ง ปกติผมเป็นนักวิ่งของจังหวัดลำพูนอยู่แล้ว และได้เข้าร่วมกิจกรรมวิ่งตามสถานที่ต่างๆ อยู่เสมอ อยากชวนให้ทุกคนหันมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพกันเยอะๆ” พงศกร บอก
ไม่เพียงสร้างสีสันและแต่งแต้มความสดใสให้อาคารผ่านผลิตภัณฑ์สีกัปตัน แต่สีกัปตันยังร่วมขับเคลื่อนสังคมด้วยการส่งเสริมให้ทุกคนออกกำลังกายกันมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพแล้ว ยังได้สร้างสาธารณประโยชน์อีกด้วย หากใครสนใจเข้าร่วมกิจกรรม ‘Captain Colors Run’ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของกิจกรรมผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก Captain Coating แล้วมาร่วมวิ่งเพื่อเด็กๆ ไปด้วยกันในครั้งต่อไปได้เลย!