บีโอไอ-อินฟอร์มา-ไทยซับคอน-สถาบันไทย เยอรมัน พร้อมจัดงาน Maintenance, Industrial Robotics, and Automation (MIRA) และ Subcon Thailand EEC อย่างยิ่งใหญ่ ชวนผู้ประกอบการร่วมจัดแสดงโชว์ศักยภาพไร้ขีดจำกัดของภาคอุตสาหกรรมไทย
ครั้งแรกของภูมิภาคกับการจัดงานแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรม โซลูชันอุตสาหกรรมการผลิตชั้นสูงด้านการบำรุงรักษา เทคโนโลยีหุ่นยนต์ และงานแสดงชิ้นส่วนอุตสาหกรรมแห่งภาคตะวันออก และการจับคู่เจรจาธุรกิจ ครั้งแรกในพื้นที่อีอีซี พร้อมผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมดิจิทัลและศูนย์กลางเมืองอัจฉริยะในอาเซียน วันที่ 24-26 สิงหาคมนี้ ณ สวนนงนุชพัทยา ภายหลังจากทุกภาคส่วนเดินหน้าเรียนรู้และปรับตัวในการใช้ชีวิตแบบวิถีปกติใหม่เพื่อการอยู่กับโควิด-19 ทำให้เกิดการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมไทยในปีที่ผ่านมา และการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรม 4.0 กอปรกับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นที่มีต่อเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาของอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ส่งผลให้โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พื้นที่อุตสาหกรรมที่ใหญ่ครอบคลุม 3 จังหวัดเศรษฐกิจสำคัญ และมีศักยภาพเติบโตมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ดึงดูดให้เกิดการลงทุนในภาคการผลิต โดยเฉพาะอุตสาหกรรม 4.0 และ อุตสาหกรรมแห่งอนาคตเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สถาบันไทย-เยอรมัน สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ผู้จัดงานแสดงระดับโลก จึงได้ริเริ่มจัดงาน Maintenance, Industrial Robotic, and Automation Event (MIRA) งานแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้านการซ่อมบำรุง ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ และโซลูชั่นสำหรับภาคอุตสาหกรรมระดับแนวหน้าของเมืองไทย จัดร่วมกับงาน Subcon Thailand EEC งานแสดงชิ้นส่วนอุตสาหกรรมชั้นนำในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในวันที่ 24-26 สิงหาคม 2565 ภายในศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา (NICE) พื้นที่จัดงานแสดงและศูนย์การประชุมที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่อีอีซี อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของภาคตะวันออก พร้อมเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงจังหวัดในภาคตะวันออก แสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดแห่งยุค ที่พร้อมนำพาอุตสาหกรรมของประเทศไทยเติบโตแข็งแกร่งสู่การเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคตอย่างยั่งยืน
น.ส.ซ่อนกลิ่น พลอยมี รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญในการเร่งให้เกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมและการลงทุนในประเทศไทย จึงได้มีการปรับนโยบายส่งเสริมการลงทุนให้สนับสนุนและกระตุ้นการลงทุนในอุตสาหกรรมและพื้นที่ที่สำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคศักยภาพอย่าง เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งถือเป็นพื้นที่ลงทุนสำคัญที่มีการให้สิทธิประโยชน์พิเศษเฉพาะเพิ่มเติมแก่นักลงทุน ซึ่งเหตุผลหลัก คือ รัฐบาลต้องการให้เกิดการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยบนฐานของการลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ๆ และจะทำให้เกิดโอกาสทางธุรกิจอย่างมากสำหรับผู้ผลิตและผู้ประกอบการไทย รวมทั้งจะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจของภูมิภาค การจัดงาน Subcon Thailand EEC งานแสดงชิ้นส่วนอุตสาหกรรมชั้นนำในเขตพื้นที่อีอีซี มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเชื่อมโยงจัดซื้อจัดหาชิ้นส่วนระหว่างผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศกับผู้ซื้อในประเทศในพื้นที่อีอีซี ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมสำคัญ ๆ และมีผู้ผลิตรายใหญ่รวมตัวกันอยู่เป็นหลัก เป็นภาคต่อความสำเร็จของการจัดงาน Subcon Thailand ที่จัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมเป็นประจำทุกปี สะท้อนให้เห็นว่าภาคตะวันออกยังคงเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมในประเทศ
