พม.จัดงานวันสถาปนากระทรวงฯ ครบรอบ 15 ปี พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณผลงานด้านการพัฒนาสังคมเป็นเลิศ ให้แก่หน่วยงานในสังกัด และบริษัทภาคเอกชนที่มีผลงาน CSR ในการรับผิดชอบต่อสังคม วันนี้ (3 ต.ค.) นายณรงค์ คงคำ โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า เวลา 07.00 น. พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีสงฆ์และบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ครบรอบ 15 ปี จากนั้น เวลา 13.30 น. รมว.พม. เป็นประธานมอบโล่ประกาศเกียรติคุณผลงานด้านการพัฒนาสังคมเป็นเลิศ ให้แก่หน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม.ที่มีผลงานเป็นเลิศจำนวน 15 รางวัล และบริษัทหรือภาคเอกชนที่มีผลงาน CSR ที่มีความเป็นเลิศ จำนวน 15 รางวัล รวมจำนวนทั้งสิ้น 30 รางวัล นอกจากนี้ ยังได้เยี่ยมชมนิทรรศการ ผลิตภัณฑ์สินค้าจากบูธหน่วยงานต่างๆ การประมูลทรัพย์หลุดจำนำ และการแสดงของศิลปินวง S2S (From Street To Stars) ณ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า เนื่องด้วยประเทศไทยมีการปฏิรูประบบราชการในปี พ.ศ.2545 ส่งผลให้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 และวันนี้ (3 ต.ค.60)ตรงกับวันคล้ายวันสถาปนากระทรวง พม.ครบรอบ 15 ปี โดยที่ผ่านมา กระทรวง พม. เป็นหน่วยงานหลักด้านสังคมในการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะเด็ก เยาวชน สตรี ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ มีความมั่นคงในการดำรงชีวิต ซึ่งได้บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนในสังคม ตามวิสัยทัศน์ที่ว่า “เป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนาคนและสังคม เพื่อความอยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืน”ภายใต้เจตนารมณ์ของตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่มุ่งเน้นการดำเนินงานอย่างมีระบบและมีคุณภาพ ผลลัพธ์สู่ประชาชนที่ประสบปัญหาให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข และสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ รวมทั้งแก้ปัญหา พัฒนา สร้างความเป็นเลิศ ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และขับเคลื่อนภารกิจเร่งด่วน ตลอดจนการวางรากฐานการพัฒนาในระยะยาว ให้โอกาส เกียรติ กำลังใจแก่กลุ่มเป้าหมายต่างๆ ให้ตระหนักถึงคุณค่าของตนเอง และสามารถพัฒนาศักยภาพได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า การไปสู่เป้าหมายดังกล่าวนั้น ต้องได้รับความร่วมมือร่วมใจทั้งจากบุคลากรของกระทรวงที่สามารถบริการประชาชนอย่างมืออาชีพ และจากภาคีเครือข่ายการพัฒนาที่เกี่ยวข้อง ในการเข้ามามีส่วนร่วม ร่วมคิด ร่วมทำร่วมรับประโยชน์ในการทำงาน โดยเฉพาะความร่วมมือจากองค์กรที่ทำ CSR (Corporate Social Responsibility) ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการดำเนินกิจกรรมที่ให้ความสำคัญและคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคม ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยแห่งความสำเร็จที่จะบูรณาการภารกิจไปสู่เป้าหมายที่กำหนด โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมความเป็นเลิศของภาคีเครือข่ายที่เข้ามามีส่วนร่วมในงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวง พม. ได้พิจารณาคัดเลือกผลงานด้านการพัฒนาสังคมเป็นเลิศ เป็นผู้เข้ารับรางวัล เนื่องในโอกาส