“เอนก” เสนอรัฐบาลอนุมัติทำ “ศูนย์ปฎิบัติการความปลอดภัยสูงสุดระดับ 4” สำหรับทดลองทำวัคซีน ทดลองยา ทดลองการเปลี่ยนแปลงเชื้อหรือพันธุกรรม สู้สงครามเชื้อโรค พร้อมทำ“ห้องไอซียูสัญจร” รักษาผู้ป่วยทั่วไทย มอบนวัตกรรม “PAPR–ชุดกาวน์กันน้ำ” 5 พันชุดแก่ สธ.
เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานส่งมอบนวัตกรรมชุดหน้ากากป้องกันเชื้อโรคแบบคลุมศีรษะพร้อมชุดกรองอากาศประสิทธิภาพสูง (PAPR) และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล ให้กับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อรับมือสถานการณ์โควิด-19 มี นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัด สธ.เป็นผู้รับมอบ
ทั้งนี้ ศ.ดร.เอนก กล่าวว่า อว.กับ สธ. ถือเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเพื่อประชาชนต่อสู้กับโควิด-19 โดย อว.เป็นกองหนุนและมุ่งมุ่นทำงานให้ดีที่สุด ที่ผ่านมา อว. ได้เปิดศูนย์ฉีดวัคซีนและระดมฉีดให้พี่น้องประชาชนไปแล้วกว่า 8 แสนคน และได้ทำโรงพยาบาลสนาม กระจายไปทั่วประเทศ กว่า 12,000 เตียง รับผู้ป่วยมาแล้วกว่า 26,000 คน รักษาจนหายกลับบ้านได้แล้วกว่า 2 หมื่นคน ล่าสุด อว. ได้พัฒนาความเข้มแข็งด้านวิจัยและนวัตกรรมเพื่อรับมือกับโควิด-19 เช่น ชุดหน้ากากป้องกันเชื้อโรคแบบคลุมศีรษะพร้อมชุดกรองอากาศประสิทธิภาพสูง (PAPR) ฝีมือของนักวิจัยไทย มีราคาเพียง 1 หมื่นบาท ถูกกว่านำเข้าจากต่างประเทศเป็น 10 เท่า และยังได้มีการทดลองวัคซีน ซึ่งขณะนี้มาถึงระยะสุดท้ายที่ทดลองในคนแล้ว ที่สำคัญตนกำลังเสนอรัฐบาลให้อนุมัติทำศูนย์ปฎิบัติการความปลอดภัยสูงสุดระดับ 4 เพื่อทำงานด้านวิจัยและพัฒนา ผู้วิจัยจะมีระดับความปลอดภัยสูงสุดสำหรับทดลองทำวัคซีน การทดลองยา ทดลองการเปลี่ยนแปลงเชื้อหรือพันธุกรรม ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยต้องส่งไปยังห้องทดลองต่างประเทศ
รมว.อว. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ อว.กำลังดำเนินการทำห้องไอซียูสัญจรเฉพาะกิจสำหรับผู้ป่วยโควิดทั่วประเทศ ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า เราไม่ได้ทำแค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าหรือระยะใกล้เท่านั้น แต่สิ่งที่เราทำอยู่จะแก้ปัญหาทั้งในระยะปานกลางและระยะยาวด้วย ขอยืนยันว่า อว.พร้อมสนับสนุนรัฐบาลและ สธ.อย่างเต็มที่ เพราะนี่คือการจัดการกับภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่สุด เป็นการต่อสู้ในสงครามเชื้อโรคที่ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจกันทุกฝ่าย
ด้านดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผอ.สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) กล่าวว่า สธ.ได้มีหนังสือขอรับการสนับสนุนนวัตกรรมชุดหน้ากากป้องกันเชื้อโรคแบบคลุมศีรษะชุดกรองอากาศประสิทธิภาพสูง (PAPR) และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล มายัง วช.ในฐานะศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา วช.จึงสนับสนุนนวัตกรรมชุด PAPR จากสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทยจำนวน 2,500 ชุดและบริษัท พี ทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) มอบชุดกาวน์กันน้ำ จำนวน 2,500 ชุด และชุด Coverall จำนวน 100 ชุด โดยมี บริษัทผู้นำธุรกิจด้านการจัดส่งพัสดุด่วนทั่วไทยอย่าง เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้การสนับสนุนจัดส่งฟรีทั้งหมด โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อช่วยให้แพทย์ พยาบาล รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่อยู่ด่านหน้าจะได้รับชุดอย่างเร็วที่สุด ตรงตามความต้องการ และเกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากกลุ่มสหศาสตร์นวัตกรรมไทยต้านภัยโควิด หรือ ThaiMic ในการกำหนดโรงพยาบาล และจำนวนอุปกรณ์ อีกด้วย
