"ผมมาไกลเกินฝันใครจะคาดคิด จากเด็กบ้านนอกลูกครู กู้สหกรณ์ส่งลูกเรียน จนจบปริญญาตรีพลศึกษา เกรดเฉลี่ย 2.23 (เกเร เรียนรามฯ ไม่จบ ต้องซิ่วใหม่อีกปี) เรียนจบพลศึกษามาแล้วเดินหางานจนรองเท้าสึก ตกงานหลายเดือน สุดท้ายได้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมบริษัทไทยประกันชีวิต (สำนักงานใหญ่) ทำงานเอกชน 2 ปี ชีวิตหันเหอยากมีความมั่งคงก้าวหน้าข้าราชการ จึงสอบรับราชการการตำแหน่งนักวิชาการศึกษา ระดับ 3 สำนักงานศึกษาธิการอำเภอสุไหงปาดี จ.นราธิวาส มีอุดมการณ์อย่างเต็มเปี่ยมที่จะทำเพื่อบ้านเมืองและคิดว่าจะขอรับราชการจนตายต้นทุนของแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่ถ้าเรามีอุดมการณ์ มั่งคงในหน้าที่ ไม่คดโกง รักษาอุดมการณ์ที่จะทำเพื่อบ้านเมืองไว้อย่างเหนียวแน่น และเข้าใจในคำ 3 คำ ได้แก่ บทบาท หน้าที่ และตัวตน ”
ไลฟ์สไตล์คลายเหนื่อยสัมผัสชีวิตเด็กหนุ่มอุทุมพรพิสัย ลูกพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาติ ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน มีคุณพ่อ-คุณแม่เป็นไอดอลเดินตามรอยก้าวสู่วงการยุทธจักรเสมาได้สำเร็จ เพราะหน้าที่คือสิ่งที่ต้องทำตั้งแต่เกิดจนตาย หน้าที่ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐสุดต่อตนเองและต่อบุพการีถึงผู้มีพระคุณและคนที่เรารักและคนที่รักเราด้วยการแบ่งปัน หน้าที่ต่อแผ่นดินถิ่นเกิด และหน้าที่การงานซึ่งมาพร้อมกับความรับผิดและรับชอบเสมอ
ดร.วรัท พฤกษาทวีกุล
เลขาธิการ กศน.
ผมเกิดที่บ้านหัวช้าง อ.อุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ เป็นบุตรของคุณพ่อสุคนธ์ พฤกษาทวีกุล อดีตข้าราชการครู ปัจจุบันเป็นผู้รับบำนาญ กับคุณแม่มาลี พฤกษาทวีกลุ อดีตข้าราชการครู ปัจจุบันเป็นผู้รับบำนาญ มีพี่น้อง 3 คน 1.ดร.วรัท พฤกษาทวีกุล เลขาธิการ กศน. ,2. นายวชิรากร พฤกษาทวีกุล ทำงานอยู่ที่บริษัท สยามออฟซอร์ เซอร์วิส จำกัด กทม.และ3. นางสาวสุมาวดี พฤกษากุลนันท์ ทำงานอยู่ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาสัมมากรเพลส รามคำแหง 110 กทม.
ผมเข้ารับการศึกษาตั้งแต่ชั้นอนุบาล ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนบ้านหัวช้าง (ราษฎร์บำรุง) อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ
และระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนประถมศึกษาและศึกษาต่อระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 13 ที่โรงเรียนกำแพง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ และย้ายใาศึกษาต่อระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ 3 ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนกุนนทีรุทธารามวิทยาคม เขตห้วยขวาง กทม. ศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ศิลปศาสตรบัณฑิต (ศศ.บ.) จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปริญญาโท การศึกษามหาบัณฑิต (กศ.ม.) จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และปริญญาเอก ปรัชญาดุษฏีบัณฑิต (ปร.ด.) จากมหาวิทยาลัยบูรพา
ปัจจุบันสมรสกับคุณกัญญณัช พฤกษาทวีกุล (แจ้งธรรมมา) นักวิชาการตรวจสอบภายใน กลุ่มตรวจสอบภายใน สำนักงานปลัดกระทรงศึกษาธิการ ยังไม่มีบุตร