วันคล้ายวันสถาปนากระทรวง ครบรอบ 15 ปี ในวันนี้ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภทๆ ละ 15 รางวัล ได้แก่ 1) ประเภทหน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม. ที่มีผลงานเป็นเลิศ โดยพิจารณาองค์กรที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นที่ยอมรับของคนในองค์กรเชิงประจักษ์ว่าเป็นองค์กรแห่งความสุข และผู้ปฏิบัติงานมีความสุขกาย สุขใจ สุขกับสิ่งแวดล้อมรอบข้าง มีจำนวนเครือข่ายร่วมทำงานด้วย และมีสวัสดิการอื่นๆ สำหรับบุคลากรนอกเหนือจากสิทธิของทางราชการ และ 2) ประเภทบริษัทหรือภาคเอกชนที่มีผลงาน CSR ที่มีความเป็นเลิศ โดยพิจารณาบริษัทหรือภาคเอกชนที่มีผลการดำเนินงานรับผิดชอบต่อสังคมในเชิงรุก และดำเนินงานเพื่อส่งเสริม ช่วยเหลือ พัฒนากลุ่มเป้าหมายในสังคมอย่างเหมาะสม ในทุกประเด็นรวมถึงด้านการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เช่น บริษัทเมืองไทยประกันชีวิตจำกัด(มหาชน) ซึ่ง คุณแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำเจ้าของบริษัทเป็นผู้มารับรางวัล บริษัท 360 องศาเอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด โดย คุณวีรินทร์ธิรา นาทองบ่อจรัส เป็นผู้มารับรางวัล บริษัทบวรสารการพิมพ์จำกัด หรือ นิตยสารกุลสตรี ซึ่งคุณทิพวรรณ ส่งเสริมสวัสดิ์ เจ้าของนิตยสารกุลสตรีเป็นผู้มารับรางวัล เป็นต้น พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่ออีกว่า อย่างไรก็ตาม นโยบายเร่งด่วนของกระทรวง พม.ซึ่งได้ขับเคลื่อนให้เกิดเป็นรูปธรรมนั้น ในปี 2560ได้เน้นภารกิจสำคัญ 9 เรื่อง ได้แก่ 1) การป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ 2)การพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ คนพิการ 3)การเตรียมความพร้อมรองรับสังคมผู้สูงอายุ 4)การพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ 5)การพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชน 6)การสร้างความเข้มแข็งของสตรีและครอบครัว 7)การพัฒนาระบบสวัสดิการสังคม 8) การพัฒนาบทบาทประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน และ 9) การส่งเสริมพลังประชารัฐ สำหรับทิศทางการดำเนินงานของกระทรวง พม.ในปี 2561 ยังมุ่งเน้น “การเป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนาคนและสังคม เพื่อความอยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืน”โดยมีนโยบายเร่งด่วนที่ต้องขับเคลื่อนการดำเนินงานเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “การส่งเสริมพลังประชารัฐ”จะเพิ่มความเข้มข้น มุ่งเน้นให้เกิดประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์แก่ประชาชนให้มากยิ่งขึ้น ดังนั้นทุกภาคส่วนสามารถเข้ามาหนุนเสริมร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมให้มีความมั่นคง มีคุณภาพ และยั่งยืนต่อไป “การให้ความสำคัญ สนใจดูแล และสร้างแรงบันดาลใจที่จะดำเนินธุรกิจการงานเพื่อพัฒนาคนและสังคมให้มีคุณภาพ และมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลง นับเป็นสิ่งที่น่ายกย่องอย่างยิ่ง ขอแสดงความชื่นชมและยินดีกับผู้รับโล่ประกาศเกียรติคุณผลงานด้านการพัฒนาสังคมเป็นเลิศในครั้งนี้ และขอให้ทุกคนได้ร่วมภาคภูมิใจในความดีที่ทำ และยึดแนวทางนี้ขยายผลไปสู่การดำเนินทุกธุรกิจการงาน และร่วมกันขับเคลื่อนงานด้านพัฒนาสังคมใน ปี 2561 ของกระทรวง พม. ต่อไป” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวในตอนท้าย