สมาคมกาแฟพิเศษไทย (SCATH Specialty Coffee Association of Thailand) จับมือกับ The Cloud เอาใจคอกาแฟ จัดงาน Thailand Coffee Fest 2021 ครั้งที่ 6 งานมหกรรมกาแฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 23 - 26 ธันวาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น. ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5 - 7 เมืองทองธานี ภายใต้ธีมงาน Coffee People คนกาแฟ เพราะ ผู้คน คือ ปัจจัยสําคัญที่ทำให้วงการกาแฟไทยเติบโต และพัฒนาอย่างไม่รู้จบ โดยมี นายวัลลภ ปัสนานนท์ นายกสมาคมกาแฟพิเศษไทย และนายช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลาวด์แอนด์กราวนด์ จำกัด พร้อมด้วยพันธมิตร ร่วมกันสร้างสรรค์กิจกรรมในครั้งนี้ ตั้งเป้าเงินสะพัดในการจัดงานกว่า 400-700 ล้านบาท
ทั้งนี้ นางสาวณัฏฐ์รดา คุณะวิวัฒนานนท์ นายกสมาคมกาแฟพิเศษไทย กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ เป็นปีที่ 6 โดยร่วมกับ บริษัท คลาวด์แอนด์กราวนด์ จำกัด สานต่อความสำเร็จ ของงานมหกรรมกาแฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มุ่งส่งเสริมและผลักดันธุรกิจกาแฟไทย ให้เกิดการเติบโตในตลาดกาแฟ ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ พร้อมยังสนับสนุนผู้อยู่ในทุก ๆ กระบวนการของธุรกิจกาแฟ ตั้งแต่เกษตรกรผู้ปลูก ผู้แปรรูป โรงคั่วกาแฟ บาริสต้า จนถึงผู้บริโภค เพื่อให้วงการกาแฟไทยเติบโตไปอย่างยั่งยืน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทางภาครัฐ และเอกชน เป็นอย่างดี ในการผลักดันและสนับสนุน และถ้ามีการร่วมมือกันพัฒนาอย่างต่อเนื่องในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยน่าจะเป็นหนึ่งในกลุ่มอาเซียนที่สามารถก้าวขึ้นเป็นแหล่งผลิตกาแฟชั้นนำของโลก
สำหรับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจตลาดกาแฟไทยในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลกระทบไปทั่วโลก โดยเฉพาะในเรื่องของเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบกันอย่างมาก แต่ภาพรวมของตลาดกาแฟไทยปี 2563 เป็นไปในทิศทางบวก สวนกระแสกับตลาดอื่น ๆ คาดการณ์ว่าในปี 2564 ตลาดกาแฟสดในประเทศไทยจะโตมากขึ้น 7.2% จากสถิติที่คนไทยบริโภคกาแฟเฉลี่ยมากกว่า 300 แก้วต่อคนต่อปี ขณะที่คนยุโรปบริโภคกาแฟมากถึง 600 แก้วต่อคนต่อปี แม้สถานการณ์จะคลี่คลายลง แต่ความสนใจที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และใส่ใจในคุณภาพมากขึ้น โดยหนึ่งในชนิดกาแฟที่ได้รับความสนใจอย่างล้มหลามคือ กาแฟพิเศษ (Specialty Coffee) ที่ผ่านกระบวนการพิถีพิถัน ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ด้วยคุณภาพที่ถูกควบคุมอย่างดี จึงไม่น่าแปลกใจที่กาแฟพิเศษกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในทั้งตลาดกาแฟไทยและนานาชาติ จนเป็นที่จับตาของวงการธุรกิจกาแฟอีกด้วย และจากสถานการณ์และวิถีการทำงานแบบ Work from Home ทำให้ผู้บริโภคมีเวลาเพิ่มขึ้นในช่วงเช้า ส่งผลให้พฤติกรรมการบริโภคกาแฟเปลี่ยนไป ผู้คนหันมาซื้อเมล็ดหรือผงกาแฟมาชงเองที่บ้านมากขึ้น ผู้บริโภคหันมาให้สนใจการชงกาแฟดื่มเองมากขึ้น ทำให้ตลาดนี้กลุ่มเครื่องชงกาแฟ Home Brewing เติบโตมากถึง 10.7% ดังนั้นงาน Thailand Coffee Fest จึงเป็นที่สนใจจากทั้งผู้ผลิตกาแฟที่ออกร้านและผู้บริโภคที่จะมาจับจ่ายใช้สอยภายในงาน กลายเป็นเหมือนแรงขับเคลื่อน และพัฒนาวงการกาแฟไทยในทุกมิติ ทั้งกระบวนการผลิต บุคลากร ธุรกิจไปจนถึงคนดื่มกาแฟ และมีส่วนสำคัญในการสร้างการเติบโตของวงการกาแฟไทย และเพิ่มปริมาณประชากร นักดื่มกาแฟหน้าใหม่ให้มากขึ้น
