สำหรับพืชตระกูลถั่วจากออสเตรเลีย 'ลูปิน' กำลังจะกลายเป็นซูเปอร์ฟู้ดแห่งอนาคต ด้วยคุณประโยชน์ทางด้านโภชนาการทั้งปริมาณโปรตีน ไฟเบอร์สูง แต่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ ไม่มีกลูเตน และที่สำคัญ คือ มาจากธรรมชาติล้วนๆ ไม่มีการตัดแต่งพันธุกรรมใดๆ โดยชื่อของ ลูปิน อาจจะยังไม่คุ้นหูคนไทย ด้วยเป็นพืชตระกูลถั่วที่คนในแถบเมดิเตอเรเนียน และเทือกเขาแอนดีสในอเมริกาใต้กินกันเป็นประจำมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งพันธุ์ดั้งเดิมจะออกรสขมเพราะมีสารอัลคาลอยด์ ก่อนจะรับประทานต้องมีกรรมวิธีกำจัดรสขม ด้วยการแช่ในน้ำเกลือ หรือปรุงให้สุก ต้องใช้เวลานานในการเตรียมก่อนนำมารับประทาน แต่ในปัจจุบัน มีการปรับปรุงพันธุ์ให้ดีขึ้นจนไม่มีรสขม สามารถรับประทานได้เลยไม่ต้องแช่น้ำเป็นเวลานานเหมือนอย่างในอดีต ซึ่ง 'ลูปิน' นอกจากจะเป็นซูเปอร์ฟู้ดแห่งอนาคตเพราะมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่างแล้ว ยังช่วยฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ในดิน เนื่องจากเป็นพืชตระกูลถั่วที่ช่วยลดสารคาร์บอนพร้อมกับเพิ่มไนโตรเจน คืนความอุดมให้กับดินในแปลงเกษตร ทั้งนี้งานวิจัยของ ดร.วีรยา การพานิช นักวิจัยด้านโภชนาการของไทย ได้ระบุ ว่า ถั่วลูปินมีความโดดเด่นด้วยคุณค่าทางอาหารและดีต่อสุขภาพเพราะมีโปรตีนและไฟเบอร์สูง แต่มีไขมันต่ำ นอกจากนี้ยังมีปริมาณโอลิโกแซคคาไรด์สูง ซึ่งโอลิโกแซคคาไรด์เป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งทำหน้าที่เป็นพรีไบโอติกหรืออาหารชั้นดีของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ที่อาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหาร ดังนั้นจึงช่วยในระบบการย่อยและดูดซึมสารอาหารให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเมื่อเปรียบเทียบปริมาณคุณค่าทางโภชนาการถั่วลูปินแต่ละเมล็ดมีปริมาณโปรตีนถึง 40% หรือมากกว่าควินัวถึง 3 เท่า จึงเป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่มีคุณค่าสูง เหมาะกับคนที่ต้องการเสริมสร้างกล้ามเนื้อหรือกำลังเติบโต รวมทั้งมีกากใยหรือไฟเบอร์ 37% มากกว่าข้าวโอ๊ตถึง 3 เท่า นอกจากนี้ยังมีดัชนีน้ำตาลต่ำที่สุดในบรรดาธัญพืชต่างๆ ที่รับประทานกันอยู่ จึงเหมาะกับคนที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เช่น คนที่เป็นเบาหวาน หรือมีแนวโน้มจะเป็นเบาหวาน หรือคนที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงแต่ยังไม่ทันเป็นเบาหวาน พร้อมกันนี้ยังเป็นพืชที่ไร้กลูเตนโดยธรรมชาติ คนที่แพ้กลูเตนหรือเป็นโรคเซลิแอค จึงรับประทานได้อย่างปลอดภัย รวมถึงยังมีธาตุเหล็กมากกว่าเคล หรือคะน้าใบหยัก มีโพแทสเซียมมากกว่าในกล้วย และมีแมกนีเซียมสูงกว่าผักโขมอีกด้วย ด้วยคุณค่าและประโยชน์ต่างๆ เหล่านี้ ถั่วลูปินจึงได้รับความสนใจจากนักโภชนาการและผู้บริโภค รวมถึงกลายเป็นเป็นทางเลือกใหม่ที่สำหรับคนที่ไม่นิยมรับประทานเนื้อสัตว์หรือต้องการโปรตีนทางเลือกคุณภาพสูงแต่ราคาถูกกว่าเนื้อสัตว์ หรือกำลังสนใจอาหารที่ทำจากพืช หรือ แพลนท์เบส และกำลังมองหาทางเลือกซูเปอร์ฟู้ดใหม่ที่ให้คุณค่าสูงและอิ่มทน โดย นางสุวพักตร์ กัลยาณสันต์ Business Development Director บริษัท ไทย-ดับบลิวเอ ลูปิน โปรดักท์ จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่างนักธุรกิจไทยและออสเตรเลียตะวันตก และเป็นผู้ผลิต พินนารี่ สแนค ลูปิน ชิปส์ ขนมขบเคี้ยวจากถั่วลูปินในประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทนำเข้าลูปินจากรัฐออสเตรเลียตะวันตก ซึ่งเป็นแหล่งปลูกที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดย 80% ของถั่วลูปินที่คนทั่วโลกรับประทานมาจากออสเตรเลียตะวันตก ทั้งนี้บริษัทฯ ได้เปิดตัวครั้งแรกในงาน THAIFEX 2019 และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องมาตลอดจนกระทั่งเกิด พินนารี่ สแนค ลูปิน ชิปส์ ขนมอบกรอบจากถั่วลูปินและข้าวหอมมะลิที่ขึ้นชื่อของไทย ในปัจจุบัน กระแสรักสุขภาพทำให้ผู้บริโภคมองหาขนมทางเลือกใหม่ที่ดีต่อสุขภาพ ดังนั้นทางบริษัทฯ จึงได้คิดค้น พินนารี่ ขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกให้คนทุกเพศทุกวัย ให้สามารถมีความสุขกับการรับประทานขนมขบเคี้ยวได้โดยไม่รู้สึกผิด เพราะได้คุณค่าทางโภชนาการ ดีต่อสุขภาพไปพร้อมกัน เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตแอคทีฟ คนที่ใส่ใจสุขภาพ หรือแม้กระทั่งคุณพ่อคุณแม่ที่เลือกสรรอาหารและขนมที่ดีต่อสุขภาพของลูกหลาน ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ www.pinariefoods.com หรือhttps://www.facebook.com/pinariesnacksthailand/ และ https://www.instagram.com/pinariesnacks_thailand/