อุดมคติในการทำงาน “ทำดีแล้ว ทำต่อไป ทำให้ดียิ่งขึ้น” และ “ประหยัด เรียบง่าย ได้ประโยชน์สูงสุด”..(ประหยัด) ก็คือ Input ตัวป้อนสำคัญ เป็นตัวเริ่มต้นในการทำงาน ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่าประเทศไทยเราทรัพยากรและงบประมาณมีอยู่จำกัดโดยเฉพาะหน่วยงานราชการ จะได้รับงบประมาณค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับความจำเป็นในภารกิจของหน่วยงาน ดังนั้นการวิเคราะห์งาน ความจำเป็น และจัดลำดับความสำคัญของการทำงาน ตลอดจนการประหยัดงบประมาณ และทรัพยากรต่างๆจะช่วยให้เราทำงานได้มากขึ้น เรียบง่าย ก็คือ Process เป็นขั้นตอนและกระบวนการในการปฏิบัติงานจริง การลดขั้นตอนในการทำงาน ลดพิธีการให้น้อยลง ไม่ต้องจัดอีเวนท์ให้มาก ลงไปสัมผัสยังหน่วยย่อยๆ เช่น จังหวัด อำเภอ และตำบล ทั้งหมดต้องอยู่บนการทำงานที่ใช้ทรัพยากรและงบประมาณให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ประเด็นสำคัญที่ต้องตระหนักเหมือนกันคือ “(เรียบง่าย แต่ไม่ใช่มักง่าย”ได้ประโยชนสูงสุด) ก็คือ Output /Outcome เป็นผลที่เกิดขึ้นจากขั้นตอนกระบวนการที่เรียบง่าย ซึ่งก็คือประสิทธิภาพ. และถ้าบรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้ ถึงเรียกว่า Outcome ซึ่งก็คือประสิทธิผล นั่นเอง. ประเด็นที่ต้องตระหนักก็คือ การได้ประโยชน์สูงสุดต้องตกถึงผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นสำคัญ ซึ่งก็หมายถึงเด็กๆนักเรียน นักศึกษา ครู ผู้ปกครอง และประชาชนของเรานั่นเอง
สำหรับอุดมคติในการสอนผู้ใต้บังคับบัญชา "บอกพี่ สอนน้อง” ได้แก่ เตรียมให้พร้อม น้อมรับทำ นำจุดเด่น เน้นคุณค่า หาโอกาส การ์ดอย่าตก พบผู้ใหญ่ ใจสำคัญ คนไม่ทำปล่อยไป และรวมใจให้ได้ ซึ่งเราต้องสร้างความสุขในการทำงาน ผูกมิตรกับเพื่อนร่วมงาน เพราะเราจะต้องเจอหน้าเขาทุกวัน เป็นน้องต้องเคารพและให้เกียรติพี่ เป็นพี่ต้องทำตัวให้คู่ควรกับความเคารพและเกียรติที่น้องให้ ...พี่ต้องเป็นผู้นำ เป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจ ถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ให้กับรุ่นน้อง เพราะในอนาคตน้องๆ จะเป็นกำลังสำคัญในการรับภาระองค์กรต่อจากเรา
จากตำแหน่งหน้าที่ที่ผมรับผิดชอบในเวลานี้คือ เลขาธิการ กศน. ผมมาไกลเกินฝันใครจะคาดคิด จากเด็กบ้านนอก ลูกครู ครูที่กู้สหกรณ์ส่งลูกเรียน ผมจบปริญญาตรีพลศึกษา ด้วยเกรดเฉลี่ย 2.23 (เกเร เรียนรามฯ ไม่จบ ต้องซิ่วใหม่อีกปี) เรียนจบพลศึกษามาแล้ว เดินหางานจนรองเท้าสึก ตกงานหลายเดือน จนสุดท้ายได้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกอบรม บริษัทไทยประกันชีวิต (สำนักงานใหญ่) ทำงานเอกชน 2 ปี เงินเดือนตอนลาออกก็เกือบหมื่น...อยากหันเหชีวิตและอยากมีความมั่งคง อยากเป็นข้าราชการ และก็สอบรับราชการการได้ บรรจุรับราชการเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2541 ตำแหน่งนักวิชาการศึกษา ระดับ 3 ที่สำนักงานศึกษาธิการอำเภอสุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับเงินเดือน 6,360 บาท มีอุดมการณ์อย่างเต็มเปี่ยมที่จะทำเพื่อบ้านเมืองและคิดว่าจะขอรับราชการจนตาย
