ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ว่าการอำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี นายเมฆินทร์ เอี่ยมสอาด ผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ และช่วยเหลือประชาชน พรรคประชาธิปัตย์ (BLUE HOUSE) พร้อมด้วย นางเยาวลักษมิ์ โตอนันต์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำนายกอบ เนื่องจากอยู่ อายุ 75 ปี อาศัยอยู่ที่ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี หลังจากที่หลานสาวของนายกอบ ได้ร้องมายังทางศูนย์ฯ ว่า ถูกทางโรงพยาบาลที่นาย กอบรักษาอยู่ เก็บค่าใช้จ่ายเป็นเงินจำนวนมากเนื่องจากขาดบัตรประชาชนที่จะมายืนยันในการใช้สิทธิ์หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือสิทธิบัตรทอง โดยมีนายชัยวรรณ นิยม นายอำเภอศรีมหาโพธิ และเจ้าหน้าที่อำเภอ คอยช่วยเหลือและดำเนินการ จนนายกอบได้บัตรประชาชนสมความตั้งใจ
โดยนายเมฆินทร์ระบุว่า กรณีนี้ ทางหลานสาวของนายกอบ ได้มาปรึกษากับตนว่า ไม่มีเงินเพียงพอสำหรับการจ่ายค่ารักษาของนายกอบ ตนเลยถามไปว่า แล้วได้ใช้สิทธิบัตรทองหรือยัง ปรากฏว่า ทางหลานสาวของนายกอบได้บอกว่า ไม่ได้ใช้สิทธิ์เนื่องจากไม่มีบัตรประชาชนมายืนยันตัวตน ดังนั้น ตนจึงได้รับเป็นธุระในการสืบหาข้อมูลของนายกอบ ก็พบว่า นายกอบ ได้ประกอบอาชีพเป็นชาวประมงเป็นระยะยาวนาน และเคยมีบัตรประชาชนมาแล้ว แต่บัตรประชาชนเดิมของนายกอบยังเป็นรุ่นที่เคลือบด้วยพลาสติก ซึ่งยังไม่สามารถทำการยืนยันตัวตนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ และได้มอบให้กับนายจ้างเพื่อเอาไว้อ้างอิงเวลาเบิกค่าใช้จ่ายและรับเงินเดือนเท่านั้น ซึ่งต่อจากนั้น ก็ได้สูญหายเป็นระยะเวลานาน กว่า 50 ปี ซึ่งปัจจุบันนายกอบได้อาศัยอยู่กับ นายชุมแพ บุนคร บุตรชาย และหลานสาวซึ่งเป็นบุตรของนายชุมแพ และเป็นผู้นำเรื่องมาให้ทางศูนย์ ฯ ช่วยเหลือ ทั้งนี้ เมื่อค้นข้อมูลไปอีกระยะหนึ่ง ก็พบว่า นายกอบ มีชื่ออยู่ในทะเบียนอาศัยอยู่ที่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ตามทะเบียนบ้านของนายจ้างที่เคยทำงานตั้งแต่เก่าก่อน ซึ่งปัจจุบันทายาทได้พยายามคัดชื่อนายกอบออกจากทะเบียนบ้าน ดังนั้น ตนจึงได้ประสานไปยังทาง นางเยาวลักษมิ์ โตอนันต์ หรือ ครูเล็ก และทางอำเภอศรีมหาโพธิ เพื่อช่วยดำเนินการให้นายกอบ ได้มีบัตรประชาชนเพื่อให้ได้รับสิทธิและสวัสดิการต่างๆ ตามกฎหมาย ซึ่งถือว่า เป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้นายกอบ สามารถใช้สิทธิและดำเนินชีวิตได้เหมือนกับบุคคลอื่นๆ ในสังคม
ทางด้านนายกอบ ระบุภายหลังจากที่ได้รับบัตรประชาชนใบใหม่ว่า ดีใจมากที่ได้รับบัตรประชาชนอีกครั้ง ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ตนได้อาศัยอยู่กับบุตรชายและหลานสาวของตนมาโดยตลอด ซึ่งจะคอยช่วยเหลือตนในการใช้ชีวิตประจำวัน แต่เมื่อไม่นานมานี้ ตนรู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมาก จึงต้องไหว้วานให้หลานสาวเป็นผู้พาตนไปโรงพยาบาล ปรากฏเมื่อรักษาหายแล้ว ทางโรงพยาบาลได้คิดค่ารักษาตนเป็นจำนวนเงินค่อนข้างสูง