โดย นายช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลาวด์แอนด์กราวนด์ จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าจะมีสถานการณ์การระบาดไวรัสโควิด-19 แต่ภาพรวมการตลาดกาแฟสดในประเทศไทยในช่วงตลอดเกือบ 2 ปีที่ผ่านมานั้น ยังคงเป็นตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีมาตรการล็อคดาวน์ต่างๆ เข้ามา ทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนการบริโภคกาแฟจากช่องทาง on-trade มาเป็นการบริโภคผ่านช่องทาง off-trade มากขึ้น ผู้บริโภคเกิดการเรียนรู้และเริ่มหันมาให้ความสนใจในเมล็ดกาแฟพิเศษ และกาแฟบดเพิ่มขึ้น แม้ล่าสุดสถานการณ์การระบาดไวรัสโควิด-19 จะเริ่มคลี่คลายลงแล้วก็ตาม แต่ความสนใจในเมล็ดกาแฟ ของผู้บริโภคก็จะยังคงอยู่ บวกกับเทรนด์การใส่ใจสุขภาพมาแรง โดยผู้บริโภคหันกลับมองหาทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ ทำให้ตลาดกาแฟได้รับผลบวกจากความเปลี่ยนแปลงนี้ไปด้วย
ดังนั้น งาน Thailand Coffee Fest จึงเปิดโอกาสให้ผู้ที่อยู่ต้นน้ำ ที่ตั้งใจในการสร้างสรรค์รสชาติกาแฟ ได้ออกมาสื่อสารให้ผู้ที่อยู่ปลายน้ำ อย่างผู้บริโภคได้รับรู้ถึงคุณค่าของกาแฟ และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อน และพัฒนาวงการกาแฟไทยต่อไป รวมไปถึงผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ SME สายอื่นๆ เช่น โชว์รูม, คาแฟ่ ,ร้านหนังสือ หรือแม้แต่มุมกาแฟในออฟฟิศ เป็นต้น หรือที่อยากจะต่อยอดธุรกิจของตัวเอง ด้วยการพ่วงร้านกาแฟเข้าไป ก็ถือเป็นช่องทางการเสริมรายได้ให้กับธุรกิจของตัวเอง อีกทั้งบางคนอยากจะมาหาแรงบันดาลใจ หรือข้อมูลเกี่ยวกาแฟ และการทำธุรกิจก็สามารถมาได้ในงานนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นายช้างน้อย ยังกล่าวต่อถึงภาพรวมของการจัดงาน Thailand Coffee Fest 2021 ในปีนี้ว่า จากความสำเร็จที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา ทำให้ปีนี้ได้เพิ่มพื้นที่การจัดงานกว่า 15,000 ตารางเมตร ที่ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5-7 เมืองทองธานี ซึ่งสามารถรองรับผู้ที่จะมาร่วมงานได้มากขึ้น 30% และน่าจะสร้างรายได้มีเงินสะพัดภายงานกว่า 400-700 ล้านบาท ถือเป็นงานมหกรรมที่ครบเครื่องเรื่องของกาแฟอย่างแท้จริง โดยรวมกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูก ผู้บริโภค และผู้ประกอบการ ร้านกาแฟทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 300 ร้านค้า เพื่อนำผลิตภัณฑ์กาแฟคุณภาพมาให้ได้ลิ้มลองรสชาติกันถึงที่ ควบคู่กับการรวบรวมสินค้า และบริการที่เกี่ยวข้องกับกาแฟมาไว้ภายในงานอย่างครบวงจร
