อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 14 มิถุนายน ฉีดวัคซีนแล้ว 6,188,124 โดส และทั่วโลกแล้ว 2,357 ล้านโดส ใน 199 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 65.153 ล้านโดส เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 2,357 ล้านโดส ใน 199 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 36.1 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณารายประเทศพบว่าอิสราเอลได้ฉีดวัคซีนครอบคลุมเกินครึ่งของประชากรแล้ว ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 309 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 144 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 65.153 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (42.5% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 32.03 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 14 มิถุนายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 6,188,124 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 42.8% ในการฉีดวัคซีน จำนวน 2,357 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ 1.ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 14 มิถุนายน 2564 จัดสรรวัคซีนแล้วทั้งหมด 7,022,380 โดส จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 6,188,124 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น -เข็มแรก 4,531,914 โดส (6.8% ของประชากร) -เข็มสอง 1,656,210 โดส (2.5% ของประชากร) 2.จำนวนวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-14 มิ.ย. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 6,188,124 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 174,366 โดส/วัน ประกอบด้วย วัคซีน AstraZeneca - เข็มที่ 1 1,521,364 โดส - เข็มที่ 2 34,636 โดส วัคซีน Sinovac - เข็มที่ 1 3,010,550 โดส - เข็มที่ 2 1,621,574 โดส 3.สรุปข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของไทย ก. กลุ่มเป้าหมาย บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข - เข็มที่1 100.9% - เข็มที่2 86.5% ข. อสม. - เข็มที่1 22.5% - เข็มที่2 10.4% ค. ผู้มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป - เข็มที่1 6.0% - เข็มที่2 0.3% ง. ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 โรคกลุ่มโรค - เข็มที่1 7.5% - เข็มที่2 1.5% ช. เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรค - เข็มที่1 25.7% - เข็มที่2 12.7% ซ. ประชาชนทั่วไป - เข็มที่1 6.8% - เข็มที่2 2.0% รวมทุกกลุ่ม - เข็มที่1 9.1% - เข็มที่2 3.3% 4.รายงานผู้มีอาการข้างเคียงภายหลังได้รับการฉีดวัคซีน - 90.54% ไม่มีผลข้างเคียง - 9.46% มีผลข้างเคียงไม่รุนแรง ประกอบด้วย - ปวดกล้ามเนื้อ 2.27% - ปวดศีรษะ 1.69% - ปวด บวม แดง ร้อน บริเวณที่ฉีด 1.21% - เหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง 1.10% - ไข้ 0.74% - คลื่นไส้ 0.51% - ท้องเสีย 0.33% - ผื่น 0.28% - ปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง 0.22% - อาเจียน 0.14% - อื่น ๆ 0.97% 5.ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 65,153,775 โดส ได้แก่ 1.อินโดนีเซีย จำนวน 32,039,910 โดส (7.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca 2.ฟิลิปปินส์ จำนวน 6,948,549 โดส (4.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V และ AstraZeneca 3.ไทย จำนวน 6,188,124 โดส (6.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca 4.กัมพูชา จำนวน 5,428,433 โดส (17.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca และ Sinovac 5.มาเลเซีย จำนวน 4,490,270 โดส (9.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac 6.สิงคโปร์ จำนวน 4,392,067 โดส (42.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderna 7.พม่า จำนวน 2,994,900 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca 8.เวียดนาม จำนวน 1,498,323 โดส (1.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca 9.ลาว จำนวน 1,110,856 โดส (9.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V 10.บรูไน จำนวน 62,343 โดส (11.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm * คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ 6.จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค 1.เอเชียและตะวันออกกลาง 59.11% 2.อเมริกาเหนือ 16.51% 3.ยุโรป 16.52% 4.ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 5.91% 5.แอฟริกา 1.66% 6.โอเชียเนีย 0.29% 7.ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 4 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก 1.จีน จำนวน 878.52 ล้านโดส (31.4% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก) 2.สหรัฐอเมริกา จำนวน 309.32 ล้านโดส (48.3%) 3.สหภาพยุโรป จำนวน 298.35 ล้านโดส (33.6%) 4.อินเดีย จำนวน 253.20 ล้านโดส (9.3%) 8.ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน) 1.มัลดีฟส์ (65.4% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm ) 2.สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (64.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya) 3.บาห์เรน (63.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley) 4.อิสราเอล (58.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna) 5.สหราชอาณาจักร (53.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech) 6.ชิลี (53.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Sinovac) 7.มองโกเลีย (50.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm) 8.กาตาร์ (50.0%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech) 9.ฮังการี (48.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley) 10.สหรัฐอเมริกา (48.3%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Johnson&Johnso แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)