โดยภายในงานนอกจากจะมีส่วนจัดแสดงนวัตกรรมอุตสาหกรรมเป้าหมายแล้ว ยังมีกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจ คาดว่าจะเกิดการจับคู่ภายในงาน 400 คู่ มูลค่า 1,200 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีสัมนาหัวข้อต่างๆที่น่าสนใจที่เน้นการสร้างประสิทธิภาพทางการผลิตและการสร้างความร่วมมือด้านเทคโนโลยี ซึ่งเป็นการจัดร่วมกับงาน Maintenance, Industrial Robotic, and Automation Event (MIRA) เป็นครั้งแรก ในวันที่ 24-26 สิงหาคมนี้ งานนี้จะเป็นการแสดงศักยภาพของอีอีซีและภูมิภาคตะวันออกในการเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรม S-Curve และ New S-Curve ช่วยผู้ประกอบการต่อยอดพัฒนาศักยภาพการผลิตสู่อุตสาหกรรมยุคใหม่ และเพิ่มโอกาสการจับคู่ธุรกิจแก่ผู้ประกอบการทั้งในและนอกพื้นที่อีอีซีและภูมิภาคตะวันออก” รองเลขาธิการบีโอไอกล่าว
นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวว่า อินฟอร์มา ผู้จัดงานแสดงสินค้าระดับโลก พร้อมตอบสนองนโยบายการกระจายการเติบโตและการพัฒนาอย่างทัดเทียม รุกตลาดภูมิภาค จัดงาน Maintenance, Industrial Robotics, and Automation (MIRA) และ Subcon Thailand EEC ขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งภูมิภาคตะวันออกและอีอีซีเป็นหนึ่งในภูมิภาคศักยภาพที่จะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศไทย และเป็นโครงการสำคัญของรัฐบาลที่มุ่งเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยให้ก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีการผลิต และมุ่งสู่อุตสาหกรรม 4.0 ในขณะเดียวกัน การขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลก็กำลังได้รับการยกระดับในสามจังหวัดของอีอีซี ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง เพื่อดึงดูดการลงทุนและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และงานแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้านการซ่อมบำรุง ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ และโซลูชั่นสำหรับภาคอุตสาหกรรมระดับแนวหน้าของเมืองไทย เป็นพื้นที่จัดงานเพื่อการการประชุม สัมมนา และงานแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในพื้นอีอีซีพร้อมเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงจังหวัดในภาคตะวันออก ด้วยพื้นที่ใช้สอยขนาด 15,500 ตารางเมตร จะเป็นอีกหนึ่งงานที่สำคัญของภูมิภาคที่สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. ได้ให้การสนับสนุนในการจัดงานเพื่อส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมไทย ขณะเดียวกันช่วยให้อีอีซีเป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายที่นานาชาติต่างจับตา ที่จะเข้ามาลงทุนและดำเนินธุรกิจ ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ยังส่งเสริมให้เกิดการกระจายรายได้และความเจริญสู่ชุมชน ตลอดจนแสดงความพร้อมของเมืองไมซ์ซิตี้ในฐานะศูนย์กลางภูมิภาคในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
“นอกจากจะเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการธุรกิจและผู้เข้าเยี่ยมชมงานแล้ว ยังเป็นโอกาสของผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ผู้ให้บริการ และผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง มาร่วมจัดแสดงงานเพราะสามารถพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนและเจรจาการค้ากับผู้ประกอบการ นักลงทุนตัวจริงได้โดยตรง เพื่อสร้างความสัมพันธ์ สร้างพันธมิตร และสร้างโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ เพื่อการส่งเสริมพัฒนาตนเองให้พร้อมสู้กับการแข่งขันที่ไร้พรมแดน โดยไม่ต้องเดินทางไปไกล เพราะเรายกทุกอย่างทั้งเครื่องจักร เทคโนโลยีและนวัตกรรมของอุตสาหกรรมซ่อมบำรุง หุ่นยนต์อุตสากรรม ระบบอัตโนมัติ และโซลูชั่น พร้อมเครื่องจักรและสายการผลิตที่เกี่ยวเนื่องมาร่วมกันไว้ในที่เดียวบนพื้นที่จัดแสดงอย่างครบครัน”