ผมเชื่อว่าต้นทุนของแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่ถ้าเรามีอุดมการณ์ มั่งคงในหน้าที่ ไม่คดโกง รักษาอุดมการณ์ที่จะทำเพื่อบ้านเมืองไว้อย่างเหนียวแน่น และเข้าใจในคำ 3 คำ ได้แก่ “บทบาท หน้าที่ และตัวตน” บทบาท คือสิ่งที่ต้องเป็น ต้องทำให้เหมือน เมื่อใส่หัวโขน ต้องแสดงเล่นเป็นสิ่งนั้น เมื่อถอนออก ใส่หัวโขนใหม่ เปลี่ยนสถานนะใหม่ ก็เล่นเป็นตัวใหม่ หมุนเปลี่ยนไป อย่ายึดติด อย่าไปหลงกับมัน... หน้าที่ คือสิ่งที่ต้องทำตั้งแต่เกิดจนตาย ทั้งหน้าที่ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐสุด หน้าที่ต่อตนเอง หน้าที่ต่อบุพการี หน้าที่ต่อผู้มีพระคุณ หน้าที่ต่อคนที่เรารักและคนรักเรา หน้าที่การแบ่งปัน หน้าที่ต่อแผ่นดินถิ่นเกิด และหน้าที่การงานที่จะมาพร้อมกับความรับผิดและรับชอบเสมอ...ตัวตน คืออุดมคติ อุดมการณ์ ความเชื่อ ความศรัทธา นิสัยใจคอ วิถีชีวิต ทั้งที่เป็นอยู่ปัจจุบันและอยากเป็น สำหรับผม ตัวตน เรียกรวมว่าขันธ์ 5 คือ “รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ” ซึ่งรวบได้ 2 อย่างคือ “กาย และ ใจ”...กาย มี 1 คือ “รูป” นอกนั้นที่เหลือ 4 อย่าง คือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นส่วนที่เกี่ยวกับ “ใจ”ทั้งบทบาทและหน้าที่ แต่ละคนก็มีแตกต่างกันไป ไม่ควรไปก้าวก่ายของคนอื่น ทำของเราให้ดีที่สุดก็พอ..ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ขึ้นอยู่กับปัจจัยของแต่ละคน ซึ่งบทบาทและหน้าที่ จึงเป็นสิ่งที่เราต้องเป็น ต้องทำ ..ไม่ต้องโต้แย้ง ไม่ต้องชี้แจง ไม่ต้องอธิบายให้ใครรู้...ถ้ามั่นคงและมั่นใจว่า “เป็นและทำโดยธรรม” และเกิดประโยชน์ต่อผู้อื่น ต่อแผ่นดินเกิด ทำไปเถิดครับ ส่วนตัวตน ของใครของท่าน ซึ่งเป็นเหตุแห่งกรรม เป็นเมล็ดพันธุ์ที่จะให้จิตเราไปเกิดในพื้นดินในภพภูมิต่างๆ ดังนั้นความฝันของผมกลายเป็นจริงความจริงได้
สำหรับการให้เวลากับครอบครัวปกติก็จะให้เวลากับครอบครัวทุกวันอยู่แล้ว เพราะไป-กลับบ้านและที่ทำงานทุกวัน ส่วนพ่อกับแม่ที่อยู่ศรีสะเกษ ถ้าวันหยุดหลายวันก็จะขับรถไปเยี่ยมท่าน หรือบางทีท่านคิดถึงหลานๆ ก็จะมาหาที่ กทม. แล้วแต่โอกาส ในบั้นปลายของชีวิตอยากกลับไปอยู่ที่บ้าน
ไลฟ์สไตล์ส่วนตัวงานอดิเรกวันหยุดส่วนใหญ่ก็จะลงมือทำกับข้าวเอง เปิดเพลงฟังเบาๆ แต่งกลอน เล่นกีตาร์ ดีดพิณ และดูคลิป โคก หนอง นา และคลิปอื่นๆ ที่น่าจะเป็นประโยชน์กับหน้าที่ที่รับผิดชอบ ผมสะสมพระบูชา ปางต่างๆ เช่นรูปหล่อสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นต่อประเทศชาติบ้านเมือง
ส่วนความฝัน ความมุ่งมั่น หรือว่ามีความตั้งใจที่อยากจะทำอะไร ในอนาคต หากท่านสามารถทำได้. อาจเพื่อวงการศึกษา. เพื่อประชาชน. หรือเพื่ออนาคตของชาติ น้นในอนาคต ผมก็ยังคงทำงานราชการด้วยความมุ่งมั่นและเต็มที่เหมือนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดก็จะทำงานตามบทบาทหน้าที่นั้นๆที่ผู้บังคับบัญชาได้มอบหมายครับ สิ่งที่อยากเห็นที่สุดคือเด็กและเยาวชนของชาติ เป็นคนเก่งตามที่ตนถนัด เป็นคนดีเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย รับช่วงและสานต่อสังคมไทยให้คนรุ่นต่อไป....หลังจากที่เกษียณอายุราชการ อยากกลับไปอยู่บ้าน ทำโคก หนอง นา อยู่อย่างพอเพียง และมีความสุขกับครอบครัวตามอัตภาพ..สมดังคำคำขวัญ" แดนปราสาทหิน ถิ่นสะเดา ข้าวหอมดี บารมีหลวงปู่เครื่อง ลือเลื่องทับหลัง บ่อน้ำขลังศักดิ์สิทธิ์"