ทั้งนี้ ศ.ดร.เอนก กล่าวว่า อว.กับ สธ. ถือเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเพื่อประชาชนต่อสู้กับโควิด-19 โดย อว.เป็นกองหนุนและมุ่งมุ่นทำงานให้ดีที่สุด ที่ผ่านมา อว. ได้เปิดศูนย์ฉีดวัคซีนและระดมฉีดให้พี่น้องประชาชนไปแล้วกว่า 8 แสนคน และได้ทำโรงพยาบาลสนาม กระจายไปทั่วประเทศ กว่า 12,000 เตียง รับผู้ป่วยมาแล้วกว่า 26,000 คน รักษาจนหายกลับบ้านได้แล้วกว่า 2 หมื่นคน ล่าสุด อว. ได้พัฒนาความเข้มแข็งด้านวิจัยและนวัตกรรมเพื่อรับมือกับโควิด-19 เช่น ชุดหน้ากากป้องกันเชื้อโรคแบบคลุมศีรษะพร้อมชุดกรองอากาศประสิทธิภาพสูง (PAPR) ฝีมือของนักวิจัยไทย มีราคาเพียง 1 หมื่นบาท ถูกกว่านำเข้าจากต่างประเทศเป็น 10 เท่า และยังได้มีการทดลองวัคซีน ซึ่งขณะนี้มาถึงระยะสุดท้ายที่ทดลองในคนแล้ว ที่สำคัญตนกำลังเสนอรัฐบาลให้อนุมัติทำศูนย์ปฎิบัติการความปลอดภัยสูงสุดระดับ 4 เพื่อทำงานด้านวิจัยและพัฒนา ผู้วิจัยจะมีระดับความปลอดภัยสูงสุดสำหรับทดลองทำวัคซีน การทดลองยา ทดลองการเปลี่ยนแปลงเชื้อหรือพันธุกรรม ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยต้องส่งไปยังห้องทดลองต่างประเทศ
รมว.อว. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ อว.กำลังดำเนินการทำห้องไอซียูสัญจรเฉพาะกิจสำหรับผู้ป่วยโควิดทั่วประเทศ ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า เราไม่ได้ทำแค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าหรือระยะใกล้เท่านั้น แต่สิ่งที่เราทำอยู่จะแก้ปัญหาทั้งในระยะปานกลางและระยะยาวด้วย ขอยืนยันว่า อว.พร้อมสนับสนุนรัฐบาลและ สธ.อย่างเต็มที่ เพราะนี่คือการจัดการกับภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่สุด เป็นการต่อสู้ในสงครามเชื้อโรคที่ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจกันทุกฝ่าย
ด้านดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผอ.สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) กล่าวว่า สธ.ได้มีหนังสือขอรับการสนับสนุนนวัตกรรมชุดหน้ากากป้องกันเชื้อโรคแบบคลุมศีรษะชุดกรองอากาศประสิทธิภาพสูง (PAPR) และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล มายัง วช.ในฐานะศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา วช.จึงสนับสนุนนวัตกรรมชุด PAPR จากสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทยจำนวน 2,500 ชุดและบริษัท พี ทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) มอบชุดกาวน์กันน้ำ จำนวน 2,500 ชุด และชุด Coverall จำนวน 100 ชุด โดยมี บริษัทผู้นำธุรกิจด้านการจัดส่งพัสดุด่วนทั่วไทยอย่าง เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้การสนับสนุนจัดส่งฟรีทั้งหมด โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อช่วยให้แพทย์ พยาบาล รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่อยู่ด่านหน้าจะได้รับชุดอย่างเร็วที่สุด ตรงตามความต้องการ และเกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากกลุ่มสหศาสตร์นวัตกรรมไทยต้านภัยโควิด หรือ ThaiMic ในการกำหนดโรงพยาบาล และจำนวนอุปกรณ์ อีกด้วย