พร้อมกันนี้งาน Thailand Coffee Fest ยังให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะส่วนของการตกแต่งภายในงาน ที่ปีนี้ได้ใช้วัสดุหลักเป็นผ้าที่ทำมาจากเส้นใยขวดพลาสติกรีไซเคิลกว่า 29,422 ใบ และผ้าดังกล่าวยังได้นำมาตัดเย็บเป็นเสื้อ ถุงผ้า หน้ากาก ผ้าพันคอ ผ้าแคมป์ และกระเป๋า เพื่อครีเอทกิจกรรมสำหรับผู้ร่วมงานด้วย ถือเป็นการนำทรัพยากรมาใช้ซ้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป
สำหรับความน่าสนใจในปีนี้ยังอัดแน่นด้วยกิจกรรมโซนพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น Coffee People by SCATH โซนกิจกรรมจากสมาคมกาแฟพิเศษไทย SCATH ที่จะพาทุกคนไปพบกับสุดยอดเมล็ดกาแฟไทยที่ดีที่สุด 30 ตัว ในปี 2021 จากทั้ง 3 Process ที่คัดสรรมาอย่างดี พร้อมกับการรวมตัวของนักชง ในการแข่งขันเอสเย็นชิงแชมป์โลก (World’s Es’Yen Championship) การประลองฝีมือของบาริสต้าชั้นนำในการชงกาแฟเอสเย็น เมนูกาแฟสัญชาติไทย พร้อมดื่มด่ำเรื่องราวของกาแฟด้วยกิจกรรมเสวนา อาทิ คนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนวงการกาแฟ, กาแฟดี โลกดี, อนาคตธุรกิจกาแฟหลังโควิด-19 และ เทคโนโลยีใหม่ขับเคลื่อนวงการกาแฟ จาก Guest Speaker ในแวดวงกาแฟ พร้อมทั้ง Zone Coffee Camping ซึ่งเป็นเทรนด์ฮิตในตอนนี้ เป็นการสร้างบรรยากาศของการออกแคมป์มาไว้ใจกลางงาน ให้กลุ่มคนกาแฟ ได้มานั่งล้อมวงคุยกัน
รวมทั้ง SC Coffee House หรือโซนสำหรับมือใหม่หัดดื่มที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบกาแฟแบบไหน ในโซนดังกล่าวนี้จะช่วยหาคำตอบ พร้อมให้เรียนรู้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับกาแฟไปพร้อมๆ กับคนกาแฟทุกท่าน สำหรับคนรักธรรมชาติและต้นไม้ ขอแนะนำ Zone Coffee or Tree ที่จะชวนมาดื่มกาแฟแก้วโปรดในมุมพักผ่อนหย่อนใจ ได้พบปะพูดคุยเกี่ยวกับต้นไม้ แถมสามารถเลือกซื้อต้นไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วย และปิดท้ายด้วยโซนพิเศษ ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง กับการส่งมอบกาแฟเป็นของขวัญให้กับคนพิเศษ ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงาน Thailand Coffee Fest 2021 ระหว่างวันที่ 23 - 26 ธันวาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น. ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5 - 7 เมืองทองธานี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของงานได้ที่ เว็บไซต์ http://www.thailandcoffeefest.org/Facebook: Thailand Coffee Fest , IG: thailandcoffeefest
สำหรับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจตลาดกาแฟไทยในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลกระทบไปทั่วโลก โดยเฉพาะในเรื่องของเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบกันอย่างมาก แต่ภาพรวมของตลาดกาแฟไทยปี 2563 เป็นไปในทิศทางบวก สวนกระแสกับตลาดอื่น ๆ คาดการณ์ว่าในปี 2564 ตลาดกาแฟสดในประเทศไทยจะโตมากขึ้น 7.2% จากสถิติที่คนไทยบริโภคกาแฟเฉลี่ยมากกว่า 300 แก้วต่อคนต่อปี ขณะที่คนยุโรปบริโภคกาแฟมากถึง 600 แก้วต่อคนต่อปี แม้สถานการณ์จะคลี่คลายลง แต่ความสนใจที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และใส่ใจในคุณภาพมากขึ้น