ทำให้หลานสาวของตนพยายามหาทางออก โชคดีที่ทางศูนย์ฯ โดยนายเมฆินทร์ ได้รับเรื่องและดำเนินการในการทำบัตรประชาชนให้ตนอย่างเรียบร้อย ดังนั้น ตนจึงขอขอบคุณนายเมฆินทร์ นางเยาวลักษมิ์ นายอำเภอศรีมหาโพธิ และผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน ซึ่งบัตรประชาชนที่ตนได้รับใบนี้นั้นตนจะเก็บรักษาไว้อย่างดี และจะนำมาใช้เพื่อรับสิทธิต่างๆ ที่ทางราชการดำเนินการให้กับตนด้วย
โดยนายเมฆินทร์ระบุว่า กรณีนี้ ทางหลานสาวของนายกอบ ได้มาปรึกษากับตนว่า ไม่มีเงินเพียงพอสำหรับการจ่ายค่ารักษาของนายกอบ ตนเลยถามไปว่า แล้วได้ใช้สิทธิบัตรทองหรือยัง ปรากฏว่า ทางหลานสาวของนายกอบได้บอกว่า ไม่ได้ใช้สิทธิ์เนื่องจากไม่มีบัตรประชาชนมายืนยันตัวตน ดังนั้น ตนจึงได้รับเป็นธุระในการสืบหาข้อมูลของนายกอบ ก็พบว่า นายกอบ ได้ประกอบอาชีพเป็นชาวประมงเป็นระยะยาวนาน และเคยมีบัตรประชาชนมาแล้ว แต่บัตรประชาชนเดิมของนายกอบยังเป็นรุ่นที่เคลือบด้วยพลาสติก ซึ่งยังไม่สามารถทำการยืนยันตัวตนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ และได้มอบให้กับนายจ้างเพื่อเอาไว้อ้างอิงเวลาเบิกค่าใช้จ่ายและรับเงินเดือนเท่านั้น ซึ่งต่อจากนั้น ก็ได้สูญหายเป็นระยะเวลานาน กว่า 50 ปี ซึ่งปัจจุบันนายกอบได้อาศัยอยู่กับ นายชุมแพ บุนคร บุตรชาย และหลานสาวซึ่งเป็นบุตรของนายชุมแพ และเป็นผู้นำเรื่องมาให้ทางศูนย์ ฯ ช่วยเหลือ ทั้งนี้ เมื่อค้นข้อมูลไปอีกระยะหนึ่ง ก็พบว่า นายกอบ มีชื่ออยู่ในทะเบียนอาศัยอยู่ที่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ตามทะเบียนบ้านของนายจ้างที่เคยทำงานตั้งแต่เก่าก่อน ซึ่งปัจจุบันทายาทได้พยายามคัดชื่อนายกอบออกจากทะเบียนบ้าน ดังนั้น ตนจึงได้ประสานไปยังทาง นางเยาวลักษมิ์ โตอนันต์ หรือ ครูเล็ก และทางอำเภอศรีมหาโพธิ เพื่อช่วยดำเนินการให้นายกอบ ได้มีบัตรประชาชนเพื่อให้ได้รับสิทธิและสวัสดิการต่างๆ ตามกฎหมาย ซึ่งถือว่า เป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้นายกอบ สามารถใช้สิทธิและดำเนินชีวิตได้เหมือนกับบุคคลอื่นๆ ในสังคม
ทางด้านนายกอบ ระบุภายหลังจากที่ได้รับบัตรประชาชนใบใหม่ว่า ดีใจมากที่ได้รับบัตรประชาชนอีกครั้ง ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ตนได้อาศัยอยู่กับบุตรชายและหลานสาวของตนมาโดยตลอด ซึ่งจะคอยช่วยเหลือตนในการใช้ชีวิตประจำวัน แต่เมื่อไม่นานมานี้ ตนรู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมาก จึงต้องไหว้วานให้หลานสาวเป็นผู้พาตนไปโรงพยาบาล ปรากฏเมื่อรักษาหายแล้ว ทางโรงพยาบาลได้คิดค่ารักษาตนเป็นจำนวนเงินค่อนข้างสูง ทำให้หลานสาวของตนพยายามหาทางออก โชคดีที่ทางศูนย์ฯ โดยนายเมฆินทร์ ได้รับเรื่องและดำเนินการในการทำบัตรประชาชนให้ตนอย่างเรียบร้อย ดังนั้น ตนจึงขอขอบคุณนายเมฆินทร์ นางเยาวลักษมิ์ นายอำเภอศรีมหาโพธิ และผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน ซึ่งบัตรประชาชนที่ตนได้รับใบนี้นั้นตนจะเก็บรักษาไว้อย่างดี และจะนำมาใช้เพื่อรับสิทธิต่างๆ ที่ทางราชการดำเนินการให้กับตนด้วย