นายสมชาย จักรินทร์ ผู้อำนวยการ สถาบันไทย-เยอรมัน หนึ่งในหน่วยงานที่ร่วมสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้ ทางสถาบันฯ มองว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเพิ่มศักยภาพของภาคอุตสาหกรรมไทย ให้เติบโตก้าวทันเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำหน้า โดยทางสถาบันฯ จะจัดสัมมนาเสริมองค์ความรู้ผู้ประกอบการเกี่ยวกับเทคโนโลยีเกี่ยวกับการบำรุงรักษาในโรงงานอุตสาหกรรม และ เทคโนโลยีระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ เพื่อช่วยผู้ประกอบการในการลดต้นทุน เพิ่มศักยภาพการผลิต เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ การถ่ายทอดเทคโนโลยีล่าสุดที่เกี่ยวกับการผลิต ด้านหุ่นยนต์อุตสาหกรรม ระบบอัตโนมัติ และโซลูชั่นการบำรุงรักษา เพื่อขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน เพิ่มโอกาสการค้าให้กับภาคอุตสาหกรรม ซึ่งงาน MIRA และงาน Subcon Thailand EEC จะเป็นงานใหญ่สำคัญที่จะช่วยตอบโจทย์แนวทางการพัฒนาของอีอีซีได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพสูงสุด
นายเกียรติศักดิ์ จิระขจรวงศ์ นายกสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย สมาคมฯ ได้ผลักดันสมาชิกผู้ผลิตชิ้นส่วนในสมาคมโดยมีการจัดตั้งคลัสเตอร์ในอุตสาหกรรมเป้าหมายรวม 5 คลัสเตอร์ เช่น คลัสเตอร์เครื่องมือแพทย์ คลัสเตอร์อุตสาหกรรมการบิน คลัสเตอร์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ คลัสเตอร์ระบบราง และคลัสเตอร์ระบบอัตโนมัติ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับการผลิตชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมเป้าหมายมาตั้งแต่ปี 2560 เป็นการขับเคลื่อนโดยกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีพื้นฐานความรู้ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย มีความคล่องตัว และมีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนในประเทศไทย มีการปรับตัวและพัฒนาศักยภาพตนเองเพื่อโอกาสทางการค้าที่จะนำไปสู่อุตสาหกรรม S-Curve งาน Subcon Thailand EEC จึงเป็นโอกาสและเวทีสำคัญที่ผู้ประกอบการไทยจะได้แสดงศักยภาพด้านการผลิตในอุตสาหกรรมเป้าหมายได้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ พร้อมด้วยพันธมิตร ทั้งภาครัฐและเอกชน พร้อมร่วมกันจัดงาน Maintenance, Industrial Robotic, and Automation Event (MIRA) งานแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้านการซ่อมบำรุง ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ และโซลูชั่นสำหรับภาคอุตสาหกรรมระดับแนวหน้าของเมืองไทย และ Subcon Thailand EEC งานแสดงชิ้นส่วนอุตสาหกรรมชั้นนำในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พร้อมจัดสัมมนาให้ความรู้ และ Networking ครบครัน โดยเราได้ใส่ใจและให้ความสำคัญกับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เตรียมมาตรการและขั้นตอนการตรวจคัดกรอง ตามแนวทางปฏิบัติ อินฟอร์มา ออลซีคียว (AllSecure) ซึ่งเป็นมาตรฐานการดูแลรักษาความปลอดภัยและสุขอนามัยระดับโลกของอินฟอร์มา เพื่อให้ทุกท่านมั่นใจว่าจะได้รับประสบการณ์การจัดงานที่ถูกสุขอนามัย มีประสิทธิผล และเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด โดยการจัดงานครั้งนี้ครอบคลุมพื้นที่การจัดแสดงกว่า 5,000 ตรม. รวบรวมผู้จัดแสดงเครื่องจักรขั้นสูงและเทคโนโลยีล้ำสมัยจัดแสดงจากแบรนด์ชั้นนำ กว่า 250 ราย และคาดว่าจะดึงดูดผู้ซื้อที่มีคุณภาพกว่า 6,000 รายจากทั่ว อีอีซี และพื้นที่ใกล้เคียงเข้าร่วม ซึ่งทางผู้จัดงานยังพร้อมเปิดรับให้ผู้ประกอบการเข้ามาร่วมจัดแสดง โดยเรามั่นใจว่างานนี้จะเป็นอีกหนึ่งงานที่คุ้มค่า และยิ่งใหญ่สมการรอคอย ทั้งยังเป็นครั้งแรกที่ผู้ประกอบการจะได้โอกาสแสดงศักยภาพเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อให้ทั่วโลกรับรู้ถึงศักยภาพของภาคอุตสาหกรรมไทย
ทั้งนี้พบกับ งาน Maintenance, Industrial Robotic, and Automation Event (MIRA) และ Subcon Thailand EEC ครั้งแรกในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพิ่มโอกาสการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจและโอกาสในการเชื่อมโยงธุรกิจกับผู้มีอำนาจตัดสินใจจากภาครัฐและเอกชน และโอกาสในการจับคู่ธุรกิจกับผู้ผลิตชิ้นส่วนที่มีคุณภาพ พร้อมเรียนรู้จากงานสัมมนาใหญ่โดยผู้เชี่ยวชาญ และกูรูชั้นนำของประเทศต่างๆ มากมาย ในวันพุธถึงศุกร์ที่ 24-26 สิงหาคม 2565 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา (NICE) สามารถติดตามความเคลื่อนไหวและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ของงานได้ที่ www.mira-event.com