โดยหนึ่งในชนิดกาแฟที่ได้รับความสนใจอย่างล้มหลามคือ กาแฟพิเศษ (Specialty Coffee) ที่ผ่านกระบวนการพิถีพิถัน ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ด้วยคุณภาพที่ถูกควบคุมอย่างดี จึงไม่น่าแปลกใจที่กาแฟพิเศษกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในทั้งตลาดกาแฟไทยและนานาชาติ จนเป็นที่จับตาของวงการธุรกิจกาแฟอีกด้วย และจากสถานการณ์และวิถีการทำงานแบบ Work from Home ทำให้ผู้บริโภคมีเวลาเพิ่มขึ้นในช่วงเช้า ส่งผลให้พฤติกรรมการบริโภคกาแฟเปลี่ยนไป ผู้คนหันมาซื้อเมล็ดหรือผงกาแฟมาชงเองที่บ้านมากขึ้น ผู้บริโภคหันมาให้สนใจการชงกาแฟดื่มเองมากขึ้น ทำให้ตลาดนี้กลุ่มเครื่องชงกาแฟ Home Brewing เติบโตมากถึง 10.7% ดังนั้นงาน Thailand Coffee Fest จึงเป็นที่สนใจจากทั้งผู้ผลิตกาแฟที่ออกร้านและผู้บริโภคที่จะมาจับจ่ายใช้สอยภายในงาน กลายเป็นเหมือนแรงขับเคลื่อน และพัฒนาวงการกาแฟไทยในทุกมิติ ทั้งกระบวนการผลิต บุคลากร ธุรกิจไปจนถึงคนดื่มกาแฟ และมีส่วนสำคัญในการสร้างการเติบโตของวงการกาแฟไทย และเพิ่มปริมาณประชากร นักดื่มกาแฟหน้าใหม่ให้มากขึ้น
โดย นายช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลาวด์แอนด์กราวนด์ จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าจะมีสถานการณ์การระบาดไวรัสโควิด-19 แต่ภาพรวมการตลาดกาแฟสดในประเทศไทยในช่วงตลอดเกือบ 2 ปีที่ผ่านมานั้น ยังคงเป็นตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีมาตรการล็อคดาวน์ต่างๆ เข้ามา ทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนการบริโภคกาแฟจากช่องทาง on-trade มาเป็นการบริโภคผ่านช่องทาง off-trade มากขึ้น ผู้บริโภคเกิดการเรียนรู้และเริ่มหันมาให้ความสนใจในเมล็ดกาแฟพิเศษ และกาแฟบดเพิ่มขึ้น แม้ล่าสุดสถานการณ์การระบาดไวรัสโควิด-19 จะเริ่มคลี่คลายลงแล้วก็ตาม แต่ความสนใจในเมล็ดกาแฟ ของผู้บริโภคก็จะยังคงอยู่ บวกกับเทรนด์การใส่ใจสุขภาพมาแรง โดยผู้บริโภคหันกลับมองหาทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ ทำให้ตลาดกาแฟได้รับผลบวกจากความเปลี่ยนแปลงนี้ไปด้วย
ดังนั้น งาน Thailand Coffee Fest จึงเปิดโอกาสให้ผู้ที่อยู่ต้นน้ำ ที่ตั้งใจในการสร้างสรรค์รสชาติกาแฟ ได้ออกมาสื่อสารให้ผู้ที่อยู่ปลายน้ำ อย่างผู้บริโภคได้รับรู้ถึงคุณค่าของกาแฟ และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อน และพัฒนาวงการกาแฟไทยต่อไป รวมไปถึงผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ SME สายอื่นๆ เช่น โชว์รูม, คาแฟ่ ,ร้านหนังสือ หรือแม้แต่มุมกาแฟในออฟฟิศ เป็นต้น หรือที่อยากจะต่อยอดธุรกิจของตัวเอง ด้วยการพ่วงร้านกาแฟเข้าไป ก็ถือเป็นช่องทางการเสริมรายได้ให้กับธุรกิจของตัวเอง อีกทั้งบางคนอยากจะมาหาแรงบันดาลใจ หรือข้อมูลเกี่ยวกาแฟ และการทำธุรกิจก็สามารถมาได้ในงานนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นายช้างน้อย ยังกล่าวต่อถึงภาพรวมของการจัดงาน Thailand Coffee Fest 2021 ในปีนี้ว่า จากความสำเร็จที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา ทำให้ปีนี้ได้เพิ่มพื้นที่การจัดงานกว่า 15,000 ตารางเมตร ที่ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5-7 