อว. เผยฉีดวัคซีนทั่วโลกแล้ว 1,152 ล้านโดส ใน 194 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 31.4 ล้านโดส ไทยฉีดแล้วมากกว่า 1.484 ล้านโดส
เมื่อวันที่ 2 พ.ค. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 1,152 ล้านโดส ใน 194 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 21.1 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณารายประเทศพบว่าอิสราเอลได้ฉีดวัคซีนครอบคลุมเกินครึ่งของประชากรแล้ว ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 243 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 103 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 31.4 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (19.5% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 20.1 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 2 พฤษภาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 1,484,565 โดส โดยฉีดให้กับบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 51.4%
ในการฉีดวัคซีน จำนวน 1,152 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1.ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 3 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 60% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1.จีน จำนวน 265.06 ล้านโดส (9.5%)
2.สหรัฐอเมริกา จำนวน 243.46 ล้านโดส (37.9% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
3.อินเดีย จำนวน 156.64 ล้านโดส (5.7%)
2.ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1.อิสราเอล (58% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
2.มัลดีฟส์ (53.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm )
3.สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (49.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
4.บาห์เรน (41.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
5.ชิลี (38.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
6.สหรัฐอเมริกา (37.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Johnson&Johnson)
7.สหราชอาณาจักร (36.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
8.ภูฏาน (32.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford)
9.ฮังการี (30.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
10.กาตาร์ (28.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech)
3.จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1.เอเชียและตะวันออกกลาง 48.88%
2.อเมริกาเหนือ 24.25%
3.ยุโรป 17.96%
4.ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.02%
5.แอฟริกา 1.67%
6.โอเชียเนีย 0.22%
4.ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 22,984,902 โดส ได้แก่
1.สิงคโปร์ จำนวน 2,213,888 โดส (19.5% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderna
2.กัมพูชา จำนวน 2,334,709 โดส (6.9% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm
3.อินโดนีเซีย จำนวน 20,166,078 โดส (3.8% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac
4.มาเลเซีย จำนวน 1,448,066 โดส (2.2% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Sinovac
5.ลาว จำนวน 283,198 โดส (1.9% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm
6.บรูไน จำนวน 10,715 โดส (1.2% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
7.ไทย จำนวน 1,484,565 โดส (1.1% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
8.พม่า จำนวน 1,040,000 โดส (1% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
9.ฟิลิปปินส์ จำนวน 1,919,851 โดส (0.9% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
10.เวียดนาม จำนวน 506,435 โดส (0.3% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
5.ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 2 พฤษภาคม 2564
จัดสรรวัคซีนแล้วทั้งหมด 2,052,709 โดส
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 1,484,565 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 1,097,862 โดส
-เข็มสอง 386,703 โดส
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)