ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ขยายเป็นวงกว้างและมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน ในขณะที่บุคลากรทางการแพทย์กำลังต่อสู้กับวิกฤตินี้สิ่งที่ประชาชนอย่างเราทำได้ก็คือการดูแลตนเองอย่างเข้มข้น อยู่บ้านเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเว้นระยะห่างระหว่างกัน ใส่หน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อย ๆ
เป็นที่รู้กันดีว่าวิธีที่จะควบคุมการระบาดได้ดีที่สุดคือ ต้องทำให้คนส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนให้เร็วที่สุดแต่ระหว่างที่หลายคนยังต้องรอวัคซีนเพื่อเป็นอาวุธสู้สงครามในครั้งนี้ อีกหนึ่งความหวังที่หลายคนให้ความสนใจนั่นก็คือสมุนไพร ที่จะเข้ามาเป็นทางเลือกในการช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายจากภายในด้วยวิธีธรรมชาติเห็นได้จากความนิยมในการรับประทานฟ้าทลายโจร ขิง กระชาย ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้และที่น่าจับตามองมากในตอนนี้ ก็คือ “ตรีผลา” ซึ่งเป็นสมุนไพรที่ประกอบไปด้วยผลไม้หรือสมุนไพรสามชนิดคือ สมอไทย สมอพิเภกและมะขามป้อม เป็นตำรับยาที่มีปรากฏอยู่ในคัมภีร์อายุรเวชของอินเดีย“ตรีผลา”จะเป็นสมุนไพรแห่งความหวังที่จะช่วยต้านโควิด-19 ได้จริงหรือใหม่มาไขข้อข้องใจจากผู้เชี่ยวชาญที่คลุกคลีอยู่กับการวิจัยและพัฒนาสมุนไพรไทยมานาน“สายันต์ตันพานิช”
รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านอุตสาหกรรมชีวภาพสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)กล่าวว่า วว.ได้ร่วมมือกับภาคเอกชนในการนำองค์ความรู้มาต่อยอดในการวิจัยและพัฒนาโดยคัดเลือกสมุนไพรที่น่าสนใจมาสกัดในห้องปฏิบัติการเพื่อให้ได้สารสำคัญและมีการทดสอบในระดับเซลล์ว่าได้ผลจริงหรือไม่ กระบวนการวิจัยเป็นไปตามมาตรฐานสากลเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์และเกิดธุรกิจในเชิงพาณิชย์ โดยที่ผ่านมา วว. มีการวิจัยและพัฒนาสมุนไพรไทย ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงพืชเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงแมลง กำมะถัน จุลินทรีย์โพรไบโอติค ซึ่งในปัจจุบันส่วนใหญ่งานวิจัยสมุนไพรไทยจะเป็นในรูปแบบการวิจัยเพื่อใช้เป็นอาหารเสริม อาทิส้มแขก ถั่งเช่า และการวิจัยสมุนไพรที่ใช้เป็นเครื่องสำอาง สมุนไพรที่ใช้ในภาคเกษตรและสมุนไพรที่สกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยและยาดมขณะที่งานด้านวิจัยสมุนไพรไทยเพื่อใช้เป็นยารักษาโรคไทยเรายังก้าวไปถึงจุดนี้ได้น้อย “ศิรินันท์ ทับทิมเทศ”ผู้อำนวยการศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร (วว.)กล่าวเสริมในเรื่องนี้ว่า “ในทางการแพทย์แผนไทยพบว่าตรีผลามีคุณสมบัติบำรุงร่างกาย ปรับสมดุลธาตุทั้ง 4 กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี และเมื่อ วว. ได้นำมาทดสอบในห้องปฏิบัติการก็พบว่าตรีผลามีฤทธิ์ต้านการอักเสบช่วยรักษาแผล ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ต้านอนุมูลอิสระต้านเชื้อรา โดยในงานวิจัยจะมุ่งเน้นไปในทางผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางดูแลผิวผม และช่องปาก
“ชูชีพ อภิรักษ์”ผู้จัดการส่วนวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะภาคเอกชนที่ให้ความสำคัญกับการนำสมุนไพรไทยมาเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์กล่าวว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมให้กับผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องและได้มีการตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมของตนเองที่อุทยานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยบริษัทฯ พบว่าตรีผลาอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ และอยู่ในตำรับอายุรเวท มีคุณสมบัติต้านแบคทีเรียจึงได้นำมาวิจัยในห้องทดสอบของบริษัท และต่อมาได้นำมาวิจัยในเชิงลึกร่วมกับ วว. โดยทำการทดสอบในระดับเนื้อเยื่อผิวหนังจำลอง 3 มิติ (3D Skin) จนได้สารสกัดที่สามารถต้านแบคทีเรียได้ภายใน1 นาที จึงนำมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของ SALZ ได้แก่ ยาสีฟัน และน้ำยาบ้วนปาก ซึ่งคุณสมบัติที่พิเศษนี้ทำให้ SALZ ได้รับรางวัล Gold Prize จาก SeoulInternational Invention Fair 2018หรืองานประกวดและจัดแสดงสิ่งประดิษฐ์นานาชาติ ในหมวดของเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้
ในส่วนของตรีผลานั้นไลอ้อนได้นำวัตถุดิบมาจากชุมชนในจังหวัดกาญจนบุรี และนครพนมเนื่องจากมีผลผลิตที่เหมาะสมในการนำมาสกัดเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เป็นการช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนอีกทางหนึ่ง แม้ว่าปัจจุบันงานวิจัยเรื่อง “ตรีผลา” จะยังอยู่ในระดับของการพัฒนาออกมาเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ดังกล่าวมาข้างต้น แต่ในขั้นตอนการวิจัยและพัฒนาเพื่อสกัดเป็นสมุนไพรหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อใช้ต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น ยังคงต้องศึกษากันต่อไป เราจะไปสู่จุดนั้นได้หรือไม่นั้นคงต้องฝากความหวังไว้ที่นักวิจัยที่ต้องทำหน้าที่นี้อย่างเข้มข้นต่อไปข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด โทร. 0 2354 3588 www.incom.co.th อุษณีย์ถาวรกาญจน์ โทร. 081 984 5500 Email: [email protected]