เมืองทองธานี ซึ่งสามารถรองรับผู้ที่จะมาร่วมงานได้มากขึ้น 30% และน่าจะสร้างรายได้มีเงินสะพัดภายงานกว่า 400-700 ล้านบาท ถือเป็นงานมหกรรมที่ครบเครื่องเรื่องของกาแฟอย่างแท้จริง โดยรวมกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูก ผู้บริโภค และผู้ประกอบการ ร้านกาแฟทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 300 ร้านค้า เพื่อนำผลิตภัณฑ์กาแฟคุณภาพมาให้ได้ลิ้มลองรสชาติกันถึงที่ ควบคู่กับการรวบรวมสินค้า และบริการที่เกี่ยวข้องกับกาแฟมาไว้ภายในงานอย่างครบวงจร
พร้อมกันนี้งาน Thailand Coffee Fest ยังให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะส่วนของการตกแต่งภายในงาน ที่ปีนี้ได้ใช้วัสดุหลักเป็นผ้าที่ทำมาจากเส้นใยขวดพลาสติกรีไซเคิลกว่า 29,422 ใบ และผ้าดังกล่าวยังได้นำมาตัดเย็บเป็นเสื้อ ถุงผ้า หน้ากาก ผ้าพันคอ ผ้าแคมป์ และกระเป๋า เพื่อครีเอทกิจกรรมสำหรับผู้ร่วมงานด้วย ถือเป็นการนำทรัพยากรมาใช้ซ้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป
สำหรับความน่าสนใจในปีนี้ยังอัดแน่นด้วยกิจกรรมโซนพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น Coffee People by SCATH โซนกิจกรรมจากสมาคมกาแฟพิเศษไทย SCATH ที่จะพาทุกคนไปพบกับสุดยอดเมล็ดกาแฟไทยที่ดีที่สุด 30 ตัว ในปี 2021 จากทั้ง 3 Process ที่คัดสรรมาอย่างดี พร้อมกับการรวมตัวของนักชง ในการแข่งขันเอสเย็นชิงแชมป์โลก (World’s Es’Yen Championship) การประลองฝีมือของบาริสต้าชั้นนำในการชงกาแฟเอสเย็น เมนูกาแฟสัญชาติไทย พร้อมดื่มด่ำเรื่องราวของกาแฟด้วยกิจกรรมเสวนา อาทิ คนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนวงการกาแฟ, กาแฟดี โลกดี, อนาคตธุรกิจกาแฟหลังโควิด-19 และ เทคโนโลยีใหม่ขับเคลื่อนวงการกาแฟ จาก Guest Speaker ในแวดวงกาแฟ พร้อมทั้ง Zone Coffee Camping ซึ่งเป็นเทรนด์ฮิตในตอนนี้ เป็นการสร้างบรรยากาศของการออกแคมป์มาไว้ใจกลางงาน ให้กลุ่มคนกาแฟ ได้มานั่งล้อมวงคุยกัน
รวมทั้ง SC Coffee House หรือโซนสำหรับมือใหม่หัดดื่มที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบกาแฟแบบไหน ในโซนดังกล่าวนี้จะช่วยหาคำตอบ พร้อมให้เรียนรู้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับกาแฟไปพร้อมๆ กับคนกาแฟทุกท่าน สำหรับคนรักธรรมชาติและต้นไม้ ขอแนะนำ Zone Coffee or Tree ที่จะชวนมาดื่มกาแฟแก้วโปรดในมุมพักผ่อนหย่อนใจ ได้พบปะพูดคุยเกี่ยวกับต้นไม้ แถมสามารถเลือกซื้อต้นไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วย และปิดท้ายด้วยโซนพิเศษ ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง กับการส่งมอบกาแฟเป็นของขวัญให้กับคนพิเศษ ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงาน Thailand Coffee Fest 2021 ระหว่างวันที่ 23 - 26 ธันวาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น. ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5 - 7 เมืองทองธานี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของงานได้ที่ เว็บไซต์ http://www.thailandcoffeefest.org/Facebook: Thailand Coffee Fest , IG: thailandcoffeefest