จากกรณีที่มีคนเอาปืนพกไปยิงปลาฉลามในเขตท้องทะเลจังหวัดกระบี่ แล้วนำไปเผยแพร่ในสื่อโซเชียลจึงทำให้เกิดกระแสต่อต้านการกระทำที่ทารุณต่อสัตว์ทะเลโดยเฉพาะฉลามที่นับวันใกล้จะสูญพันธุ์และได้มีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาแต่งานนี้ไม่จบง่ายๆ เพื่อป้องกันมีให้มีการเกิดเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในอนาคต
วันที่ 29 มิ.ย.64 ที่ ห้องประชุมลำแพน ชั้น 9 กรม ทช. นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (อทช.) พร้อมด้วยนายอภิชัย เอกวนากุล และดร.พรศรี สุทธนารักษ์ รองอธิบดี ทช. พร้อมคณะผู้บริหารในสังกัด ประชุมหารือการบูรณาการการทำงานร่วมกับกองบังคับการตำรวจน้ำ
โดยพล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ มอบหมายให้ พ.ต.อ.ชณพล วันขวัญ และพ.ต.อ. ธรากร เลิศพรเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจน้ำ พร้อมคณะ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีกรณีมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงฉลามหูดำในทะเลเขตน่านน้ำของ จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2564 พร้อมทั้งหารือแนวทางในการป้องกันการกระทำความผิดกฎหมาย มาตรการในการจัดการอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยอนุรักษ์ รักษาทรัพยากรทางทะเลและสัตว์ทะเลหายากให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งจากกรณีคดีดังกล่าว ได้ตั้งข้อกล่าวหา (1) ข้อหาใช้เรือโดยไม่ได้รับอนุญาต ได้เปรียบเทียบปรับเรียบร้อยแล้วจำนวน 10,000 บาท (2) ข้อหา ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งพนักงานสอบสวนส่งอาวุธปืนของกลางไปให้กองพิสูจน์หลักฐานเพื่อดำเนินการตรวจสอบ และ (3) พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะนี้ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการประกันตัว และไม่ให้มีการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นต่อไปการทำงานร่วมกันโดยมุ่งเน้นไปที่เครือข่ายจิตอาสารักษ์ทะเล ของตำรวจน้ำในพื้นที่ ภาคประชาชน จิตอาสา พี่สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกันดูแลท้องทะเลไทย
โอกาสเดียวกันนี้ท่าน อทช. ได้มอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติยศยิ่ง“รักษ์ทะเลยิ่งชีพ” แก่ เจ้าหน้าที่กองบังคับการตำรวจน้ำ
ในส่วนของตำรวจน้ำในภาพรวมแล้วต้องกราบขอบพระคุณทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ได้มุ่งเน้นถึงการทำงานแบบประสานความร่วมมือซึ่งทางท่าน อธิบดีโสภณพร้อมที่จะสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจตราและมีนักกฎหมายให้กับเราในการที่จะปรึกษาหารือในเรื่องเกี่ยวกับการกระทำความผิดอันเกี่ยวข้องกับ ทรัพยากรทางทะเลและทรัพยากรชายฝั่ง ซึ่งการทำงานของตำรวจน้ำในการสอดส่องดูแลทรัพยากรธรรมชาติถือว่าผู้ที่กระทำความผิดนั้นเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจน้ำนอกจากส่วนนี้แล้วยังมีเรื่องเกี่ยวกับการทำประมงที่ผิดกฎหมายการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับแรงงานการบังคับ ใช้กฎหมายเกี่ยวกับสินค้าหนีภาษีต่างๆที่มาทางทะเลก็จะประสานงานกับหน่วยงานทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการกับผู้กระทำความผิดให้ถึงที่สุด
การที่เราได้ช่วยให้สัตว์อีกหนึ่งชนิดทางทะเลได้รับการคุ้มครองตรงนี้ต่างหากที่ถือเป็นความภาคภูมิใจของการปฎิบัติหน้าที่ในการที่จะดูแลสิ่งมีชีวิตให้สามารถสื่อสารสายพันธุ์อยู่คู่กับโลกใบนี้ต่อไปได้อย่างยั่งยืนและมั่นคงผู้แทนตำรวจนำ้ กล่าวไว้